นายกฯ เปิด Phuket SandBox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย เฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง"

นายกฯ เปิด Phuket SandBox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทย เฉลิมพระเกียรติ "ในหลวง" ครบ 6 รอบ 72 พรรษา นำร่องประชาชนช่วยกันรักษาความสวยงามชายหาด ท้องทะเลไทย หวังขยาย 72 หาดทั่วประเทศ

เมื่อเวลา 13.50 น.วันที่ 8 ส.ค. ที่ลานโลมา หาดป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดโครงการ Phuket SandBox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยภายใต้โครงการรักษ์ 72 หาดไทย เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เยี่ยมชมนิทรรศการ “Phuket Sandbox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยเฉลิมพระเกียรติฯ เยี่ยมชมบูธอุทยานแห่งชาติสิรินาถ โดยจิตอาสาจากแอฟริกาใต้ และเยาวชนจากหมู่บ้านไม้ขาว ได้ร่วมผลิตสินค้าจากขยะทะเล เช่น พวงกุญแจ งานศิลปะจากทะเล ซึ่งนายกฯ ยังได้อุดหนุนพวงกุญแจที่ทำจากทุ่นตลับที่เป็นขยะทะเลจำนวน 4,000 บาท เพื่อเป็นกำลังใจ จากนั้น รับฟังรายงานสถานการณ์และมาตรการกำจัดขยะทะเล จ.ภูเก็ต ระยะเวลา 3 ปี ในพื้นที่ 14 หาดของ จ.ภูเก็ต เพื่อเป็นต้นแบบลดขยะชายหาด ส่งเสริมการใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม สร้างความร่วมมือกับกลุ่มผู้ค้าตามชายหาดและนักท่องเที่ยว เพื่อจัดการขยะที่ถูกต้อง ก่อนขยายไปยัง 72 หาดทั่วประเทศ นายกฯยังได้เสนอให้ประเมินผลในช่วง 2-3 เดือน ก่อนปรับให้ครอบคลุม 6 จังหวัดชายฝั่งทะเล ประกอบด้วย กระบี่ ตรัง สุราษฎร์ธานี ชลบุรี ระยอง ตราด โดยมีภูเก็ต เป็นต้นแบบ

จากนั้น นายกฯ กล่าวเปิดโครงการฯ ว่า จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการฯ โดยระบุว่า รัฐบาลได้น้อมนำแนวพระราชดำริ แนวพระราชปณิธาน และพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการพัฒนาสิ่งแวดล้อม มาเป็นแนวทางการดำเนินงาน โดยประเทศไทยได้ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ประเทศ ที่มีขยะหลุดลอยลงทะเลมากที่สุดของโลก รัฐบาลจึงเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยมอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินโครงการภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยฯ เพื่อสร้างความตระหนักให้ประชาชนช่วยกันอนุรักษ์ ดูแลรักษาความสวยงามของชายหาดและท้องทะเลไทย ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สำคัญในการสร้างรายได้ให้กับประเทศต่อไป พร้อมคาดหวังว่า ความมุ่งมั่นและทุ่มเทในการดำเนินการร่วมกันของทุกภาคส่วนในการสร้างพื้นที่ต้นแบบ ที่สร้างจิตสำนึกในการอนุรักษ์ชายหาดในวันนี้ จะเป็นก้าวสำคัญนำไปสู่การแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกบนชายหาดและในท้องทะเลอย่างยั่งยืน คงไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลและชายฝั่งของไทย ตลอดจนพร้อมที่จะส่งต่อมรดกอันล้ำค่าต่อไป

ทั้งนี้ การดำเนินโครงการดังกล่าวได้นำแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะพลาสติก ระยะที่ 2 (พ.ศ. 2566 - 2570) มาใช้เป็นกรอบแนวคิดในการจัดทำมาตรการดำเนินงาน ประกอบด้วย 4 มาตรการ คือ มาตรการที่ 1 ส่งเสริมการผลิตและขายบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีเป้าหมายการผลิต/ขายบรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จำนวนไม่น้อยกว่า 5 ชนิด พร้อมยกเลิกการผลิต/ขายพลาสติกชนิดใช้ครั้งเดียวทิ้ง จำนวนไม่น้อยกว่า 1 ชนิด 

มาตรการที่ 2 รณรงค์ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เป้าหมายคือมีผู้บริโภคใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าร้อยละ 50 และเพิ่มจำนวนผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมร้อยละ 50 ด้วยการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวรวมถึงสร้างแรงจูงใจในการปรับเปลี่ยนมาใช้ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรฯ และเพิ่มเครือข่ายรักษาสิ่งแวดล้อมหรือ Blue Citizen Community 

ส่วนมาตรการที่ 3 การจัดการขยะ อย่างถูกหลักวิชาการ โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีส่วนร่วมในการออกข้อบัญญัติท้องถิ่นในการเก็บรวบรวมและคัดแยกขยะ มีระบบการจัดการเก็บรวบรวมและคัดแยกขยะพลาสติก เป็นการยกระดับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการจัดการขยะอย่างถูกหลักวิชาการ พร้อมอบรมให้ความรู้ผู้ประกอบการเรื่องการคัดแยกขยะอย่างถูกหลักวิชาการ และการส่งเสริมธุรกิจการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะในระดับท้องถิ่น 

และมาตรการที่ 4 เก็บขยะตกค้างบริเวณชายหาดและในทะเล ไม่มีขยะตกค้างบริเวณชายหาดและในทะเล และมีระบบป้องกันการหลุดรอดของขยะจากแม่น้ำ ลำคลองลงสู่ทะเล เช่น การจัดเก็บขยะชายหาด การจัดเก็บขยะในทะเล การดักขยะปากคลอง และการสร้างเครือข่ายหาดสวยปลอดขยะ

อย่างไรก็ตาม โครงการ ภูเก็ต SandBox ต้นแบบอนุรักษ์หาดไทยฯ มีพื้นที่ดำเนินโครงการทั้งสิ้น 14 หาด ประกอบด้วย 1 หาดป่าตอง 2 หาดกะตะ 3 หาดสุรินทร์ 4 หาดยะนุ้ย 5 หาดกะตะน้อย 6 หาดกะรน 7 หาดฟรีด้อม 8 หาดพาราไดซ์ บีช 9 หาดในหาน 10 หาดราไวย์ 11 หาดแหลมกา 12 หาดลายัน 13 หาดบางเทา และ14 หาดในยาง ซึ่งการดำเนินโครงการดังกล่าวจะเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ให้เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ทางทะเลของประเทศไทย เพราะความสมบูรณ์ของทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ทุกภาคส่วนต่างร่วมแรงร่วมใจกันอนุรักษ์และฟื้นฟูจะยังคงความสมบูรณ์และยั่งยืนครอบคลุมในทุกมิติอย่างมีประสิทธิภาพและต่อเนื่องต่อไป

จากนั้น นายกฯร่วมกิจกรรม “ร่อนทรายคัดแยกขยะ” กับเยาวชน อาสาสมัคร นักท่องเที่ยวและกลุ่มก้าวพลาด โดยมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเข้ามาทักทายและขอถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นภารกิจ นายกฯไม่ได้เดินทางกลับ กทม.พร้อมคณะ โดยได้ยื่นหนังสือลาราชการ 1 วัน ในวันที่ 9 ส.ค. โดยเป็นการลากิจ