แรงกระเพื่อมไต่ระดับความรุนแรงขึ้นตามลำดับ
ปรากฏการณ์ล่าสุด สส.รัฐบาล “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” ส่งเสียงโวยวายดังๆกลางสภา รุมต้านหนักโครงการ “ปุ๋ยคนละครึ่ง” วงเงิน 29,980 ล้านบาท ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ที่เพิ่งผ่านความเห็นชอบจาก ครม.เมื่อสัปดาห์ก่อน
ฉายสัญญาณผิดปกติในพรรคร่วมรัฐบาลทวีความเข้มข้น กล้าฉีกหน้ากันกลางสภาฯ
ไม่เอาด้วยหลักการปุ๋ยคนละครึ่งของฝ่ายเดียวกัน รัฐบาลออกเงินค่าปุ๋ยคนละครึ่งกับเกษตรกรไร่ละ 500 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ สูงสุดต่อครัวเรือนไม่เกิน 10,000 บาท
สส.รัฐบาลยกโขยงจ้องล้มโต๊ะ ตั้งป้อมจับพิรุธโครงการ ทั้งสูตรปุ๋ยที่อาจไม่ตรงความต้องการชาวนา การล็อกสเปกปุ๋ย เสี่ยงเปิดช่องทุจริต เสือหิวสิงห์โหยจ้องเขมือบค่าหัวคิวคำโต
หนำซ้ำสร้างความกังวลใจให้ชาวนาต้องวิ่งโร่ไปกู้เงินมาจ่ายค่าปุ๋ยคนละครึ่งกับรัฐบาล ล่วงหน้า เพราะไม่มีเงินหมุนเวียนในมือ มักจะเซ็นเชื่อปุ๋ยจากร้านค้ามาใช้ก่อน เมื่อขายผลผลิตได้ ค่อยนำเงินไปใช้หนี้
ซ้ำเติมเกษตรกรมีหนี้เพิ่มเป็นดินพอกหางหมู ต่างจากวิถีชีวิตเดิมที่เคยมีโครงการให้เงินช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท มีเม็ดเงินส่งถึงมือโดยตรง สามารถนำไปหมุนเวียน นำไปใช้จ่ายค่าเก็บเกี่ยว ค่าไถ ค่าปุ๋ยได้ครบวงจร
อารมณ์เดือดควันออกหูกระดูกสันหลังของประเทศ ฐานเสียงใหญ่ สส.เขต สร้างแรงกดดัน สส.ผวาสอบตก ต้องประสานเสียงคว่ำโครงการ “ผู้กองนัส”
ไม่เว้นแม้กระทั่งฝ่ายค้าน พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่เอาด้วย กระโจนเป็นแนวร่วมอีกทาง เรียกร้องรัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาช่วยเหลือชาวนาไร่ละ 1,000 บาท เหมือนเดิม
ชาวนาเมินปุ๋ยคนละครึ่ง ทวงเงินช่วยไร่ละ 1,000 บาท กลับคืน
...
ไฟเตือนรัวๆ บีบพลพรรคเพื่อไทยก่อหวอดกลางสภา ส่งสัญญาณให้ “นายกฯนิด” เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี รับรู้ความไม่พอใจ อยากคว่ำโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง หลังความพยายามหยั่งท่าทีถึงนายกฯก่อนหน้านี้เจอปัญหาติดๆขัดๆ เพราะไม่สามารถเข้าถึงตัวผู้นำได้
เพื่อไทยโหนกระแสชาวนา เปิดศึก “ปุ๋ยการเมือง” รุมสกรัม “ผู้กองนัส”
รุ่นใหญ่ รุ่นเล็กเปิดหน้าบู๊ใส่เต็มที่ เพราะเสียวไส้เนื้อหาโครงการทำลายฐานเสียงหลักพรรคเพื่อไทย ผสมโรงไปกับแรงหมั่นไส้ อยากสกัด ร.อ.ธรรมนัสที่มีแนวโน้มสูงจะยก สส.พลังประชารัฐในสังกัดมาร่วมชายคาพรรคเพื่อไทยในอนาคต
จ่อเข้ามาเบียดโควตาแย่งพื้นที่เลือกตั้ง และแชร์ตำแหน่งบริหารในพรรค ข้ามหน้าข้ามตาคนเก่าในพรรค แรงต้านเลยทวีคูณรุนแรงเป็นพิเศษ
อารมณ์ไม่ต่างจากค่ายภูมิใจไทย ต้องออกแอ็กชันขึงขังตามไปด้วย สกัด “ผู้กองนัส” ได้ผลงาน ขืนปล่อย ร.อ.ธรรมนัสหอบหิ้วสส.ไปเสริมทัพความแข็งแกร่ง เติมกระสุนดินดำให้พรรคเพื่อไทยได้ ทีมเซราะกราวเจอศึกหนักแน่ในสนามเลือกตั้ง ในฐานะคู่แข่งสำคัญที่รู้ไส้รู้พุง รู้ทันกัน
“ปุ๋ยคนละครึ่ง” ล้มลุกคลุกคลาน เปิดตัวแล้วไม่ปัง เกิดแรงต้านหนัก อาจเสี่ยงพังตายหมู่
จากที่หวังฟันแต้มบวก ช่วยรัฐบาลได้หน้าลดต้นทุนการผลิตช่วยเกษตรกร แต่กลับติดลบ ไปเปิดแนวรบชาวนา จุดชนวนขัดแย้งในรัฐบาล
เล่นงาน “นายกฯนิด” หัวหมุนต่อเนื่อง ต้องรีบหาทางออกให้ลงตัว หย่าศึก ประนอมผลประโยชน์ สส.เพื่อไทย คู่ขนานไปกับการถนอมน้ำใจเพื่อนร่วมรัฐบาล
เสียงต้านจากเกษตรกรมาทั่วประเทศ ก่อแรงกระเพื่อมมหึมา วัดใจ “นายกฯนิด”และ ร.อ.ธรรมนัส จะใส่เกียร์ถอยหรือเหยียบคันเร่งไปต่อ
อุปสรรครุมเร้าทั้งเสียงในสภาและนอกสภา แนวโน้มอาจต้องผ่อนคันเร่ง อย่างที่ ร.อ.ธรรมนัสเตรียมนำเรื่องเข้าหารือใน ครม.เศรษฐกิจ จะเดินต่อในรูปแบบใด
ปัญหา “ปุ๋ยชาวนา” ยกระดับเป็น “ปุ๋ยการเมือง” พ่นพิษเจ็บตัวทุกฝ่าย
ระเบิดเวลาลูกใหม่รอ “นายกฯนิด”ถอดสลัก หากไม่ทบทวน อาจเสียฐานเสียงชาวนาทั่วประเทศที่ต่างไม่เห็นด้วยกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง
ตามหน้าตักคะแนนนิยมพรรคเพื่อไทยที่ยังหืดจับ แม้จะเหยียบคันเร่งสปีดผลงานแค่ไหน ก็ยังไม่เข้าตาประชาชน ทำแต้มไล่กวดพรรคก้าวไกลไม่ทัน
ขืนนโยบายรัฐบาลยังเป็นปฏิปักษ์กับฐานเสียงตัวเอง คงสาละวันเตี้ยลงทุกวัน!!!
ทีมข่าวการเมือง รายงาน
คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม