“โรม” เตรียมตั้งกระทู้ถามสด “เศรษฐา” ปมแบงก์ไทยถูกใช้ทำธุรกรรมจัดซื้ออาวุธไปทำสงครามในเมียนมา หวังนายกฯ มาตอบด้วยตัวเอง ชี้ เป็นการแสดงบทบาทผู้นำในการแก้ปัญหา สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ
วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เปิดเผยว่า ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันที่ 18 กรกฎาคมนี้ ตนจะตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรี กรณีมีรายงานของสหประชาชาติ ระบุว่า สถาบันการเงินของประเทศไทยกำลังถูกใช้เป็นทางผ่านเงินของรัฐบาลทหารเมียนมา เพื่อนำไปสนับสนุนการจัดซื้ออาวุธสำหรับทำสงครามปราบปรามประชาชนในประเทศ โดยมีข้อมูลว่าในปี 2566 ยอดธุรกรรมมีมูลค่ารวมถึง 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
นายรังสิมันต์ เผยต่อไปว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ระดับโลก แม้ในรายงานยังไม่มีหลักฐานชี้ชัดว่ารัฐบาลไทยสนับสนุน หรือมีส่วนร่วมกับธุรกรรมดังกล่าว แต่ในฐานะที่ไทยเป็นชาติสมาชิกของสหประชาชาติ ซึ่งมีจุดยืนคือไม่ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือให้เกิดการจัดซื้ออาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา รัฐบาลไทยควรแสดงออก และมีมาตรการที่ชัดเจนออกมาเพื่อแก้ไขปัญหาตามที่ปรากฏในรายงาน ยกตัวอย่างรัฐบาลสิงคโปร์ หลังจากทราบว่ามีบริษัทสัญชาติสิงคโปร์เข้าไปเกี่ยวข้องกับการสนับสนุนการจัดซื้ออาวุธให้รัฐบาลทหารเมียนมา รัฐบาลสิงคโปร์ก็ตั้งคณะทำงานเพื่อตรวจสอบอย่างจริงจังทันที จนสามารถลดธุรธรรมทางการเงินลงได้ถึงร้อยละ 90
...
ล่าสุด ตนได้ใช้ช่องทาง คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ ที่ตนเป็นประธานกรรมาธิการ เรียกหน่วยงานต่างๆ เข้ามาพูดคุย ทุกฝ่ายเห็นตรงกันในเนื้อหาสาระของรายงาน และพร้อมให้ความร่วมมือเพื่อแก้ปัญหา จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่รัฐบาลต้องถือธงนำเรื่องนี้ และนายกรัฐมนตรีควรมาตอบกระทู้นี้ด้วยตัวเองในฐานะผู้นำประเทศ ไม่ควรมอบใครมาตอบแทน
เนื่องจากที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีพูดเสมอถึงความสำคัญของการเดินทางไปต่างประเทศ ว่าต้องการแนะนำตัว เรียกความเชื่อมั่นจากต่างชาติเข้ามาลงทุน ประเด็นเมียนมานี้เอง จะเป็นโอกาสสำคัญให้นายกรัฐมนตรีแสดงบทบาท สร้างความยอมรับในระดับนานาชาติ รวมถึงแก้ไขปัญหาซึ่งส่งผลกระทบต่อประเทศไทยโดยตรง โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ชายแดนที่ไทยติดกับเมียนมากว่า 2,000 กิโลเมตร อีกทั้งเป็นการยืนยันการให้ความสำคัญต่อประเด็นสิทธิมนุษยชน ในช่วงเวลาที่รัฐบาลไทยเสนอตัวเป็นสมาชิกคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาติ
นายรังสิมันต์ ระบุในช่วงท้ายว่า ดังนั้น หากนายกรัฐมนตรีถือธงนำเรื่องนี้ แก้ปัญหาในบ้านและข้างบ้านอย่างใส่ใจ นายกรัฐมนตรีจะไปเป็นเซลส์แมนขายของนอกบ้าน ก็จะไปอย่างสง่าผ่าเผยมากขึ้น ประเทศไทยจะมีที่ยืนบนเวทีโลก.