ทองแล้วจ้า

แล้วก็เป็นขวัญใจคนเดิม “น้องเทนนิส” พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ ขึ้นแท่นคว้าเหรียญทองเทควันโดโอลิมปิก ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส สร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญรางวัล 3 สมัยติด

นอกจากนี้ กีฬาอื่นๆก็ไม่น้อยหน้า ได้รับเหรียญเงิน เหรียญทองแดง จากกีฬาแบดมินตัน มวยสากลสมัครเล่น ล่าสุดต่อด้วยยกน้ำหนัก 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง

เป็น “ความสุขร่วมของคนไทย”

อารมณ์สวนทางกับคิวการเมือง เมื่อผลการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยเป็นเอกฉันท์ยุบพรรคก้าวไกล จากคดีคำร้องยุบพรรคสรุปว่า “เซาะกร่อน-บ่อนทำลาย-เป็นปฏิปักษ์-ล้มล้างการปกครอง”

ปฏิกิริยาคนค่ายส้ม นอกจากเซ็ง ผิดหวัง แต่ไม่ยี่หระ “ยักไหล่ แล้วไปต่อ”

ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ
ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ

พร้อมแรงกระเพื่อม รายการสะสมความโกรธของแนวร่วมยังเจนฯ

...

รวมทั้งที่เริ่มถามกันทั่ว “แล้วไงต่อ” คาดการณ์มองไทม์ไลน์ต่อไปของค่ายสีส้มยังไม่เรียบหรู เพราะกว่าจะได้เห็นแสงสว่างไสวปลายทาง ยังต้องยักไหล่อีกหลายช็อต

เอาแค่คิวเฉพาะหน้า “อาจารย์ไหม” ศิริกัญญา ตันสกุล และ “เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ที่คาดจะมาร่วมถือธงนำพรรคใหม่ ยังมีงานให้บริหารจัดการสารพัด

โดยเฉพาะภารกิจเลือกตั้ง ประเดิมค่ายใหม่รออยู่หลายคิว ทั้งเลือกตั้งซ่อม จ.พิษณุโลก แทน “หมออ๋อง” ปดิพัทธ์ สันติภาดา ที่ถูกเหมาลอตตัดสิทธิรอบนี้ รวมทั้งเลือกตั้ง อบจ.พิษณุโลก และราชบุรี

แล้วที่คงไม่ต้องให้คนอื่นมาบอก ทีมบริหารชุดใหม่ค่ายส้มรู้ดี ต้องจัดทัพแบบ “จิ๋วแต่แจ๋ว” โดยเฉพาะตำแหน่ง “กรรมการบริหารพรรค” จุดเสี่ยงจุดตายต้องมีจำนวนน้อยที่สุด และพร้อมเจ็บมากสุด

รวมทั้งตำแหน่งแม่ทัพใหญ่ ถ้าชื่อ “ศิริกัญญา–ณัฐพงษ์” นั่งแท่น นั่นก็เท่ากับว่าพร้อมรับความเสี่ยง เพราะยังมีชนักค้างคา ปม “ผิดจริยธรรมร้ายแรง” ที่ถูกยื่นร้องอยู่ใน ป.ป.ช.

เริ่มมีมืองานเร้าเกมให้ ป.ป.ช.เตรียมลับคม “ลงดาบสอง”

สำหรับโทษทัณฑ์คิวนี้ เฉพาะ สส.ก้าวไกลในชุดปัจจุบันติดบ่วง 30 ราย นอกจากมีชื่อของ “ศิริกัญญา–ณัฐพงษ์” ยังมีบิ๊กเนมค่ายส้มเกือบยกลอต

ปดิพัทธ์ สันติภาดา
ปดิพัทธ์ สันติภาดา

มีความเสี่ยงโทษหนัก “ห้ามเล่นการเมืองตลอดชีวิต”

และตามเงื่อนไขที่ ป.ป.ช.มีเวลาพิจารณาคำร้อง 2–3 ปี ลงล็อกดีเดย์ก่อนเลือกตั้งรอบหน้าพอดี

ฉะนั้นพรรคใหม่สีส้มจึงต้องมีแผนสำรอง จัดผู้เล่นแถว 4แถว5 รอไว้เหมือนกัน

ที่สำคัญคือแม้ประกาศเข้ม เชื่อมั่นว่า “เวลาเป็นของยังเจนฯ–อนาคตเป็นของค่ายส้ม” แต่อีกทางฝ่ายตรงข้ามมีอำนาจ กลไก มือไม้เต็มพิกัด ก็อ่านเกมออก

ในเมื่อ “ยิ่งทุบ ยิ่งโต” ก็ต้องหาสูตรแก้ทางเฉพาะหน้า เมื่อ “ยิ่งโต ก็ต้องยิ่งทุบ” และทุบไปเรื่อยๆ

ฉะนั้นแม้ถือแต้มต่อในเกมยาว แต่ชาวคณะส้มก็ต้องอึด ใส่ชุดลูกเสือพร้อม “เดินทางไกล”

ในจังหวะเดียวกับการโดนยุบพรรครอบนี้ ก็มีคิวแทรกซ้อน โดนจ้องสอยงูเห่าสีส้ม โดยใช้เหยื่อล่อให้อุดมการณ์ กลายเป็นอุดมกล้วยอุดมกิน

หลายพรรคหลายก๊กขยับเกมเพิ่มแต้ม เติมดุลกั๊กดุลกันคึกคัก

ทั้งที่มีกระแสข่าวหนาหู “คนบ้านป่าฯ” ฮึดสู้รอบสุดท้ายในเกมอำนาจ ขณะอีกด้าน ทีม “ผู้กอง” เหมือนได้รับสัญญาณจาก “ผู้มีบารมีค่ายแดง”

จัดทีมมารัว “กระสุนกล้วย” แข่งกับ “ลุงเคยรัก” เหมือนกัน

นอกจากนั้นยังต้องจับตา “เสือซุ่มสีน้ำเงิน” กับคิวทุ่มทุนสร้างเป็นงานถนัด รวมถึงพรรคเล็กค่ายน้อย ต่างก็รอดึงแต้มงูเห่าจากไร่ส้ม

นั่นก็เพราะด้วยสูตรคณิตศาสตร์การเมือง ตัวเลขเป็นสิ่งสำคัญกับการจัดสรรโควตารัฐมนตรี

การเจรจาต่อรอง “ดุลอำนาจ” ต้องมีแต้มต่อ จำนวน สส.

ทำให้ชะตากรรมลูกทัพค่ายส้มวันนี้ กลายเป็น “หมากเติมแต้ม” บนกระดานอำนาจการเมืองไปแล้ว.

ทีมข่าวการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม