ข่าว "เขย่าขวด" สุดสัปดาห์นี้ ฉากทัศน์การเมืองต้องมองไปข้างหน้า ไม่ใช่ร้องหา "ลุงตู่" อยู่ร่ำไป เพราะ...นี่คือความจริงที่เป็นไป สว.ชุดเก่าเมื่อครบวาระ ชุดใหม่ก็เข้ามาแทนที่ “วัน อยู่บำรุง” ยังต้องไป นับประสาอะไร...

สถานการณ์บ้านเมืองกำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงเมื่อย่างเข้าเดือนสิงหาคมนี่ก็เช่นกัน เพราะวงรอบมันมาบรรจบกันพอดี

จุดแรกปักหมุดไปที่ “ทักษิณ ชินวัตร” ที่จะได้รับ “ใบบริสุทธิ์” พ้นมลทินโทษ ในวันที่ 22 ส.ค.67 ก็จะมีอิสระเหมือนคนปกติทั่วไป

จะโลดแล่นถนนการเมืองได้อย่างเต็มตัว

เว้นแต่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีและลงสมัครเลือกตั้ง เพราะมีกฎหมายห้ามไว้แต่ก็ยังมีตำแหน่งอื่นๆที่เข้าทำหน้าที่ได้

ว่ากันว่าหากไม่ดำรงตำแหน่งอะไรเลยก็ใหญ่คับบ้านคับเมืองอยู่แล้ว แต่เพื่อให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย

การเป็นประธานพรรค “เพื่อไทย"-ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค “เพื่อไทย” จะสามารถหลีกเลี่ยงคำว่า “ครอบงำ” ได้

จึงน่าจะลงเอยตรงนี้มากกว่า!

ถัดมาก็เรื่องการยุบพรรค “ก้าวไกล” ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญนัดวินิจฉัยวันที่ 7 ส.ค.67 หากผลออกมาเป็นด้านลบ (มีความเป็นไปได้สูง)

ก็จะทำให้ “ก้าวไกล” ต้องหาวิธีการแก้ไขซึ่งน่าจะเตรียมการล่วงหน้าเอาไว้แล้ว คือตั้งพรรคใหม่เพื่อให้ สส.ของพรรคเข้าสังกัด

เป็นบทเรียนที่ 2 ของกลุ่มการเมืองนี้

ที่จะตามมาคือกรรมการบริหารพรรค จะต้องถูกเว้นวรรคทางการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ จุดนี้ทำให้พรรคขาดบุคลากรที่สำคัญไปหลายคน

และยังฟาดหางไปถึงตำแหน่งรองประธานสภาผู้แทนคนที่ 2 คือ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” แม้จะสังกัดพรรคเป็นธรรม

...

แต่เคยเป็นกรรมการบริหาร “ก้าวไกล” มาก่อน

จึงต้องพ้นจากตำแหน่งไปโดยปริยาย

ประเด็นที่น่าสนใจก็คือจะมีลูกพรรคกระโดดออกมาแล้วไปสังกัดพรรคการ เมืองอื่นหรือไม่ ตรงนี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเรื่อง “ดุล” ทางการเมืองได้

แต่ที่แน่ๆ “ก้าวไกล” จะมีจำนวน สส.น้อยลงอย่างแน่นอน

อีกประเด็นที่จะทำให้การเมืองเปลี่ยนแปลงมากสุดคือ การถอดถอนนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” ที่ถูกร้องแต่งตั้งรัฐมนตรีไม่ชอบเพราะขาดคุณสมบัติ

หากศาลชี้ว่าผิดจริงก็ต้องพ้นจากตำแหน่ง ต้องโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ รัฐบาลชุดนี้ต้องล้มไป

นั่นแหละจะทำให้การเมืองวุ่นไม่น้อย

ในสถานการณ์ปัจจุบันต้องมองไปที่ “เพื่อไทย” หากเกิดเหตุเช่นนั้นจะทำอย่างไรต่อไป จะให้ใครไปเป็นนายกรัฐมนตรีแทนที่ซึ่งมีแคนดิเดตอยู่ 2 คน

1. “ชัยเกษม นิติสิริ”

2. “แพทองธาร ชินวัตร” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย

ด้วยสภาพการณ์และความเป็นไปทางการเมืองมีความเป็นไปได้ว่า “เพื่อไทย” คงส่ง “อุ๊งอิ๊งค์” เข้าประกวดมากกว่าเพราะเหมาะสมกว่า

“ทักษิณ” ก็จะทำหน้าที่ “พี่เลี้ยง” เป็นนายกรัฐมนตรีเงาอยู่ข้างหลัง เพื่อให้การบริหารราชการเดินหน้าต่อไปได้ด้วยเชิงยุทธ์ที่ครบเครื่อง

พรรคร่วมรัฐบาลก็คงเหมือนเดิมพร้อมที่จะสนับสนุนเพื่อขวาง “ก้าวไกล” ไม่ให้มีพลังสูงไปมากกว่านี้

2 พ่อ-ลูกจะก้าวไปสู่ฝั่งฝันได้หรือไม่? หรือจะปิดบัญชีการเมือง

เลือกตั้งครั้งหน้าคือสนามที่จะพิสูจน์!

"ลิขิต จงสกุล"