ข่าว “เขย่าขวด” สุดสัปดาห์นี้ ไฮไลต์การเมืองน่าจะต้องรอข้ามเดือนไปถึงสิงหาฯ เพราะมีการตั้งแท่นรออยู่แล้ว
มีอยู่ 3 กรณี 3 วาระด้วยกัน
1. 7 ส.ค.67 คดียุบพรรค “ก้าวไกล”
2. 14 ส.ค.67 คดีถอดถอน “เศรษฐา ทวีสิน” นายกรัฐมนตรี
3. 22 ส.ค.67 “ทักษิณ ชินวัตร” พ้นมลทินโทษ
แต่ที่น่าจะลุ้นที่สุดก็คือ 14 ส.ค. เพราะผลจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญออกไปในทางลบ จะทำให้การเมืองเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
นี่จึงทำให้ “เศรษฐา” ต้องลุ้นตัวโก่ง ว่าผลจะออกมาอย่างไร
จะเป็น “เสือติดจั่น” หรือ “พยัคฆ์ติดปีก” ก็แล้วแต่บุญวาสนา
มองในแง่ดีหน่อยคือ ไม่มีความผิดก็ทำหน้าที่ต่อไปในฐานะหัวหน้าคณะผู้บริหารประเทศ ที่จะต้องนำพาชาติบ้านเมือง ไปข้างหน้าแก้ปัญหาเศรษฐกิจที่กำลังหืดขึ้นคออยู่
มีปัจจัยที่จะช่วยผลักดันก็คือ “ดิจิทัล วอลเล็ต” หากไม่มีอะไรผิดพลาด น่าจะเดินหน้าต่อไปได้ หลังจากจมปลักอยู่นานพอสมควร
หากไม่ติดหล่มอีก ก็เรียกคะแนนเสียง คืนกลับมาได้
เว้นแต่นโยบายประชานิยมนี้ไม่จริงอย่างที่คุยโม้เอาไว้ ก็ช่วยไม่ได้ที่จะทำให้รัฐบาลต้องประสบปัญหารอบด้าน
คะแนนนิยมก็ไม่ได้
เสถียรภาพก็ไม่มั่นคง
งานถัดไปก็คือการโยกย้ายแต่งตั้งใน “กองทัพ” ซึ่งเป็นเรื่องที่แยกไม่ออกระหว่างความมั่นคงกับการเมือง
วันนี้การเมืองเข้าไปนั่ง 1 ใน 7 สิงห์ที่จะต้องจัดการแต่งตั้งโยกย้ายระดับ ผบ.เหล่าทัพในครั้งนี้ ตำแหน่งสำคัญคือ ผบ.ทบ. และ ผบ.ทร.
ส่วนตำแหน่งอื่นยังไม่เกษียณอายุราชการคือปลัดกลาโหม ผบ.สส. และ ผบ.ทอ. ซึ่งทั้ง 3 คนอยู่ในรุ่น ตท.24 เหมือนกันหมด
...
เลยมีข่าวว่าการเมืองต้องการคละเคล้าไม่ให้ทุกเหล่าทัพอยู่ในรุ่นเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาหาก ผบ.เหล่าทัพรุ่นเดียวกันทั้งหมด
“ยึดอำนาจ” ทุกที...
ทว่าการเมืองปัจจุบันเปลี่ยนไปมากพอสมควร แม้ยังไม่ 100% แต่แนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น อยู่ที่การเมืองอย่าทำให้มันยุ่งก็แล้วกัน
อีกหน่วยงานหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันก็คือ สตช. ซึ่ง ผบ.ตร.ก็เกษียณอายุเหมือนกัน แต่การแต่งตั้งคงไม่ง่าย เพราะมีปัญหาขัดแย้งกันภายในที่นายกรัฐมนตรีก็ร่วมวงไพบูลย์อยู่ด้วย
แต่ถ้านายกรัฐมนตรีรอดคดีมาได้ คงทำให้มีความมั่นคงบนเก้าอี้มากขึ้น จึงน่าจะอาศัยบารมีตรงนี้จัดการปัญหาให้ลงตัวได้
เว้นแต่ “เศรษฐา” ไปไม่รอด...
คงเป็นหน้าที่ของ “ทักษิณ” ผู้มากบารมีเหนือนายกรัฐมนตรี ที่จะต้องรับผิดชอบและดำเนินการต่อไปว่าจะผลักดันให้ใคร
เป็นนายกรัฐมนตรีแทนที่เพื่อตั้งรัฐบาลชุดใหม่
เพราะเขาประกาศชัดเจนแล้วว่า หลังจากสิงหาฯจะเดินหน้าปฏิบัติภารกิจอย่างเต็มที่ เพื่อภารกิจที่ติดค้างอยู่
แม้ว่ากำลังเกิดปัญหา “กรวดในรองเท้า” ที่เป็นหนามหยอกอกอยู่
อย่าง “เฉลิม อยู่บำรุง” ที่ประกาศท้ารบเหย็งๆ “เจ้าพ่อบางบอน” ที่ผ่านมากับวันนี้มันก็ไม่ต่างกับ “เสือชรา” ที่ “ทักษิณ” มองว่าไร้เขี้ยวเล็บแล้ว
การปล่อยให้ลูกสาวในฐานะหัวหน้า “เพื่อไทย” จัดการ เพื่อสร้างเสริมบารมีให้ลูกพรรคเห็นว่าใครสร้างปัญหาให้ดู “เหลิม” เป็นตัวอย่าง
ถ้าไม่อกแตกตายเสียก่อน ก็ต้องถอยออกจากพรรคไปเอง!
“ลิขิต จงสกุล”
คลิกอ่านคอลัมน์ “สับรางวันอาทิตย์” เพิ่มเติม