“ปดิพัทธ์” ยกคดียุบก้าวไกลเป็นเรื่องของสภานานาชาติด้วย อ้างเพื่อน สส.และทูตหลายประเทศกังวลฝ่ายนิติบัญญัติถูกแทรกแซง รับติดร่างแหมีสิทธิหลุดเก้าอี้รองประธานสภาฯ สส.พรรค พท.-ภท.-ปชป.รุมต้าน “ปุ๋ยคนละครึ่ง” ไล่รัฐบาลทบทวนเอาโครงการเจ้าปัญหาคืนไป เอาไร่ละพันกลับมา “กรวีร์” ซัดช่วยค่าปุ๋ยไร่ละไม่เกิน 5 ร้อย สูงสุด 20 ไร่ เป็นเงิน 1 หมื่นบาทก่อปัญหามากมาย เกษตรกรโวยต้องจ่ายเงินสำรองซื้อไปก่อนครึ่งหนึ่ง แต่ได้ปุ๋ยไม่ตรงใจ “สนอง” สวดยิ่งซ้ำเติมต้องไปกู้หนี้ยืมสิน “ทินพล” จวกไม่ตอบโจทย์ชาวนาทุกข์หนักไม่มีเงินจ่ายสมทบ หวั่นตัดเหี้ยนเงินช่วยไร่ละพัน “อนุทิน” ยัน ภท.หนุนดิจิทัลวอลเล็ต แต่สงวนสิทธิโหวตสวนนำกัญชากลับเป็นยาเสพติด ม็อบบุกสภาฯทวงนิรโทษมาตรา 112 “ภัสราวลี” ขู่ รบ.ไม่เหลียวแลต้องคุยบนถนน กมธ.เล็งตั้งทีมชงล้างผิดแบบมีเงื่อนไข

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในวันที่ 7 ส.ค. เป็นประเด็นที่หลายฝ่ายจับตาติดตามผลกระทบที่จะเกิดตามมา โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทน ราษฎร คนที่ 1 ระบุเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของสภา นานาชาติด้วย มีเพื่อน สส.และทูตในหลายประเทศต่างวิตกกังวลต่อกรณีดังกล่าว

ปดิพัทธ์ สันติภาดา
ปดิพัทธ์ สันติภาดา

...

“อ๋อง” อ้างทูตหลาย ปท.กังวลยุบ ก.ก.

เมื่อเวลา 12.10 น. วันที่ 18 ก.ค. ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดฟังคำวินิจฉัยคดียุบพรรค ก.ก. วันที่ 7 ส.ค.ว่า ค่อนข้างกังวลว่าถ้ายุบพรรค ก.ก. แล้วสภาฯของเราจะหน้าตาเป็นอย่างไร ฝ่ายค้านจะยังเข้มแข็งหรือไม่ จะมีการตรวจสอบถ่วงดุลกับอีก 2 อำนาจได้อย่างไร เรื่องนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของสภาฯไทย แต่เป็นเรื่องของสภาฯนานาชาติด้วย เพราะเราต้องชี้แจงเรื่องนี้ เพื่อน สส.และทูตในหลายประเทศต่างกังวล นี่ไม่ใช่เรื่องของพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่หากฝ่ายนิติ บัญญัติถูกฝ่ายอื่นแทรกแซง ห้ามไม่ให้ทำอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือทำแล้วมีโทษ จะแสดงให้เห็นชัดเจนว่าประเทศของเรายังไม่ได้เป็นประชาธิปไตย

รับมีสิทธิหลุดเก้าอี้รองประธานสภาฯ

เมื่อถามว่าหากการยุบพรรคส่งผลให้ กก.บห.ถูกตัดสิทธิ มีผลต่อตำแหน่งรองประธานสภาฯ หรือไม่ นายปดิพัทธ์กล่าวว่า ตนเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรค ก.ก.ช่วงหาเสียงเลือกตั้งปี 66 รายชื่อปรากฏชัดเจนอยู่ในคำร้องของ กกต. ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ ส่วนตัวไม่ได้มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น หากผลของคดีเป็นลบ เมื่อถามว่าหากหลุดจากตำแหน่งรองประธานสภาฯ อาจส่งผลให้พรรคร่วมฝ่ายค้านเสียเก้าอี้นี้ไปเลยหรือไม่ เพราะรัฐบาลจะมีเสียงมากกว่า นายปดิพัทธ์กล่าวว่า แน่นอน เพราะประธานสภาฯและรองประธานต้องเป็น สส. หากตนถูกตัดสิทธิเท่ากับว่าความเป็น สส.จะหลุดไปด้วย แต่ทั้งหมดก็เป็นการตัดสินใจของสภาฯหลังจากนั้น

พท.-ภท.ของขึ้นต้านปุ๋ยคนละครึ่ง

เมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุมได้เปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนในพื้นที่ สส.รัฐบาลหลายคนลุกขึ้นหารือแสดงความไม่เห็นด้วยกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งของรัฐบาล พร้อมเรียกร้องให้ทบทวนโครงการดังกล่าว โดยนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า โครงการปุ๋ยคนละครึ่งเป็นโครงการหลักของรัฐบาลที่จะช่วยลดต้นทุนการผลิตให้ชาวนา โดยช่วยเหลือค่าปุ๋ย ไร่ละไม่เกิน 500 บาท สูงสุด 20 ไร่ เป็นเงิน 1 หมื่นบาท แต่มีปัญหามากมาย ทั้งการลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน สูตรปุ๋ยที่อาจไม่ตรงใจชาวนา ร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ที่สำคัญคือเกษตรกรต้องสำรองเงินไปซื้อปุ๋ยก่อนครึ่งหนึ่ง ชาวนาฝากมาอยากให้รัฐบาลทบทวน ถ้าเป็นไปได้อยากได้การช่วยเหลือแบบไร่ละพันเหมือนเดิม เอาปุ๋ยคนละครึ่งคืนไป เอาไร่ละพันกลับมา

นายฉลาด ขามช่วง สส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ถ้ารัฐบาลจริงใจต่อเกษตรกร ขอให้ยกเลิกโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง แต่โครงการเยียวยาชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ขอให้คงไว้ตามเดิม

รุมถล่มรัฐบาลบี้ทบทวนใหม่

นายทินพล ศรีธเรศ สส.กาฬสินธุ์ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ชาวนา จ.กาฬสินธุ์ กังวลกับโครงการปุ๋ยคนละครึ่งจะตอบโจทย์ช่วยเหลือชาวนาจริงหรือไม่ ถ้าชาวนาไม่มีเงินสมทบเติม เพื่อซื้อปุ๋ยจะทำอย่างไร ปกติถ้าชาวนาไม่มีเงินก็จะเชื่อปุ๋ยมาก่อน หรือนำปุ๋ยจากกองทุนหมู่บ้านมาใช้ เมื่อขายผลผลิตได้แล้วจึงนำเงินไปใช้หนี้ แต่โครงการปุ๋ยคนละครึ่งต้องนำเงินไปใส่สมทบก่อน นี่คือข้อกังวลชาวนา ซ้ำร้ายกว่านั้นได้ยินมาว่า หากมีโครงการปุ๋ยคนละครึ่งแล้ว จะไม่มีโครงการไร่ละพัน ทำให้ชาวนาทุกข์ใจมากขึ้น ขอเรียกร้องให้มีโครงการไร่ละพันอยู่เหมือนเดิม เพราะตอบโจทย์ชาวนามากกว่า ฝากรัฐบาลและ รมว.เกษตรฯทบทวน พร้อมชี้แจงให้ประชาชนทราบ

บอกชาวนาฮือต้านคว่ำโครงการ

นายสนอง เทพอักษรณรงค์ สส.บุรีรัมย์ พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากชาวนาเกี่ยวกับปุ๋ยคนละครึ่งที่รัฐบาลกำลังดำเนินโครงการ เนื่องจากโครงการนี้แทนที่จะช่วยเหลือกลับซ้ำเติม เพราะประชาชนต้องไปกู้เงินมาล่วงหน้า เพื่อมาสมทบก่อนปุ๋ยที่ได้ไม่แน่ใจจะมีคุณภาพถูกต้องตามที่ต้องการหรือไม่ และไม่สามารถที่จะนำเงินเหล่านี้ไปใช้ช่วยลดปัจจัยการผลิตด้านอื่นๆได้ ไม่เหมือนโครงการไร่ละ 1,000 บาท ที่เกษตรกรได้รับเงินโดยตรง ไม่ต้องมีหนี้สิน นำเงินไปใช้ลดต้นทุนการผลิตทั้งค่าเก็บเกี่ยว ค่าไถ ค่าหว่าน ค่าปุ๋ย ได้ทุกอย่างครบวงจร ขอให้รัฐบาลทบทวนโครงการนี้ เพื่อให้มีประสิทธิภาพชาวนาได้รับประโยชน์สูงสุดตามนโยบายรัฐบาล

