วันหยุดยาวทำให้ผมได้มีโอกาสย้อนกลับไปดู “ข่าวเก่าๆ” ในอดีตที่คล้ายกับข่าวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ดูแล้วก็เศร้าใจ ประเทศไทยไม่ได้ไปไหนไกลเลย เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา รัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน พรรคเพื่อไทย มีมติ ครม.เห็นชอบ 2 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ ดังนี้

1.ทบทวนระยะเวลาเช่าทรัพย์สินอ้างอิง (ที่ดิน) จากปัจจุบัน 30 ปี เป็น 99 ปี

2.ทบทวนให้คนต่างด้าวสามารถถือกรรม สิทธิ์ห้องชุดจากเดิมไม่เกิน 49% เป็นไม่เกิน 75% ท่ามกลางเสียงค้านของคนไทยทั้งชาติว่า เป็นนโยบาย “ขายชาติ” ถ้าให้ต่างชาติเช่าที่ดินได้ 99 ปี ซื้อคอนโดได้ 75% ต่างชาติ “สีเทา” คงแห่กันเข้ามาเช่าที่ดินยกแปลง ซื้อคอนโดยกตึก เพื่อเป็นชุมชนของอาชญากรต่างชาติสีเทา

นับเป็น ความคิดที่อันตรายต่ออนาคตของชาติไทย เป็นอย่างยิ่ง ความจริง พรรคเพื่อไทยเคยคัดค้านการให้ต่างชาติซื้อที่ดินของรัฐบาลลุงตู่มาแล้ว ผ่านไปไม่ถึงสองปี วันนี้รัฐบาลเพื่อไทย

กลับพลิกลิ้นนโยบายของพรรคจากหน้ามือเป็นหลังมือ เหมือนนโยบาย “กัญชา” ที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆจาก “ปฏิญญาเขาใหญ่” เปี๊ยบเลย เมื่อปลายเดือนตุลาคม 2565 รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมติ ครม. อนุมัติหลักการให้ต่างชาติซื้อที่ดินได้ไม่เกิน 1 ไร่ แต่ต้องมีเงินลงทุนในไทยไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ไม่น้อยกว่า 3 ปี จะลงทุนซื้อพันธบัตรรัฐบาล ซื้อกองทุนรวม ซื้อกองทรัสต์ก็ได้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติที่มีศักยภาพ

ทันทีที่ ครม.ลุงตู่ มีมติเช่นนี้ออกมา พรรคเพื่อไทย ก็ออกมาค้านสุดตัวทันที

พรรคเพื่อไทย ได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการว่า พรรคเพื่อไทยมีความวิตกกังวลและไม่เห็นด้วย กับ ร่างกฎกระทรวงที่รัฐบาลจะออกตามประมวลกฎหมายที่ดินเพื่อให้คนต่างด้าวถือครองที่ดินในประเทศไทยได้

...

เนื่องจาก จะมีผลกระทบต่อชีวิตของคนไทยอย่างกว้างขวาง แทนที่จะคำนึงถึงการช่วยเหลือ คนไทยจำนวนมากที่ยังไม่มีบ้านและที่ดินเป็นของตัวเอง ทั้งในปัจจุบันและในอนาคตที่ ลูกหลานเติบโตขึ้นมา จะต้องซื้อบ้านและที่ดินในราคาที่ปรับตัวสูงขึ้น จากกลไกตลาดเช่นนี้

พรรคเพื่อไทย ได้อ้าง กฎกระทรวงปี 2545 ที่ออกในสมัย รัฐบาลไทยรักไทย (ยุค คุณทักษิณ ชินวัตร) ในเรื่องเดียวกันว่า มีเงื่อนไขที่เข้มงวด คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ยากกว่า

พรรคเพื่อไทย มีความเห็นว่า การออกกฎกระทรวงปี 2545 ของรัฐบาลไทยรักไทย เนื่องจากเข้ามาบริหารประเทศหลังวิกฤติต้มยำกุ้งปี 2544 ไทยต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขของไอเอ็มเอฟ ต้องหาเงินชำระหนี้ไอเอ็มเอฟ แต่การออกกฎกระทรวงของรัฐบาลลุงตู่ ออกมาเพื่อแก้วิกฤติเศรษฐกิจซึ่งเกิดจากความล้มเหลวในการบริหารงานของรัฐบาลเอง พรรคเพื่อไทย ไม่เห็นด้วยกับการลดเงื่อนไขให้คนต่างด้าวซื้อที่ดินได้ง่ายขึ้น ในร่างกฎกระทรวง ไม่ว่าจะเป็น การลดเงื่อนไขระยะเวลาการลงทุนจาก 5 ปี เหลือ 3 ปี และ การเพิ่มประเภทและทางเลือกในการลงทุนที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุนในภาคธุรกิจที่แท้จริง สร้างงานสร้างรายได้ให้คนไทย แต่กลับเปิดโอกาสให้ลงทุนในตลาดเงินที่เข้ามาหาประโยชน์ในระยะสั้น และถอนทุนออกโดยง่าย โดยไม่มีพันธะต่อประเทศไทย

พรรคเพื่อไทย ขอแถลงให้พี่น้องประชาชนทราบว่า ทุกคนมีหน้าที่รักษาทรัพยากรที่ดินไว้ให้ลูกหลานไทยในอนาคต แต่รัฐบาลล้มเหลวในการเข้าใจเจตนารมณ์สำคัญนี้ ดำเนินการในทางตรงข้าม ถ้ารัฐบาลนี้เดินหน้าออกกฎกระทรวงที่มีเนื้อหาตามมติ ครม. พรรคเพื่อไทยจะเดินหน้าคัดค้าน และถ้าพรรคเพื่อไทยได้รับความไว้วางใจจากประชาชนไปเป็นรัฐบาลหลังการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะดำเนินการแก้ไขกฎกระทรวงเรื่องการซื้อที่ดินของคนต่างด้าวให้มีเงื่อนไขที่เข้มงวด สอดคล้องกับกฎกระทรวงที่ใช้บังคับมาตั้งแต่ปี 2545

วันนี้ พรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้ว ไม่เพียง “ตระบัดสัตย์” ไม่ได้แก้กฎกระทรวงเพิ่มความเข้มงวดการซื้อที่ดินของคนต่างด้าวตามสัญญาแล้ว แต่กลับซ้ำเติมคนไทยด้วยการออกมติ ครม. ให้ออกกฎกระทรวงให้คนต่างด้าวเช่าที่ดินได้ 99 ปี ถือกรรมสิทธิ์ห้องชุดคอนโดมิเนียมได้ 75% แย่กว่าสมัยลุงตู่อีก จนถูกสังคมประณามว่า “ขายชาติ” ทำไม พรรคเพื่อไทย จึงมีนโยบายที่กลับกลอกเช่นนี้ แล้วจะให้ประชาชนไว้วางใจพวกคุณได้อย่างไร?

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม