"วัน อยู่บำรุง" ลาออก เพื่อไทย ยัน ไม่คิดทรยศ เผยภาพหลุด วันเลือกตั้ง อบจ.ปทุมฯ แค่ให้กำลังใจ "บิ๊กแจ๊ส" หลังปิดหีบ ลั่น คุยหัวหน้า-กก.บห. ทำตัดสินใจลาออก ชี้ "เฉลิม" พร้อมโดนขับตลอด
วันที่ 15 ก.ค. 67 เวลา 11.00 น.ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายวัน อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางมายื่นหนังลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย ต่อ กกต. โดยหลังยื่นหนังสือ นายวัน ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ตนมาลาออกจากสมาชิกพรรคเพื่อไทย โดยได้ลาออกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และตนขอกล่าวอะไรสักเล็กน้อย เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา หลังประชุมพรรคเพื่อไทยเสร็จสิ้น ตนไปพบ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนกล่าวประโยคแรกว่า วันนี้พี่มามอบตัว และทราบว่าหัวหน้าพรรคและผู้บริหารพรรค ไม่สบายใจ ที่มีภาพของตนอยู่ในวันนับคะแนน ที่บ้านพัก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ในวันเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี ตนเรียนกับหัวหน้าว่า "ครอบครัวอยู่บำรุง จงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด ไม่เคยคิดคดทรยศแต่อย่างใด ทั้งสิ้น"
ตนคิดไม่รอบคอบ และคิดไม่ถึงว่า มีภาพตนออกไปวันนับคะแนน บ้าน พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะทำให้หัวหน้าพรรคและผู้บริหารไม่สบายใจ ตนเรียนว่า ครอบครัววันอยู่บำรุง กับ ครอบครัวธูปกระจ่าง รู้จัก และชอบพอกันมาหลายสิบปี ส่วนที่ตนไปนั้น เป็นเวลาที่ปิดหีบแล้ว ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงผลของคะแนน และจนไปถึงประมาณ 20.00 น.เศษ ช่วงที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ แพ้แล้ว ตนไปให้กำลังใจในฐานะ อา-หลาน และเมื่ออธิบายก็ไม่มีท่าทีที่ดีขึ้น ซึ่งบทสนทนามีมากกว่านั้น มีหลายประโยคที่สื่อไม่ทราบ จนเป็นเหตุที่ตนต้องพูดไปว่าขอลาออก ซึ่งนั้นคือ การลาออกก็จากตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี ส่วนวันนี้ ที่ตนลาออก เนื่องจากตนไม่เข้าตา ผู้ใหญ่-ผู้บริการ และท่านไม่แฮปปี้ ตนก็ไม่สบายใจ
...
ทั้งนี้ หากไม่ลาออกจากสมาชิกพรรค หากมีกิจกรรมอะไร ตนก็ต้องร่วมงาน และคงไม่หน้าด้านพอ ไปเดินเกะกะรกหูรกตาผู้ใหญ่ของพรรค ตนเป็นแค่ สส.กทม.สอบตก แต่อย่าลืมว่า กทม.มี 33 คน เพื่อไทย สอบตก 32 คน หากเลือกตั้งครั้งที่แล้ว เพื่อไทยได้ 32 คน และตนตกคนเดียว ตนจะพิจารณาตนเองตั้งแต่ปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม พรรคเพื่อไทย ต้องกลับไปพิจารณาด้วยว่า นโยบายหาเสียงของพรรคครั้งที่แล้วเป็นอย่างไร ทำไมได้ สส.กทม. พรรคเพื่อไทย เพียงคนเดียว จะว่าเป็นความผิดผู้สมัคร กทม. ก็ไม่น่าจะใช่
นายวัน กล่าวต่อว่า คนเราอย่าไปเกรงกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่จงหาทางเอาตัวรอดจากการเปลี่ยนแปลงให้ได้ ชีวิตต้องดำเนินต่อไป และตนไม่ทราบว่า กรณีของตน จะเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ ย้ำ ตนรู้ว่าตนผิด จึงไปมอบตัวพร้อมอธิบายความ แต่ไม่คิดว่า ความผิดจะหนักหนาสาหัสเพียงนี้ ตนคิดไปเองว่า จะโดนตำหนิว่ากล่าวตักเตือน ไม่เคยคิดว่าจะเลยเถิดบานปลายถึงขนาดนี้