นายวินัย ภัทรประสิทธิ์ สส.พิจิตร พรรคภูมิใจไทย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ค.เกษตรกร อ.วังทรายพูน จ.พิจิตร ทำหนังสือถึงตนไม่เห็นด้วยโครงการปุ๋ยคนละครึ่ง อยากได้โครงการเดิมที่รัฐบาลเคยช่วยเหลือให้เงินช่วยเพิ่มผลผลิตชาวนาไร่ละ 1,000 บาท ฝากหนังสือดังกล่าวไปยัง ครม.และรัฐมนตรี ให้รับทราบด้วย

ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง
ศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง

ปชป.จี้เลิกคิดตัดเงินช่วยชาวนา

นายศักดิ์สิทธิ์ ขาวทอง สส.สงขลา รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคกังวลว่ารัฐบาลจะยกเลิกโครงการเงินช่วยเหลือเกษตรกรไร่ละ 1 พันบาท ริเริ่มสมัยนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็น รมว.เกษตรฯ เพื่อมาจัดทำโครงการปุ๋ยคนละครึ่งแทนมีลักษณะการบริหารโครงการคล้ายโครงการจำนำข้าวสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เพราะดำเนินการผ่านคนกลางผู้ผลิตปุ๋ย ผู้ค้าปุ๋ย เป็นไปได้สูงที่จะเกิดโอกาสทุจริต บกพร่อง ผิดพลาดในการใช้งบฯ ขณะที่โครงการประกันรายได้เกษตรกรของรัฐบาลชุดที่แล้วบริหารจัดการโดยกระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรฯ โอนเงินสดเข้าบัญชีเกษตรกรโดยตรง จึงไม่มีการทุจริตจากฟังเสียงพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่เห็นว่าหากได้รับเงินผ่านบัญชี จะเลือกปุ๋ยตามสูตรที่ต้องการได้ ขอให้รัฐบาลทบทวนศึกษาโครงการปุ๋ยคนละครึ่งให้รอบด้าน ไม่ควรยกเลิกโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าวหรือโครงการไร่ละ 1,000 บาท เพราะสร้างความยั่งยืนของการพัฒนากลุ่มเกษตรกรชาวนา

14 ฝ่ายค้านไม่ลงมติงบเพิ่มเติมปี 67

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาถึงผลการลงมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ค.ด้วยคะแนน 197 ต่อ 164 ตรวจสอบพบว่ามีเสียง สส.ฝ่ายค้าน 14 เสียง ไม่ได้ร่วมลงคะแนน โดยพรรคก้าวไกลหายไป 4 เสียง ได้แก่ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ สส.ฉะเชิงเทรา นางจุฬาลักษณ์ ขันสุธรรม สส.เชียงรายและนายปรีดี เจริญศิลป์ สส.นนทบุรี พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ลงคะแนน 10 คน เช่น นายเดชอิศม์ ขาวทอง สส.สงขลา นายชัยชนะ เดชเดโช สส.นครศรีธรรมราช นายจักรพันธ์ ปิยพรไพบูลย์ สส.ประจวบคีรีขันธ์ นายทรงศักดิ์ มุสิกร สส.นครศรีธรรมราช ว่าที่ ร.ท.ยุทธการ รัตนมาศ สส.นครศรีธรรมราช นายสมยศ พลายด้วง สส.สงขลา

6 งูเห่าแหกคอกโหวตหนุนรัฐบาล

ขณะเดียวกัน ยังพบว่ามีเสียง สส.ฝ่ายค้านอย่างพรรคไทยสร้างไทย อีก 3 คน ที่โหวตสวนมติพรรค โดยร่วมลงมติรับหลักการร่างงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี 2567 ได้แก่ นางสุภาพร สลับศรี สส.ยโสธร นายหรั่ง ธุระพล สส.อุดรธานี นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี ที่เคยโหวตสวนมติพรรคมาหลายครั้ง และมีข่าวจะย้ายไปอยู่พรรคเพื่อไทย เช่นเดียวกับ สส.พรรคเล็ก อีก 3 พรรค ที่ร่วมลงมติรับหลักการให้รัฐบาลเช่นกันคือ นายปรีดา บุญเพลิง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน นายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ และนายกฤดิทัช แสงธนโยธิน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคใหม่

22 สส.ซีกรัฐบาลหายไม่ลงคะแนน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วน สส.พรรคร่วมรัฐบาลมี 22 คนไม่ร่วมลงมติ ประกอบด้วย สส.เพื่อไทย 7 คน อาทิ นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ สส.บัญชีรายชื่อ นายวันนิวัติ สมบูรณ์ สส.ขอนแก่น พรรค ภท. 2 คน ได้แก่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล รมช.ศึกษาธิการ พรรค พปชร. 6 คน อาทิ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ นางขวัญเรือน เทียนทอง สส.สระแก้ว นายสะถิระ เผือกประพันธุ์ สส.ชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ 4 คน อาทิ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ นายอนุชา นาคาศัย สส.ชัยนาท พรรค ชทพ. 1 คน นายพาณุวัฒณ์ สะสม ทรัพย์ สส.นครปฐม พรรคประชาชาติ 1 คน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม พรรคเสรีรวมไทย 1 คน นายมังกร ยนต์ตระกูล สส.บัญชีรายชื่อ

อนุทิน ชาญวีรกูล
อนุทิน ชาญวีรกูล

“อนุทิน” ยัน ภท.หนุนดิจิทัลวอลเล็ต

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์กรณีฝ่ายค้านเตือนพรรคร่วมรัฐบาลเห็นชอบร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 มาใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต อาจเข้าข่ายสมรู้ร่วมคิดกระทำขัดกฎหมายว่า เท่าที่ได้รับฟังการชี้แจงทั้งในคณะกรรมการดิจิทัล ที่ประชุม ครม. คณะกรรมการกฤษฎีกาและสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ยืนยันว่าถูกกฎหมาย และร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวเป็นกฎหมายผ่านสภาฯโดยเสียงข้างมาก ถือเป็นความรับผิดชอบต่อกัน เมื่อเป็นรัฐบาลผสมต้องสนับสนุนซึ่งกันและกัน ถ้าขัดกันไปขัดกันมาเป็นรัฐบาลไม่ได้ เมื่อถามย้ำว่าพรรค ภท.สนับสนุนดิจิทัลวอลเล็ตเต็มที่ใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ดูจากเสียงโหวตในสภาฯ เสียงสนับสนุน 297 เสียงผ่านฉลุย มีพรรค ภท.แน่นอน เป็นคำตอบอยู่แล้ว นโยบายของพรรคร่วมรัฐบาล ถ้าเป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราต้องร่วมกันสนับสนุน หลักการต้องสนับสนุนนโยบายซึ่งกันและกัน

ย้ำโหวตค้านนำกัญชาคืนยาเสพติด

นายอนุทินกล่าวอีกว่า แต่เรื่องกัญชาเป็นระดับกระทรวงไม่ใช่เรื่องของรัฐบาล ได้ชี้แจงต่อนายกฯและนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและรมว.พาณิชย์ว่า พรรค ภท.ไม่สบายใจตรงไหนบ้าง ยังมีข้อมูลและการศึกษาอีกเยอะก่อนจะตัดสินใจนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และตนเป็น รมว.มหาดไทย ต้องเข้าไปลงมติในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) คงสงวนท่าที โหวตไม่เห็นด้วย ไม่สามารถให้ความเห็นชอบได้ กรรมการที่เคยเอากัญชาออกจากยาเสพติด และกรรมการที่ตั้งเรื่องเพื่อจะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดเป็นชุดเดียวกัน ถ้าโหวตก็แพ้ แต่เราต้องมีท่าทีของเรา เราเห็นต่างได้ แต่ขัดแย้งไม่ได้ ตนเคยอยู่กระทรวงสาธารณสุขมาก่อน ข้อมูลการนำกัญชาออกจากยาเสพติดมาจาก สธ. แต่เมื่อเปลี่ยนแปลงตัวผู้บริหารระดับสูงของกระทรวง ทำไมจึงไม่นำข้อมูลเดิมให้รัฐมนตรีท่านใหม่ทราบ

เผย “วัน” มีพรรคสังกัดแล้ว

นายอนุทินยังกล่าวถึงโอกาสที่พรรค ภท.มีโอกาสจะรับนายวัน อยู่บำรุง อดีตสมาชิกพรรค พท.มาเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ว่า ได้ข่าวว่านายวัน ไปสมัครสมาชิกอีกพรรคหนึ่งแล้ว แต่ไม่รู้พรรคใด ให้ไปถามเจ้าตัวเอง หากนายวันยังไม่พูดตนจะไปพูดไม่ได้ เมื่อถามว่าพรรคที่นายวันไปสังกัดอยู่ เป็นหนึ่งในพรรคเล็กที่อยู่ภายใต้การดูแลของพรรค ภท. ตามที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ แซวหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ไม่รู้ เพราะตอนลาออกไม่ได้บอกตน แต่เคยโทร.มาหาตอนช่วงแต่งตั้งข้าราชการการเมือง บอกว่าอาจได้เข้ามาเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีที่กระทรวงมหาดไทย ตนจะโอเคหรือไม่ ได้ตอบกลับว่าโอเคอยู่แล้ว เพราะป็นบุคคลมีความสามารถ และด้วยความสัมพันธ์และความเคารพที่ตนมีกับ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง นายวันเคยเป็นเลขานุการของนายชวรัตน์ ชาญวีรกูล พ่อของตน หากนายวันจะมาเป็นสมาชิกพรรค ต้องโทร.มาบอกตน แต่ตอนนี้อย่าเพิ่งไปคิด เรื่องยังไม่เกิด

“วัน” แจงยังไม่เข้าสังกัดใดแต่ไม่เลิกแน่

นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ตอนนี้ยังไม่มีพรรคการเมืองใดติดต่อเข้ามา แต่ยืนยันไม่หยุดการเมืองแน่นอน เพราะตระกูลอยู่บำรุง เป็นตระกูลการเมืองที่ทำงานรับใช้ประชาชนมายาวนาน ตอนนี้เหมือนนักการเมืองฟรีเอเย่นต์ ยังไม่รีบร้อนอะไร เพราะการเมืองกว่าจะมีการเลือกตั้งอีกนานคอยดูไปก่อน ตอนนี้ยังทำงานการเมืองรับใช้ประชาชนเหมือนเดิม มีประชาชนร้องทุกข์เข้ามาทุกวัน อะไรประสานช่วยเหลือได้ยังช่วยอยู่เหมือนเดิม ยังมีครอบครัวใจถึงพึ่งได้รวมตัวกันสร้างความดีช่วยเหลือประชาชนต่อเนื่อง รวมตัวกันแทบทุกจังหวัด หยุดไปช่วงก่อนเลือกตั้งปี 66 ตอนนี้กลับมาทำงานช่วยเหลือประชาชนเหมือนเดิมแล้ว

สกลธี ภัททิยกุล
สกลธี ภัททิยกุล

“สกลธี” ไขก๊อกพ้นพลังประชารัฐ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 18 ก.ค.นายสกลธี ภัททิยกุล กรรมการบริหารพรรคและสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นหนังสือถึงนายทะเบียนพรรค พปชร.ขอลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร.ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ให้เหตุผลว่ามีภารกิจส่วนตัวหลายประการ ต่อมานายสกลธีโพสต์เฟซบุ๊กขอบคุณพรรค พปชร.ที่ให้โอกาสและอิสระทำงาน แต่หลังเลือกตั้งปี 66 ต่อเนื่องมาจนมีรัฐบาลใหม่ บริบทการเมืองทั้งประเทศเปลี่ยนไปเยอะมากๆ จึงลาออกเพื่อได้ออกมาทบทวน และศึกษาเพิ่มเติมถึงแนวทางใหม่ๆในการทำงานการเมืองต่อไป

“เต้” ไม่ผิดหนีสภาฯพา นศ.ดู 4 คิงส์

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงการณ์ไต่สวนนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ กรณีลาประชุมสภาฯ ไปชมภาพยนตร์ “4 KINGS อาชีวะ ยุค 90” ปี 2564 เข้าข่ายความผิดทางจริยธรรมหรือไม่ ว่า ที่ประชุม ป.ป.ช.มีมติว่าไม่เป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม ไต่สวนพบว่านายมงคลกิตติ์ยื่นลาการประชุมสภาฯวันที่ 15 ธ.ค.64 ตามระเบียบสภาฯว่าด้วยการลาการประชุมสภาฯ พ.ศ.2562 ระบุเหตุเป็นภารกิจกับประชาชน พานักศึกษาไปดูภาพยนตร์ 4 KINGS เป็นเหตุจำเป็นของ สส.ที่ไม่อาจก้าวล่วงได้ แม้มีพฤติการณ์โพสต์เรื่องการลาประชุมอาจส่งผลต่อภาพลักษณ์ เสื่อมเสียต่อเกียรติ สส.ตามมาตรฐานจริยธรรม แต่ ป.ป.ช.พิจารณาพฤติการณ์ประกอบเจตนาและความเสียหายแล้วมีลักษณะไม่ร้ายแรง จึงมีมติไม่เป็นการกระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง

ม็อบบุกสภาหวั่นไม่นิรโทษ ม.112

เมื่อเวลา 11.30 น.ที่รัฐสภา เครือข่ายนิรโทษกรรมประชาชน นำโดย น.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ หรือ ทนายเมย์ ทนายจากศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน พร้อมตัวแทนผู้ถูกดำเนินคดีความผิดตาม ป.อาญา มาตรา 112 รวม 12 คน อาทิ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ น.ส.ณัฐนิช ดวงมุสิทธิ์ หรือใบปอ เข้ายื่นหนังสือต่อคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ. นิรโทษกรรม เพื่อสนับสนุนให้นิรโทษกรรมประชาชน ผู้ร่วมชุมนุมทางการเมือง มี น.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ก.ก.และโฆษก กมธ. รับเรื่อง โดย น.ส.พูนสุขกล่าวว่า เคยมายื่นร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนต่อสภาฯ ผ่านมาเกือบ 6 เดือนแล้ว มีข้อกังวลว่า กมธ.จะไม่รวมนิรโทษกรรมในคดีมาตรา 112 และมาตรา 110

ขู่ รบ.ไม่เหลียวแลต้องคุยบนถนน

น.ส.ภัสราวลีกล่าวว่า ขอยืนยันอีกครั้ง การนิรโทษกรรมครั้งนี้จำเป็นต้องรวมมาตรา 112 เข้าไปด้วย หากไม่รวมปัญหาความขัดแย้งทางสังคมที่รัฐบาลอยากให้จบลงจะไม่มีวันจบ ความขัดแย้งจะไม่ได้จบลงเพียงเพราะมีการตั้งรัฐบาลชุดใหม่ แต่ต้องให้ประชาชนมีพื้นที่ในการพูดคุยใช้เสรีภาพได้อย่างเสมอหน้ากัน หากรัฐบาลและ กมธ.ไม่เหลือพื้นที่พูดคุยเรื่องนี้เลยเท่ากับว่าผลักดันให้ต้องไปคุยกันบนถนน รัฐบาลชุดใหม่ควรจริงจังกับการคืนความปกติให้เรื่องนี้เสียที ขณะที่ น.ส.ณัฐนิชกล่าวว่า น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง เสียชีวิตเพราะกฎหมายนี้ และกฎหมายนี้เหมือนกับกฎหมายอื่นๆ ไม่ได้มีความศักดิ์สิทธิ์เหนือกฎหมายใด ไม่มีเหตุให้นิรโทษกรรมไม่ได้ ตอนนี้ไม่มีเวลาถกเถียงรวมหรือไม่รวม แต่ควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียกับเพื่อนเราอีก

กมธ.ชง 3 ปมนิรโทษ ม.112 เข้าสภา

ต่อมาเวลา 15.00 น. นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ประธาน กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม สภาฯ แถลงภายหลังการประชุม กมธ.เพื่อสรุปแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรมว่า กมธ.ได้ข้อยุติเกือบหมดแล้วดังนี้ 1.ควรนิรโทษกรรมการกระทำหรือมูลเหตุจูงใจทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548-ปัจจุบัน 2.ไม่นิรโทษความผิดต่อชีวิตหรือละเมิดสิทธิมนุษยชนร้ายแรง 3.ความผิดมาตรา 110 มาตรา 112 มีความอ่อนไหวทางการเมือง กมธ. มีมติร่วมกันโดยไม่มีการโหวต เป็นข้อสรุปส่งความเห็นให้สภาฯพิจารณาก่อนสิ้นเดือน ก.ค. แบ่งเป็น 3 กลุ่ม 1.ไม่เห็นด้วยให้นิรโทษ 2.ควรนิรโทษโดยไม่มีเงื่อนไข และ 3.ควรนิรโทษแต่มีเงื่อนไข เช่น มีคณะกรรมการพิจารณาออกมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เป็นต้น

ตั้งทีมชงล้างผิดแบบมีเงื่อนไข

นายนิกร จำนง เลขานุการ กมธ.กล่าวว่า กมธ.เตรียมรายงานไว้ 3 เล่ม ส่งพิมพ์แล้ว 2 เล่ม เหลือ 1 เล่ม คือ ฝ่ายที่มีความเห็นว่า ควรนิรโทษคดีมาตรา 112 แบบมีเงื่อนไข จึงตั้งคณะทำงานขึ้นเพื่อสรุปความเห็นทั้งหมดนำเข้าที่ประชุมสภาฯ ขณะที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ก.ก.ในฐานะกมธ. กล่าวว่า นายชูศักดิ์มอบให้ช่วยรวบรวมความเห็นฝ่ายที่เห็นด้วยให้นิรโทษกรรมคดีมาตรา 112 ที่มีข้อถกเถียงพอสมควร แต่การนิรโทษที่กำหนดเงื่อนไขมาตรการป้องกันการกระทำผิดซ้ำเป็นข้อเสนอที่ไม่เคยมีมาก่อนในสังคม เพื่อให้ฝ่ายเห็นต่างพิจารณาอาจยอมรับกันได้ อาทิ ก่อนจะมีสิทธิได้รับการพิจารณานิรโทษต้องแถลงข้อเท็จจริงของผู้กระทำผิดว่า เหตุใดจึงทำแบบนั้น มีแรงจูงใจทางการเมืองอย่างไร หรืออาจถูกถามมีใครอยู่เบื้องหลังหรือไม่ อาจกำหนดเงื่อนไขว่า ต้องไปผ่านกระบวนการอื่นๆ ทำกิจกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือรับเงื่อนไขห้ามกระทำการอย่างใดอย่างหนึ่งภายในเวลากี่ปี เพื่อเป็นกันชนให้สังคมในช่วงเปลี่ยนผ่านลดความขัดแย้งทางการเมือง หลังจากได้รับนิรโทษกรรมแล้วอาจต้องเข้าร่วมกิจกรรม กระบวนการ หรือรายงานตัวอย่างต่อเนื่อง

นายกฯหนุน ตร.-ทบ.ลุยปราบยา

เมื่อเวลา 09.30 น.ที่ทางเชื่อมตึกไทยคู่ฟ้ากับตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมอบอุปกรณ์ป้องกัน และตอบโต้กลุ่มผู้ค้ายาเสพติด แก่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) และกองทัพบก (ทบ.) อาทิ กล้องบันทึกภาพเคลื่อนไหว อากาศยานไร้คนขับ กล้องอำพรางแบบเคลื่อนที่ ชุดเฝ้าตรวจระยะไกลทางยุทธวิธีกระเป๋าหิ้ว เครื่องผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ มี พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นผู้รับมอบ นายกฯกล่าวว่า เรื่องยาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ กัดกร่อนสังคมไทยมายาวนานถึงเวลาต้องกำจัดให้หมดไป ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่เม็กซิโกใช้โดรนขนยาเราต้องพัฒนา ไม่ใช่แค่ยาบ้าอย่างเดียวเฮโรอีนก็สำคัญส่งออกผ่านไทยไปสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ได้พูดคุยกับเอกอัครราชทูตออสเตรเลีย และโทรศัพท์หารือเอกอัครราชทูตสหรัฐฯเพื่อช่วยกันตัดตอน และบูรณาการทุกภาคส่วนทุกพื้นที่ของประเทศ ไม่อุ่นใจปัญหาเยอะมากเหลือเกิน ไม่ใช่ค่อยๆทำต้องเร่งรีบทำ

ขันนอต ปปง.เร่งยึดทรัพย์ตัดต้นตอ

ต่อมาเวลา 10.10 น.ที่ห้องประชุม 1201 ชั้น 12 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เขตปทุมวัน กทม.รับฟังการดำเนินงานด้านยาเสพติดของ ปปง.มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธาน ปปง.นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วย ผบ.ตร. เข้าร่วม โดยเลขาธิการ ปปง. รายงานสรุปผลการดำเนินการรอบปี 66-67 ยึด-อายัดทรัพย์สินเกี่ยวกับยาเสพติดกว่า 523,474,645 บาท นายกฯกล่าวมอบนโยบายว่า ปัจจุบันจับยาบ้าได้เยอะ 4-5 เท่าแต่ราคายาบ้าไม่เพิ่มขึ้น แสดงว่านำเข้ามาเยอะมาก และต้นทุนการผลิตต่ำ ต้องรีบจัดการให้เร็วที่สุด ไม่ใช่บางคดียึดทรัพย์ บางคดีไม่ยึดทรัพย์ ต้องพิสูจน์ให้ได้ฟอกเงินหรือไม่ มีกฎหมายมีอำนาจอยู่แล้วต้องใช้อำนาจยึดทรัพย์มาก่อน ต้องการตัดต้นตอการผลิตทั้งหมด อย่าให้เป็นที่เป็นข้อครหานินทา และอยากให้เข้มงวดการทำงานเชิงรุกเร่งขยายผลทั้ง ตร.-ป.ป.ส.-ปปง.

สั่งเข้มทำเชิงรุกอย่าทำแบบไซโล

นายกฯกล่าวว่า นอกจากนี้ให้ ตร. กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการเร่งทำงานเชิงรุก ปิดเว็บไซต์พนันออนไลน์ ขยายผลยึดทรัพย์อย่างเข้มงวด ตัดวงจรเจ้าของเว็บไซต์ รวมถึงร่วมกับ ปปง.-กสทช.ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ข้ามชาติ ตัดตอนการโอนเงินบัญชีม้า ยึดทรัพย์เพื่อมาเยียวยาผู้เสียหาย ตลอดจนหาแนวทางการแก้ไขธุรกรรมทางการเงินให้รัดกุมไม่ให้ประชาชนถูกหลอกลวง และพัฒนาตนเองด้วยองค์ความรู้ใหม่ๆให้เท่าทันมิจฉาชีพ อยากให้ทำงานร่วมกันให้เยอะๆอย่าทำงานเป็นไซโล ให้ทำงานเชิงรุกมองปัญหาไปข้างหน้า

