นับเป็นนักการเมืองรุ่นใหญ่ระดับแถวหน้าในวงการอีกคนของประเทศไทย สปอตไลต์ส่องหลัง สว.สายสีน้ำเงินตบเท้าเข้าไปเฉิดฉายในเวทีวุฒิสภา ราศีจับถูกมองว่ามีโอกาสสูงขยับนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี

สว.สายสีน้ำเงินที่ถูกกล่าวถึงตรงกับสีของพรรคภูมิใจไทย มีเบื้องหน้าเบื้องหลังเกี่ยวโยงกันหรือไม่ ผู้มีนิกเนมว่า “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขยับมุมคิดให้เห็นข้อมูลอีกด้านหนึ่งว่า ไม่ได้รู้สึกว่าภท.ถูกจับตาเป็นพิเศษหลังเลือก สว.เสร็จ

ภท.โชคดีที่สามารถบริหารสถานการณ์ได้ ร่วมรัฐบาลเป็นพรรคอันดับ 2 ทำหน้าที่เป็นตัวแทนของชาวบ้านในฝ่ายนิติบัญญัติ และอีกมิติที่ร่วมรัฐบาลรับผิดชอบดูแล 4 กระทรวงทำงานตามกรอบ เพื่อผลักดันนโยบายให้บรรลุผลเกิดประโยชน์ต่อบ้านเมือง ตามสโลแกน “พูดแล้วทำ” ไม่ได้มีเจตนาอื่นใด

เลือก สว.ถูกโยงไปถึง “ครูใหญ่” นายเนวิน ชิดชอบ ที่ตีค่ายกลเลือก สว.แตก สว.สายสีน้ำเงินทะลักเข้ามาเยอะ ทำให้ ภท.และหัวหน้าพรรค ภท.ราศีจับเพิ่มมากขึ้น นายอนุทิน บอกว่า “มันไม่มีความเกี่ยวข้องกันนะ”

เนวิน ชิดชอบ
เนวิน ชิดชอบ

...

ภท.ทำหน้าที่เป็นฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติในสภาผู้แทนราษฎร การคัดเลือก สว. สิ่งที่ ภท.มีความเกี่ยวข้องคือ รู้จักคนนั้นคนนี้ โดยไม่ได้เข้าไปช่วยเหลือใดๆ แต่กระทรวงมหาดไทยต้องกำกับดูแลคัดเลือก สว.ให้เกิดความเรียบร้อย ทั้งระดับอำเภอและจังหวัด พอถึงระดับประเทศ หน้าที่หลักเป็นของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)

คนที่ผ่านด่านคัดเลือกส่วนใหญ่คุ้นหน้าคุ้นตา เพราะ ภท.คนลงสมัคร สส.แทบทุกจังหวัด ต้องรู้จักคนแวดวงการเมือง ธุรกิจ ผู้ประกอบการ ดีใจที่คนเหล่านี้ได้รับคัดเลือกเข้ามา จน กกต.ประกาศรับรองผลการเลือก สว.

ไล่เจาะทีละจังหวัด ถูกตั้งข้อสังเกต สว.สายสีน้ำเงินที่ได้ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่จังหวัด สส.พรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน บอกว่า “ไม่ใช่ครับ”

พยายามโยงเพื่อให้ผมเดือดร้อน

ต้องคอยชี้แจงเป็นพัลวัน สว.ที่ได้รับคัดเลือกมาไม่เกี่ยวกับ สส.ภท. สว.จาก จ.ร้อยเอ็ด จ.นนทบุรี ไม่รู้จักสักคน

“สว.มาจาก จ.บุรีรัมย์ ย่อมรู้จักแน่นอน เช่น นายมงคล สุระสัจจะ เป็นอธิบดีกรมการปกครอง สมัยที่คุณพ่อ (นายชวรัตน์ ชาญวีรกูล) ของผมเป็น รมว.มหาดไทย ผมรู้จักตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว

เกรียงไกร ศรีรักษ์
เกรียงไกร ศรีรักษ์

พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ วปอ.รุ่นเดียวกัน อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 รักใคร่สนิทสนม ท่านขอลาออกจากประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทยไปสมัคร สว. ก็ยังยับยั้ง ที่ใครไปบอกว่าผมทำให้ท่านได้เป็น สว. ไม่จริง

อยากให้เป็นประธานที่ปรึกษา รมว.มหาดไทย ดูภารกิจ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ในคนที่ผมสนิทที่สุด ไม่มีใครเชี่ยวชาญ ชำนาญพื้นที่เท่ากับท่าน แต่ท่านยืนยันเจตนารมณ์ไปสมัคร สว.

