“เลขาฯ ไบโอไทย” บอก เป็นเรื่องดีที่ CPF จะฟ้องร้อง เหตุนำเสนอต้นตอปลาหมอคางดำระบาด เพราะจะได้พิสูจน์ในชั้นศาล ยันมีหลักฐานชัดเรื่อง DNA และพื้นที่ระบาด
วันที่ 1 สิงหาคม 2567 อาคารรัฐสภา นายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ เลขาธิการมูลนิธิชีววิถี หรือ BIO Thai กล่าวก่อนเข้าชี้แจง กรรมาธิการ พิจารณาศึกษาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขปัญหา รวมถึงผลกระทบจากการนำเข้าปลาหมอคางดำ กรณีถูก CPF เตรียมจะยื่นฟ้องร้องจากการออกมาเปิดเผยเรื่องการแพร่ระขาดปลาหมอคางดำว่า วันนี้ถือเป็นโอกาสดีที่คณะอนุกรรมาธิการเชิญไบโอไทยมาให้ข้อมูล เพราะพื้นที่ของ กมธ.เป็นพื้นที่ที่ทั้งเอกชนและภาคประชาสังคมหรือประชาชนควรจะให้โอกาสในการค้นหาความจริงเรื่องนี้ และการที่เอกชนไม่ได้มาชี้แจงด้วยตนเองอาจจะขาดโอกาสที่ว่านี้ ประเด็นที่เอกชนฟ้องไบโอไทย หรืออาจจะไม่พร้อมในขณะนี้ แต่มีการแถลงว่าจะดำเนินคดี เป็นโอกาสดีที่หลักฐานอันดีทั้งหมดชี้ให้เห็นว่าศูนย์กลางการระบาดของปลาหมอคางดำ มาจากบริเวณรอบฟาร์มยี่สาร และฟาร์มยี่สารก็เป็นส่วนหนึ่งของการที่ทำให้เกิดการระบาด เป็นเรื่องดีที่ข้อมูลเหล่านี้จะได้นำเข้าสู่ชั้นศาล และจะได้เห็นหลักฐานอื่นๆ อีกที่ไบโอไทยจะเสนอในโอกาสต่อไป
จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่เห็นหลักฐานใดมายืนยันว่าไม่มีการเลี้ยงปลาที่ฟาร์มยี่สาร และการส่งตัวอย่างปลาให้กรมประมง และวันนี้เอกสารที่ทางไบโอไทยเตรียมมาทาง กมธ.อาจจะยังไม่เคยเห็นข้อมูลนี้ และ กมธ.อาจจะไม่ได้โฟกัสในประเด็นนั้น ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่ไบโอไทยจะชี้ให้เห็นถึงรายงานเรื่อง DNA และข้อมูลใหม่ ซึ่งจะต้องหารือกับกรรมาธิการว่าจะใช้ข้อมูลที่ไบโอไทยมีเป็นจำนวนมากอย่างไร และคนที่รู้เรื่องนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฟาร์มยี่สารมีเป็นจำนวนมาก แต่กลไกที่รัฐและสื่อมวลชนจะเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นเป็นเรื่องที่จะต้องหารือในที่ประชุมวันนี้
...
นายวิฑูรย์ ยังกล่าวถึงประเด็นสำคัญที่คณะกรรมาธิการยังไม่ได้เห็นคือการตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาเส้นทางการระบาดของกรมประมงเมื่อปี 2565 หลายส่วนบ่งชี้ไปที่แหล่งที่มาแหล่งเดียวกัน หากไปดูอย่างละเอียดนักวิจัยพูดชัดเจน การระบาดที่เกิดขึ้นนั้นไม่ได้เกิดจากการนำเข้า รวมถึงรายงานการระบาดที่ชัดเจน ซึ่งยังไม่มีการเผยแพร่รายงานชุดนี้จากกรมประมง ซึ่งระบุชัดเจนว่าศูนย์กลางการระบาดอยู่ที่ไหน สำคัญคือข้อมูลที่ไบโอไทยมีอยู่มากกว่าภาพที่โพสต์ไปแล้ว คงต้องใช้ช่องทางและความระมัดระวังบริษัทว่าจะทำให้เข้าถึงและบริหารข้อมูลอย่างไร
พร้อมกล่าวต่อว่า ไบโอไทย อยากจะเชิญเอกชนเข้าร่วมแต่ไม่ประสงค์จะพบปะกันโดยตรง ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติที่เราทำมาเกือบ 30 ปีของการก่อตั้งองค์กร แต่ในเวทีสาธารณะหรือเวทีที่จัดโดยหน่วยงานที่ต้องการแสวงหาข้อมูล อยากเรียกร้องให้บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ซึ่งมีรายชื่อผู้ที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้มาให้ข้อมูล จะได้รู้รายละเอียดข้อมูลมากกว่าผู้บริหารว่าเกิดอะไรขึ้นที่ฟาร์มดังกล่าว.