“โรม” ตั้งกระทู้ 5 แบงก์เอี่ยวฆ่าเมียนมา

เมื่อเวลา 10.40 น. ที่รัฐสภามีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯเป็นประธานที่ประชุม เพื่อพิจารณาวาระกระทู้ถามสดของนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) สอบถามนายกรัฐมนตรี ถึงนโยบายที่มีต่อบริษัทที่สนับสนุนการจัดซื้ออาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา ว่า สภาสิทธิมนุษยชน สหประชาชาติ ตีพิมพ์รายงาน Banking on Death Trade How Banks and Governments Enable the Military Junta in Myanmar ระบุ มีธนาคาร 5 แห่งของไทยทำธุรกรรมการเงินกับรัฐบาลเมียนมาที่ใช้ไปซื้ออาวุธสังหารประชาชนชาวเมียนมา อยากทราบจุดยืนของรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ที่มีนโยบายให้ประเทศไทยเข้าเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน แห่งสหประชาชาติ และจะมีมาตรการอะไรออกมา

มาริษ เสงี่ยมพงษ์
มาริษ เสงี่ยมพงษ์

บัวแก้วโต้ไม่พบหลักฐานเกี่ยวข้อง

นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ ชี้แจงแทนนายกฯว่า รัฐบาลยืนยันไม่มีนโยบายสนับสนุนการละเมิดสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมการใช้ธุรกรรมธนาคารขัดต่อกฎสหประชาชาติ ขอยืนยันว่าในรายงานของสหประชาชาติดังกล่าว เป็นเอกสารประกอบการประชุม ระบุชัดเจน ไม่พบหลักฐานธนาคารไทยที่รับรู้ว่าธุรกรรมดังกล่าวเป็นการจัดซื้อยุทธภัณฑ์ หรือมีกองทัพเมียนมาเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์สุดท้าย และไม่พบหลักฐานว่ารัฐบาลไทยรับรู้การทำธุรกรรมดังกล่าว ทางการไทยไม่ได้นิ่งเฉย ได้ตรวจสอบจริงจัง ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และ ปปง.แถลงแล้วว่าไม่สนับสนุนการจัดซื้ออาวุธแก่องค์กรทหารเมียนมา และห้ามนำธุรกรรมทางการเงินของธนาคารไปใช้จัดซื้ออาวุธเพื่อนำไปสู่การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างชัดเจน กรณีที่เกิดขึ้นรัฐบาลได้ให้ธนาคารที่ได้รับคำร้องขอตรวจสอบรายละเอียด ทั้งหมดทำตามกระบวนการมาตรฐานสากล และกระทรวงฯจะเรียกประชุมในวันที่ 24 ก.ค. ติดตามตรวจสอบอย่างเข้มข้น และตักเตือนให้ระมัดระวังการทำธุรกรรมต่อไป

คปท.ไม่เลิกราวี “ทักษิณ”

เมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่บังคับคดีและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้นำคำสั่งศาลแพ่งเมื่อวันที่ 17 ก.ค. ให้กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) และกลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) ยุติการชุมนุมหลังศาลมีคำสั่งภายใน 7 วัน ไปติดประกาศในบริเวณเชิงสะพานชมัยมรุเชฐ หน้าทำเนียบรัฐบาล แต่การชุมนุมยังคงเป็นไปตามปกติ โดยนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท.กล่าวว่า คำสั่งศาลที่ให้ยุติการชุมนุมใน 7 วัน เจ้าหน้าที่ให้นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำสั่ง แต่เรามองว่าควรนับจากวันที่นำหมายมาติด โดยวันที่ 18 ก.ค. ทีมกฎหมายจะไปคัดคำร้องฉบับเต็มเพื่อขออุทธรณ์คำสั่งศาล เพราะผู้ร้องยื่นคำร้องไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง และไม่ว่าศาลจะมีคำสั่งออกมาอย่างไรพร้อมปฏิบัติตาม แต่หากศาลไม่รับอุทธรณ์ อาจย้ายสถานที่ชุมนุม ยืนยันจะยังคงชุมนุมเพื่อให้ตรวจสอบกรณีศาลสั่งจำคุกนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไม่ติดคุกแม้แต่วันเดียว และตรวจสอบกฎหมายนิรโทษกรรมที่เหมารวมคดีมาตรา 112 ด้วย

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่