เมื่อถามว่า การลาออกเป็นการตัดสินใจเองหรือทางพรรคเพื่อไทยบีบ นายวัน กล่าวว่า บทสนทนาวันนั้น มีมากกว่านี้ จึงเป็นเหตุให้ตนตัดสินใจลาออกจากกรรมการผู้ช่วย และสมาชิกพรรค ส่วนกรณีที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี นายวรชัย เหมะ ไปวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของนายกรัฐมนตรี ว่า มันผิดมารยาทหรือไม่ หรือมีคนอยู่เบื้องหลัง นายวรชัย ที่มากบารมีกว่านายกรัฐมนตรี นายวรชัย จึงออกมาพูดได้ หากย้อนเวลากลับไปได้ วันที่ 30 มิถุนายน 2567 ตนก็จะตัดสินใจเช่นเดิม คือ การไปให้กำลังใจ พล.ต.ท.คำรณวิทย์
นายวัน ยืนยันว่า การลาออก เป็นเหตุการณ์ครั้งนี้เท่านั้น หากอยู่ไป คนที่ไม่เข้าตาก็ไม่มีประโยชน์ ที่สำคัญตระกูลอยู่บำรุง ประจบสอพลอใครไม่เป็น และวันที่ตนจะลาออกจากกรรมการผู้ช่วย นางสาวแพทองธาร ก็ไม่ได้รั้งไว้ และไม่ได้พูดอะไร
ส่วนกรณีวันที่ตนไปมอบตัวกับหัวหน้าและกรรมการบริหารพรรค ยังไม่คิดจะลาออกจากตำแหน่งใดทั้งสิ้น เนื่องจากตนก็อยากมีตำแหน่ง และต้องการก้าวหน้าในหน้าที่การงาน แต่ก็ไม่ยึดติดกับตำแหน่ง ไปอยู่แล้วเขาไม่มีความสุขและจะไปเสนอหน้าอยู่ต่อไปทำไม ส่วนวันที่ตนได้เข้าไปพูดคุยนั้น มี หัวหน้าพรรค มีตน มีนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย และผู้อำนวยการพรรคท่านหนึ่ง ทั้งนี้ ตนมีผู้ติดตาม ในสื่อโซเชียลมีเดีย 1 ล้าน 2 แสน 5 หมื่นคน ยืนยันว่า ตนยังอยากทำงานการเมืองต่อไป หากมีพรรคการเมืองใด คิดว่าตนพอมีประโยชน์ จำนวนผู้ติดตาม 1 ล้านกว่าคน พอจะช่วย สส.ปาร์ตี้ลิสต์ได้ ก็ติดต่อมาได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครติดต่อเข้ามา
นายวัน ยังกล่าวยืนยันว่า "ครอบครัวอยู่บำรุง รักชาติ ศาสนา และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์"
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หากชวนสามารถเข้าได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า นายอนุทิน เป็นพี่ที่ตนรักและเคารพ เนื่องจากตนมีตำแหน่งทางการเมืองครั้งแรกปี 2531 เป็นผู้ช่วยเลขารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ปฏิบัติงานกับ นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล อดีตรัฐมนตรีช่วย และเมื่อ 1-2 เดือน ที่ผ่านมา ตนก็ไปเยี่ยมท่านมา
เมื่อถามถึง ร้อยตำรวจเอก ดร.เฉลิม อยู่บำรุง อดีต สส.พรรคเพื่อไทย ปัจจุบันยังคงเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ปัจจุบันยังคงอยู่ แต่คุณพ่ออยากให้พรรคเพื่อไทยขับออก และคุณพ่ออายุมาก แต่ความรู้ ความสามารถ ไม่ลดน้อยถอยลงแต่อย่างใดทั้งสิ้น และเขายังคงต้องการมีบทบาททางการเมือง แต่ก็ยังไม่ได้รับโอกาส
เมื่อถามต่อ หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว บุคคลที่ใหญ่กว่าหัวหน้าพรรคเพื่อไทยได้ติดต่อมาบ้าง หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า ไม่มีครับ ส่วน นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ติดต่อกับคุณพ่อตนหรือไม่นั้น นายวัน กล่าวว่า ตนไม่ทราบ แต่ช่วงก่อนเลือกตั้ง คุยกับคุณพ่อตน อาทิตย์ละ 2-3 วัน แต่พอหลังเลือกตั้ง ทุกวันนี้ตนไม่ได้ยินว่า คุณพ่อได้พูดคุยกับนายทักษิณอยู่หรือไม่
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า หลังจากนี้หากมีการพูดคุยกันเราจะกลับไปอยู่กับพรรคเพื่อไทยได้หรือไม่ นายวัน กล่าวว่า มันเลยจุดนั้นไปไกลแล้ว ชีวิตตนต้องดำเนินต่อไป แต่ต้องทบทวนตัวเองอะไรหลายๆ อย่าง และยังคงทำงานกันต่อไป ยืนยันทิ้งท้ายว่า คุณพ่อของตนพร้อมออกจากเพื่อไทยตลอด
นายวัน กล่าวทิ้งท้ายถึงพรรคเพื่อไทยว่า ขอบคุณทุกสิ่งอย่างที่เคยให้โอกาสตนตั้งแต่พลังประชาชน จนมาถึงวันนี้ ตนก็ยังรักพรรคเพื่อไทยและรักผู้บริหารพรรคทุกท่านอยู่เสมอ แต่กลับกัน ตนไม่ทราบว่า ผู้ใหญ่จะยังรักและเอ็นดูตนอยู่หรือไม่ เมื่ออยู่แล้วเขาไม่แฮปปี้ตนก็ต้องถอยออกมา แล้วตนก็มีทางเดินของตนเอง