โปรดเกล้าฯ ปธ.วุฒิสภา-รองประธานฯ “มงคล” ประกาศทดแทนคุณแผ่นดิน ทำเพื่อชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และประชาชน ย้ำยึดหลักจริยธรรม กฎหมาย รีบปฏิเสธลั่นไม่มี สว.ก๊วนน้ำเงิน ไร้ขั้วไร้สี ยินดีรับใช้เป็นมิตรกับทุกคน “เศรษฐา” ปลื้มอินเดีย-ไต้หวันเที่ยวไทยทะลุเป้า พท.โอ่ผลงานช่วยทวงแชมป์ “วรชัย” ไล่บี้ลดรายจ่าย ดันท่องเที่ยว ก้าวไกลปลุกทวงคืนทางด่วนอย่าให้เกิดค่าโง่โทลล์เวย์ 2 จับตา ส.ค. แผนขยายสัมปทานด่วนศรีรัชเข้าครม.นิด้าโพลชี้ “ทักษิณ-เนวิน-ธนาธร” ผู้มากบารมีนอกพรรค

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งประธานวุฒิสภาและรองประธานฯ โดยนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ตั้งปณิธานขอทดแทนคุณแผ่นดิน เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน พร้อมกับปฏิเสธลั่นไม่มี สว.ก๊วนสีน้ำเงิน ไม่มีขั้วไม่มีสี ยินดีรับใช้ทุกคน

โปรดเกล้าฯ “มงคล” ปธ.วุฒิสภา

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 ก.ค. ที่รัฐสภา มีพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งประธานวุฒิสภาและรองประธาน มีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 1 นายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่ 2 สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เข้าร่วมพิธีการ มีนางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี อัญเชิญพระบรมราชโองการฯ วางเบื้องหน้าพระบรม ฉายาลักษณ์ จากนั้นอ่านพระบรมราชโองการ พระบาท สมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า ด้วยในคราวประชุมวุฒิสภา ครั้งที่ 1 สมัยประชุมสามัญประจำปี วันที่ 23 ก.ค.2567 ที่ประชุมลงมติเลือกประธานและรองประธานวุฒิสภาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 116 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งประธานและรองประธานวุฒิสภา ประกาศ ณ วันที่ 26 ก.ค.2567 จากนั้นนายมงคลเปิดกรวยดอกไม้ ถวายบังคม 3 ครั้ง และถวายความเคารพ เป็นอันเสร็จพิธี

...

ประกาศขอทดแทนคุณแผ่นดิน

นายมงคลให้สัมภาษณ์ว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อม เป็นมงคลแก่ชีวิต ยืนยันในปณิธานอันแน่วแน่จะปฏิบัติงานเพื่อทดแทนคุณแผ่นดิน รักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ รับใช้ประชาชนด้วยความซื่อสัตย์สุจริต จนกว่าชีวิตจะหาไม่ ส่วนที่สังคมตั้งข้อสงสัยเรื่องที่มาของ สว.ชุดนี้ คงไปห้ามคนไม่ให้คิดไม่ได้ มีเพื่อนพี่น้องผ่านอะไรมามากมาย ถ้าไม่รู้จักไม่สนิทกับใครเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่เรื่องการทำงาน การปฏิบัติหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติจะดำเนินการให้เป็นไปตามจริยธรรม กฎหมาย และธรรมเนียมปฏิบัติ สว.ยินดีรับใช้ทุกคน เป็นมิตรทุกคน สิ่งที่ประธานและรองประธานวุฒิสภาทั้งสองคนตั้งปณิธานและแสดงวิสัยทัศน์ไปคือการแสดงเจตนาในการปฏิบัติหน้าที่