ท่านยังบอกว่าถ้าไม่ได้รับเลือกก็กลับมาทำงานต่อ หรือได้รับเลือกก็ทำงานที่เกี่ยวข้องกับจังหวัดชายแดนใต้ได้ ในความเป็นเพื่อน ในความเป็นคนของแผ่นดิน เชื่อว่าถ้าร้องขอความช่วยเหลือ ท่านยินดี”

นายมงคล สุระสัจจะ และ พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ คือตัวเต็งเป็นประธานวุฒิสภา นายอนุทิน บอกว่า “ไม่ได้รับรู้ รับทราบตรงนี้” ถ้าได้เป็นขึ้นมาก็ต้องดีใจ คนที่รู้จักได้ดิบได้ดี ก็อนุโมทนาสาธุอยู่ตลอดเวลากับทุกคน

ภูมิใจไทยเป็นพรรคที่มีอนาคต มอง สว.ชุดใหม่เป็นประโยชน์ต่อการเมืองอย่างไร ขณะที่บางฝ่าย มองว่า สว.ชุดใหม่อาจสร้างวิกฤติให้เกิดกับประเทศได้ นายอนุทิน บอกว่า วุฒิสภามีหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย ถ่วงดุลไม่ให้ฝ่ายนิติบัญญัติเกิดการเสียดุล และให้ความเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ

เป็นหน้าที่ที่สำคัญต่อทิศทาง–อนาคตประเทศ

มงคล สุระสัจจะ
มงคล สุระสัจจะ

“ยังไม่ออกจากท่า ก็บอกว่าเรือลำนี้จะล่ม ไม่ได้ ทุกอย่างมาตามครรลอง ความหลากหลายอาจเป็นผลดีมากขึ้นก็ได้ เป็นความผสมผสานที่ดี

ผมชอบนะ มี สว.จากคนขับรถ ขายก๋วยเตี๋ยว ชาวนา คนส่วนใหญ่ของประเทศอยู่ตรงนี้ อดีตที่ผ่านมาคนเหล่านี้เป็นม็อบอย่างเดียว

แต่คนทั่วไปชอบมองว่าเข้ามาได้อย่างไร คุณเอาอะไรมาเทียบ ต้องให้เกียรติ ให้คุณค่ากับทุกคน แล้วคนที่มีความรู้สูง ตำแหน่งดี ฐานะดี อาชีพดีเข้ามาเป็นตัวแทนของคนกี่คน

ฉะนั้นเมื่อเขามีพื้นที่ใช้ เสียงสังคมให้รัฐสภาได้ยิน รัฐสภาต้องตอบสนอง ทำไม ไม่มองแบบนี้ แทนที่บอกว่าประเทศจะล่มสลาย เพราะมี สว.ชุดนี้ ผมกลับมองว่าประเทศจะเกิดความเท่าเทียม ลดความขัดแย้ง”

สว.ชุดใหม่เข้ามา ชื่อของหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยติดชาร์ตขึ้นนายกฯ แรงกว่าเดิม นายอนุทิน บอกว่า ติดมานานแล้วตั้งแต่เลือกตั้งปี 62 ในฐานะแคนดิเดตนายกฯคนเดียวของ ภท. ถ้าไปฟุ้งซ่านเรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ทำงาน ก็ต้องคอยระมัดระวัง รักษาเนื้อรักษาตัว สไตล์การทำงานของผมมีวินัยสูง เป็นมืออาชีพสูง

ผมพึงพอใจในทุกสถานะในทุกช่วงเวลา

วันนี้สิ่งที่ทำให้ดีที่สุด คือตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ไม่สนใจตำแหน่งนายกฯจะเป็นอย่างไร เพราะมีนายกฯที่ท่านเป็นผู้บังคับบัญชาของผมอยู่แล้ว

เมื่อมีประเด็นเหล่านี้เกิดขึ้น มีผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับเพื่อไทย ที่เป็นพรรคแกนนำรัฐบาล และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างไร นายอนุทิน บอกว่า ไม่มี ไม่รู้สึกเลย ความสัมพันธ์กับนายกฯ ทักษิณตั้งแต่ปี 47 พ่อแม่ให้กำเนิดในความเป็นมนุษย์ นายทักษิณ นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ คือคนให้กำเนิดผมในชีวิตการเมือง

นายทักษิณตั้งผมเป็นรัฐมนตรีปี 47 นั้นคือบุญคุณ ไม่มีสิทธิไปคิดไม่ดีกับท่านหรือคิดแข่งขันหรือไปทำอะไรกับท่าน ยังเป็นคนที่ผมเรียกว่า “นายหรือท่านนายกฯ” ตลอดกว่า 20 ปี วันไหนขี้เกียจพูดยาวก็นายครับ

