รมว.สาธารณสุข เผย ครม.เคาะแผนเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ พร้อมเดินหน้าลดผู้ป่วยกลุ่มโรค NCDs หลังนายกฯ สั่งการตามรายงานสภาพัฒน์ ปลื้มทำการบ้านถูก-ส่งเสริมให้ อสม. แก้เรื่องนี้ไว้ก่อนแล้ว เล็งดัน อสม. เป็น "Care giver" ที่ สปสช. จะผลิต 5 หมื่นคน สั่งตั้งคณะทำงานเพื่อหารือเงินฌาปนกิจ อสม.

เมื่อวันที่ 6 ส.ค.67 ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานการประชุมผู้บริหารระดับสูงกระทรวงสาธารณสุข ครั้งที่ 7/2567 โดยมี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข พล.ร.ท.นพ.นิกร เพชรวีระกุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข รองปลัดกระทรวง อธิบดีกรมต่างๆ และผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข เข้าร่วม

โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีวันนี้ ตนได้เสนอยุทธศาสตร์การปฏิรูปกำลังคน และภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบระยะ 10 ปี เรียบร้อยแล้ว เพื่อแก้ปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน โดย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข ติดตามงานด้านจิตเวช ปัญหาสังคม คนโสด ดูแลครอบครัว และเฝ้าระวังการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรค NCDs หรือกลุ่มโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ซึ่งเรื่องนี้ กระทรวงสาธารณสุข ได้รณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง ถือว่าทำการบ้านไว้ถูกต้อง ดังนั้นตนขอให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเดินหน้าทำเรื่องโรค NCDs ต่อไป ในการให้ อสม. ช่วยสร้างความรู้ให้กับประชาชน เพราะกลุ่มโรคนี้เกิดจากการกินอาหาร ซึ่งถ้ามีการแนะนำให้กินอย่างถูกต้องและเหมาะสม ก็จะช่วยลดผู้ป่วยได้

...

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การประชุมวันนี้ ตนขอตั้งคณะทำงานเพื่อหารือเงินฌาปนกิจ อสม. โดยขอมอบหมายให้ นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธาน เพื่อไปพูดคุยกับธนาคารทั้งของรัฐและเอกชน 2-3 แห่ง ในเรื่องดอกเบี้ยที่จะให้ อสม. สามารถนำเงินฌาปนกิจออกมาใช้ก่อนได้บางส่วน โดยเรื่องนี้ต้องรีบดำเนินการ เพราะ อสม.ให้ความสนใจเรื่องนี้เป็นอย่างมาก รวมถึงการประชุม สปสช.เมื่อวานที่ผ่านมา ก็ได้มีการพิจารณาข้อเสนอการส่งเสริมอาสาสมัครบริบาลท้องถิ่น หรือ Care giver ที่จะมีหน้าที่ดูแลผู้สูงอายุ และผู้ป่วยติดเตียงตามบ้าน โดยจะให้ อสม. หรือลูกหลาน อสม. เข้ามาเป็น Care giver ได้ด้วย ซึ่งมีการตั้งกรอบไว้ประมาณ 5 หมื่นคน

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า วันนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบยุทธศาสตร์การปฏิรูปกำลังคน และภารกิจบริการด้านสาธารณสุขในภาพรวมทั้งระบบระยะ 10 ปีแล้ว โดยการประชุมผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ก็มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ คือ ร่าง พ.ร.บ.ระเบียบข้าราชการกระทรวงสาธารสุข ที่จะแยกตัวออกจาก กพ. ซึ่งความคืบหน้าร่างกฎหมายนั้น ได้รับฟังความคิดเห็นเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็จะมีการสรุปผลการรับฟังความคิดเห็น และวิเคราะห์ผลกระทบ จากนั้นวันที่ 13 ส.ค.นี้ ก็จะเสนอตน เพื่อพิจารณาเห็นชอบ และส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า การประชุม ครม.ยังมีรายงานของสภาพัฒน์ที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงสาธารณสุขเข้าที่ประชุมด้วย นายกฯ จึงได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามรายงานของสภาพัฒน์ด้วย คือ การดูแลป้องกันโรค NCDs ซึ่งให้ช่วยขับเคลื่อนให้มีผู้ป่วยโรค NCDs น้อยลง โดยตรงกับแนวทางที่ตนได้ให้ อสม. ช่วยขับเคลื่อนก่อนหน้านี้แล้ว นอกจากนี้ การประชุมผู้บริหารกระทรวงยังได้มีการรับทราบผลการประชุม สปสช. เรื่อง Care giver ที่จะผลิต 5 หมื่นคน ซึ่งจะให้ อสม. หรือ ลูกหลาน อสม. เป็นทางเลือก โดยถือเป็นการติดอาวุธให้กับ อสม. ในการเพิ่มความรู้ดูแลสุขภาพของประชาชน