รีบปฏิเสธลั่นไม่มี สว.สีน้ำเงิน

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายการแก้ไขรัฐธรรมนูญ นายมงคลตอบว่า เป็นเรื่องรายละเอียด ยังพูดไม่ได้ เพิ่งรับตำแหน่งขอดูรายละเอียดก่อน แต่ตามเจตนารมณ์จะยึดมั่นผลประโยชน์ประเทศ และประชาชน เมื่อถามว่าจะยึดมั่นตามประชาชนไม่มีคำว่าพรรคพวกใช่หรือไม่ นายมงคลตอบว่า อย่าถามคำถามนี้เลยสว.มาอยู่ตรงนี้ต้องยึดผลประโยชน์ประเทศและประชาชนเป็นหลัก ส่วนที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ระบุว่าเตรียมบททดสอบเพื่อตรวจสอบการทำงานของ สว.นั้น อย่าเพิ่งเลย ขอทำงานก่อน ไม่ตอบเรื่องนี้ สำหรับกระแสวิพากษ์วิจารณ์ สว.สีน้ำเงิน ไม่มีอะไร จริงๆคือน้ำเงิน ขาว แดง เป็นปณิธานพวกเราที่จะรวมกันเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ รวมถึงประชาชน เมื่อถามว่ามี สว.หลายคนบอกว่าหากนายมงคลเป็นประธานฯ จะสลายขั้วต่างๆจะทำตามนั้นหรือไม่ นายมงคลตอบว่า ไม่เคยคิดจะมีขั้ว มีสี ชีวิตที่ผ่านมาอยู่กับคนที่มีความเห็นต่างมาตลอด ถือว่าความแตกต่างกับความแตกแยกคนละอย่างกัน ความแตกต่างเป็นสิ่งที่ดี เชื่อว่าหาจุดร่วมกันได้ ความเห็นต่างเป็นสิ่งที่ต้องรับฟัง ด้วยเหตุผลและข้อเท็จจริง ยืนยันทำงานร่วมกับได้ทุกคน

อินเดีย-ไต้หวันเที่ยวไทยทะลุเป้า

เมื่อเวลา 12.00 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊กระบุว่า “นโยบาย Visa Free เห็นผลแล้วครับ ปีนี้นักท่องเที่ยวไต้หวัน และอินเดีย เดินทางเข้าไทยทำสถิติสูงสุดเมื่อเทียบจากจำนวนนักท่องเที่ยวหลังโควิดและมีแนวโน้มจะสูงกว่าปี 2019 ด้วย ที่ผ่านมาเรามีมาตรการยกเว้นวีซ่าให้นักท่องเที่ยวชาวอินเดียและไต้หวัน โดยการขยายระยะเวลาพํานักเป็น 60 วัน (เริ่มไปตั้งแต่ช่วงปลายปี 2023 และขยายโครงการไปจนถึงวันที่ 11 พ.ย. 2567) ความร่วมมือจากทุกภาคส่วนกำลังทำให้การท่องเที่ยวฟื้นตัวต่อเนื่อง เพียงครึ่งปี 2024 เราดึงนักท่องเที่ยวจากตลาดใหญ่อย่างอินเดียได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 30% คาดว่าจะเพิ่มขึ้นถึง 2 ล้านคนภายในสิ้นปีนี้ เรายังเดินหน้าขยายเวลาการพำนัก 60 วัน ให้อีก 93 ประเทศ เพื่อเพิ่มนักท่องเที่ยวที่มีกำลังใช้จ่ายต่อหัวสูง ขณะที่การท่องเที่ยวแห่ง ประเทศไทย (ททท.) เตรียมกิจกรรมดึงดูดนักท่องเที่ยวตลอดทุกเดือนด้วย ขอให้ภาคธุรกิจท่องเที่ยวเตรียมตัวให้พร้อม วันนี้ประตูบานใหญ่ของประเทศไทยเปิดแล้ว

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด
อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด

ฟุ้งผลงานช่วย พท.ทวงแชมป์

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศด้วยความมั่นใจพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ไม่ยากว่า ด้วยประสบการณ์และผลงานที่เคยสร้างไว้มากมายของนายทักษิณ เชื่อว่าคนจำนวนมากเชื่อมั่นและเห็นด้วยกับนายทักษิณ คะแนนนิยมรัฐบาลจะดีขึ้นตามลำดับ หากนโยบายที่หาเสียงไว้เดินหน้าได้โดยเร็ว การเรียกความเชื่อมั่นเป็นสิ่งสำคัญ เห็นตรงกันว่ารัฐบาลต้องเร่งสร้างความเชื่อมั่นให้มากขึ้น เร่งให้เกิดพายุหมุนทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะจากโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต กระจายเม็ดเงินสู่รากหญ้า เติมเงินใส่กระเป๋าประชาชนได้สำเร็จ ความเชื่อมั่นจะตามมา พรรคเพื่อไทยน่าจะกลับขึ้นมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้ไม่ยาก การเมืองยุคนี้ไม่มีความขัดแย้ง รัฐบาลมีเสถียรภาพ หากผลักดันผลงานให้เกิดขึ้นเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว คะแนนนิยมก็จะดีขึ้น

“วรชัย” บี้ลดรายจ่ายดันท่องเที่ยว

ด้านนายวรชัย เหมะ อดีต สส. พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า วันนี้ผู้คนยังลำบากกับปัญหาเศรษฐกิจปากท้องมาก คนหาเช้ากินค่ำชักหน้าไม่ถึงหลัง สิ่งที่รัฐบาลต้องทำเมื่อยังเพิ่มรายได้ให้ประชาชนไม่ได้ ก็ต้องลดรายจ่ายให้ประชาชนก่อน สิ่งสำคัญที่สุดที่ทำให้หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นถึง 91-92% เพราะดอกเบี้ยธนาคารที่สูงมาก คนไม่สามารถหารายได้มาจ่ายดอกเบี้ยทัน ภาพรถ-บ้านถูกยึดกลายเป็นสิ่งชินตา เป็นเหลือบที่ดูดเลือดเนื้อคนไทย อีกอย่าง คือ ราคาพลังงานที่สูง ทำให้ราคาสินค้าสูงขึ้น เป็นเหลือบอีกตัวที่รัฐบาลต้องเร่งจัดการให้ได้ และต้องเร่งเพิ่มรายได้ให้ประชาชนเต็มกำลัง หนึ่งในนั้นคือการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยเฉพาะในพื้นที่อีสาน รัฐบาลควรเข้าไปสนับสนุนดึงดูดนักท่องเที่ยวกระจายไปทั่วประเทศ ที่ต้องจัดการคือราคาตั๋วเครื่องบินที่แพงมาก รวมถึงควรเพิ่มวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำอีกสัก 1 หมื่นล้านบาท เพื่ออัดสภาพคล่อง เชื่อว่าจะทำให้การท่องเที่ยวดีขึ้นกว่านี้

“ศุภณัฐ” ทวงคืนทางด่วนโทลล์เวย์

ที่พรรคก้าวไกล มีการจัดแถลงข่าว Policy Watch “ทวงคืนทางด่วน หมดสัมปทานต้องคืนรัฐ” นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีดอนเมืองโทลล์เวย์ หรือทางยกระดับอุตราภิมุข ที่ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าจะปรับขึ้นค่าผ่านทาง แต่รัฐบาลเพื่อไทยเตรียมแก้ไขสัญญาสัมปทานครั้งที่ 4 ขยายสัมปทานให้กับเอกชนเจ้าเก่าอีกรอบ โดยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและ รมว.คมนาคม ปูทางว่า ทางด่วนกำลังจะขึ้นราคาเลยชงว่าต้องลดราคา เอกชนก็รับลูกว่าถ้าไม่อยากให้ขึ้นราคาต้องขยายสัมปทาน แบบนี้ยิ่งเข้าทางรัฐมนตรี อ้างเหตุสั่งให้กรมทางหลวงไปศึกษาคำนวณว่าจะขยายสัมปทานอีกกี่ปี ที่น่ากลัวกว่าคือรัฐบาลมีแผนจะออกสัมปทานตอนใหม่ คือตอนที่สาม รังสิต-บางปะอิน อาจถูกนำไปพ่วงเป็นมูลเหตุขยายสัมปทานครั้งใหม่โดยไม่มีการแข่งขัน ขอคัดค้านการเอื้อประโยชน์นายทุน หยุดขยายสัมปทานเดิม ประเคนสัมปทานใหม่ ทวงคืนทางด่วนให้ประชาชน

สุรเชษฐ์ ระวีณวงศ์วุฒิ
สุรเชษฐ์ ระวีณวงศ์วุฒิ

จับตาโครงการ Double Deck เข้า ครม.

ด้านนายสุรเชษฐ์ ระวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กล่าวว่า สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นประมาณกลางเดือน ส.ค.นี้ คือรัฐบาลมีแผนจะนำเรื่องการขยายสัมปทานทางด่วนศรีรัชขั้นที่ 2 เข้าที่ประชุม ครม. เป็นอีกครั้งที่อาจเกิดการเอื้อประโยชน์ครั้งใหญ่ให้นายทุน เป็นการหาสร้าง Double Deck เพื่อแลกกับการขยายสัมปทานออกไปอีก 22 ปี 5 เดือน ทั้งที่สัญญาสัมปทานปัจจุบันยังเหลืออีก 11 ปี ทำให้สัมปทานลากยาวไปถึง 31 มี.ค.2601 โดยไม่มีการแข่งขัน ขอเชิญชวนประชาชนร่วมกันจับตารักษาผลประโยชน์ของประเทศ

เย้ยวันเวลาฆ่าขุนศึกฝั่งธนฯ

วันเดียวกัน นายวันชัย สอนศิริ อดีต สว. โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “อยู่ให้คนอิจฉา ดีกว่าอยู่อย่างน่าสงสาร” “คุณทักษิณพูดเรื่องคุณเฉลิมที่ท้าดีเบตว่า อย่าไปพูดถึงเขาเลย ผมสงสารเขา อายุเยอะแล้ว ถ้าผมเป็นคุณเฉลิมจะรู้สึกเจ็บจี๊ดดดดดไปในส่วนลึกหัวใจ ทะลุถึงตับไตไส้พุง คำพูดว่าสงสาร เขาอายุเยอะแล้ว เหมือนคำพูดว่าสมเพชเวทนา แก่แล้ว หมดสภาพไม่อยากยุ่งด้วย ปล่อยเขาไปเถอะ มีคำสั่งสอนพูดกันมานานว่า ต้องอยู่ให้คนอิจฉา อย่าอยู่อย่างน่าสงสาร หมายความว่าคนที่ประสบความสำเร็จเจริญรุ่งเรือง มีตำแหน่งเกียรติยศชื่อเสียง คนมักอิจฉาตาร้อน ริษยานินทา หมั่นไส้ แต่คนยากจนข้นแค้น ต้อยต่ำไม่มีฐานะตำแหน่งชื่อเสียงเกียรติยศ หมดสภาพแก่หงำเหงอะ เลอะเลือน คนจะสมเพชเวทนา น่าสงสาร เป็นมนุษย์ต้องอยู่ให้คนอิจฉา อย่าให้คนสงสาร คุณเฉลิมออกมาคราวนี้ เสียงเหือดแห้ง แรงโหยหา น้ำยาหมด จะกรรโชกโฮกฮากใส่ก็ไม่มีใครกลัว หลานอุ๊งอิ๊งค์ยังดีดออก คงไม่ต้องมีคำอธิบายอะไรมากไปกว่านี้ วันเวลาฆ่าทุกสิ่งอย่าง ฆ่าแม้กระทั่งดาวสภาขุนศึกฝั่งธน ฉลามและเฉลิม สงสารจับใจ”

“ทักษิณ-เนวิน-ธนาธร” บารมีล้น

ขณะที่นิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็น เรื่อง “ผู้มีบารมีนอกพรรค” จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 23 - 25 ก.ค. พบว่า ความคิดเห็นของประชาชนถึงบารมีทางการเมืองของนายทักษิณ ชินวัตร ต่อพรรคเพื่อไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 67.40 เห็นว่ามีบารมีต่อพรรคมาก ด้านบารมีทางการเมืองของนายเนวิน ชิดชอบ ต่อพรรคภูมิใจไทย ส่วนใหญ่ร้อยละ 45.81 มองว่ามีบารมีต่อพรรคมากเช่นเดียวกัน ขณะที่บารมีทางการเมืองของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ต่อพรรคก้าวไกล ส่วนใหญ่ร้อยละ 40.99 เห็นว่ามีบารมีทางการเมืองต่อพรรคมาก

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่