ทักษิณ ชินวัตร
ทักษิณ ชินวัตร

นายเศรษฐา ทวีสิน มีคดีถอดถอนออกจากตำแหน่งนายกฯอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ หัวหน้าพรรค ภท.ถูกจับตามีโอกาสเป็นนายกฯคนต่อไป นายอนุทิน บอกว่า เพื่อไทยยังมีคุณอุ๊งอิ๊งค์ (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) แล้วมีข่าวออกมาตลอดว่าอยากให้ผ่านสมัยนี้ไปก่อน สมัยหน้าค่อยตัดสินใจ ยังมีนายชัยเกษม นิติสิริ ที่มีคนบอกว่าช่วงนี้สุขภาพไม่แข็งแรง

รู้ได้อย่างไรถึงเวลา “คุณอุ๊งอิ๊งค์” ไม่รับตำแหน่ง

มันเกิดขึ้นได้หรือไม่ ไม่รู้ “เป็นได้กับได้เป็น” คนละเรื่องกัน เพราะฉะนั้นในสถานะที่เป็นแคนดิเดตของพรรคภูมิใจไทย เป็นได้ แต่ได้เป็นหรือไม่ โอ้โฮมีอีกกี่ปัจจัยที่จะเกิดขึ้น

โดยเฉพาะนายกฯมีความเข้มแข็ง มีเสียงสนับสนุน 314 เสียงเป็นรัฐบาลที่เข้มแข็งที่สุดในรอบ 10-20 ปีที่ผ่านมา

ปมขัดแย้งระหว่าง ภท.กับพรรคเพื่อไทย ทั้งนโยบายเรือธงกัญชา ที่รัฐบาลนำกลับไปเข้าบัญชียาเสพติด การผลัดไม้ใหม่ในตำแหน่งประธานแก้หนี้นอกระบบ ที่ให้นายพิชัย ชุณหวชิร รมว.คลัง และรองนายกฯ มาเป็นรองประธานฯไม่ได้ เพราะนายพิชัยเป็นรองนายกฯ เบอร์ 3 นายอนุทินเป็นรองนายกฯ เบอร์ 5

รวมถึงการเลือกตั้งนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.) โดยหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้บอกโดยละเอียดในทุกประเด็น ไม่มีประเด็นใดเป็นชนวนขัดแย้ง

“ไม่มีอะไรเลย มีศัตรูคนหนึ่งก็มากเกินไปแล้ว แต่ชีวิตผมมีเพื่อนมากไม่เป็นอะไร ไม่นิยมชมชอบเป็นศัตรูกับใคร ไม่ชอบใครก็เดินหนี จะมาตี มาแทงก็วิ่งหนี ไม่เคยคิดทำร้ายใคร

สวดมนต์ทุกวัน แผ่เมตตาตลอด จงเป็นสุขๆ อย่าได้มีเวรแก่กัน และกันเลย สวดเสร็จรู้สึกโล่ง ไม่ต้องแบกของพวกนี้อยู่ทุกวัน”

2 ขั้วการเมืองระหว่างอนุรักษ์นิยมกับก้าวหน้าปะทะกันอยู่ ขั้วอนุรักษ์นิยมหวั่นไหวพรรคก้าวไกล ระแวงระบอบทักษิณ บทบาทของพรรคภูมิใจไทยวางตัวอย่างไร นายอนุทิน บอกว่า สื่อมวลชนจับภูมิใจไทยยัดเข้าไปฝ่ายอนุรักษ์นิยม อีกฝ่ายเรียกว่าก้าวหน้า มันทำให้เกิดจุดที่ลงตัว ทำให้ภูมิใจไทยทำงานได้แล้ว

“ผมชอบขี่ม้า เคยขี่ม้ามาเยอะ ม้าเหมือนการเมือง คนขี่ต้องระวังดีๆ ตาของผมกับตาของม้าต้องซิงก์กัน ต้องมอง ต้องรู้ใจ อย่าไปสนใจคนอื่น

ผมรู้ว่าต้องวิ่งอย่างนี้ เดี๋ยวก็ถึงจุดหมาย ต่อให้คนอื่นถึงจุดหมายก่อน ผมก็ถึงจุดหมายอยู่ดี ไม่ต้องเสี่ยง ไม่ต้องเร่ง ถ้าเร่งแล้วตกม้าขึ้นมา ม้าไม่เจ็บ แต่ผมเจ็บ”

การเมืองไม่มีวันเจ็บ คนที่ขี่เจ็บตลอด

ผมยังมีความพึงพอใจกับม้าของผมอยู่.

ทีมการเมือง

คลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม