นายกฯ มั่นใจ อังกฤษคว้าแชมป์บอลยูโร 2024 แน่นอน เชื่อ ดวงเฮงบวกยิงลูกโทษเฉียบ ก่อนสวมเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยน อ.แม่จัน รับฟังปัญหากลุ่มชาติพันธ์ุ ย้ำต้องได้รับการดูแลอย่างเสมอภาค ก่อนออกจากเชียงราย ไปสระแก้วต่อ
วันที่ 14 กรกฎาคม 2567 ที่ จ.เชียงราย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป หรือ ยูโร 2024 ซึ่งจะมีขึ้นในคืนนี้ เป็นการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศระหว่างทีมชาติอังกฤษกับสเปน ว่า ตนเชียร์อังกฤษอยู่แล้ว แม้สเปนจะเป็นต่อเล็กน้อยจากเรื่องของความสด แต่ว่าเรื่องดวง ดูแล้วเป็นใจให้อังกฤษได้รับชัยชนะ แต่เชื่อว่าเรื่องหนึ่งที่อาจไม่ต้องใช้ดวงคือเรื่องการยิงลูกโทษ เพราะเตรียมพร้อมมาดี เรียกว่าเฉียบก็ได้ 5 คนที่ยิงลูกโทษรอบที่ผ่านมา ดูจากสีหน้าแล้วมีความมั่นใจอย่างมาก และดูจากวิธีการยิงแล้วอาจจะถึงฎีกาได้
เมื่อถามว่ายังมั่นใจในดวงของอังกฤษใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ตอบว่า มั่นใจ ผู้สื่อข่าวระบุต่อ กองเชียร์ทั่วโลกน่าจะเชียร์อังกฤษ นายเศรษฐา ตอบว่า อันนี้คงไม่ใช่ เมื่อวานมีเพื่อนที่ไม่เชียร์อังกฤษ ส่งแผนที่ยุโรปมาให้ ทุกคนเป็นสีสเปนหมดเลย ยกเว้นแค่อังกฤษ ขนาดสกอตแลนด์กับเวลส์ยังเชียร์สเปนเลย ส่วนคำถามว่าแฟนบอลไทยน่าจะเชียร์อังกฤษใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุ ตนเข้าใจว่าเป็นอย่างนั้น เมื่อถามอีกว่าไม่เผื่อใจไว้บ้างหรือว่าอังกฤษจะไม่ได้แชมป์ นายกรัฐมนตรี ตอบกลับว่า “ไม่มีเผื่อใจ เพราะคืนนี้อังกฤษชนะแน่นอน”
...
ต่อมาเวลา 09.30 น. นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่บ้านโป่งป่าแขม อ.แม่จัน พบปะและหารือการแก้ไขปัญหาของกลุ่มชาติพันธุ์ โดยมี น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง และ น.ส.ปิยะรัฐชย์ ติยะไพรัช สส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย ร่วมคณะ ทันทีที่มาถึงตัวแทนชนเผ่าได้มอบเสื้อชนเผ่าอิ้วเมี่ยน หรือเย้า และกระเป๋าให้ โดยนายกรัฐมนตรีรับเสื้อมาสวมและสะพายกระเป๋าทันที ก่อนที่ผู้นำชุมชนกลุ่มชาติพันธุ์จะทำพิธีต้อนรับตามประเพณี เชิญนายกรัฐมนตรีเข้าบ้านจิบชาและทานข้าวปุกงา หรือโมจิดอย ซึ่งถือเป็นขนมจากสวรรค์ ตามประเพณีชนเผ่าอิ้วเมี่ยน
จากนั้น ผู้อาวุโสผู้นำจิตวิญญาณกลุ่มชาติพันธุ์กล่าวให้พรว่า ขอบคุณที่นายกรัฐมนตรีมาเยี่ยม หมู่บ้านนี้อยู่มา 70 ปี เพิ่งมีผู้นำมาเยี่ยมถึงหมู่บ้าน รู้สึกเป็นเกียรติ ขออวยพรให้มีความสุขและเป็นนายกรัฐมนตรีนานๆ และขอให้เดินทางกลับโดยปลอดภัยและสวัสดิภาพ ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวตอบว่า เป็นเกียรติที่ได้รับการต้อนรับ ตนมาในฐานะคนไทย ไม่ได้มาในฐานะนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) พร้อมรับฟังปัญหาเพื่อนำไปสู่การแก้ไข และต่อด้วยพบปะแลกเปลี่ยนปัญหาพื้นที่ โดยผู้นำชุมชนได้สะท้อนถึงปัญหาว่า ชนเผ่าชาติพันธุ์ในพื้นที่ 77,729 ราย มี 19,432 ราย ไม่มีสัญชาติ ทำให้ถูกจำกัดสิทธิ์ ขณะที่สาธารณูปโภคบางหมู่บ้านยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ระบบสาธารณสุข ส่วนของโรงพยาบาลแม่ฟ้าหลวง อยากให้มีการเพิ่มบุคลากร เพราะไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน
นายเศรษฐา กล่าวกับชาวบ้านว่า เป็นครั้งแรกที่ได้มาเยือน ได้การต้อนรับที่อบอุ่น ถือเป็นเกียรติสูงสุด และถือว่าเราเป็นพวกเดียวกัน สำหรับปัญหาหลักความไม่เสมอภาคเท่าเทียมที่พี่น้องชาติพันธุ์ถูกดูแลอย่างไม่ทั่วถึงมาโดยตลอด แต่ภายใต้การผลักดันของ สส.ปิยะรัฐชย์ มุ่งมั่นผลักดันร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองสิทธิและส่งเสริมวิถีชีวิตกลุ่มชาติพันธุ์และชนเผ่าพื้นเมือง พ.ศ. .... หรือ ร่าง พ.ร.บ.ชาติพันธุ์ ที่ให้ความสำคัญสิทธิขั้นพื้นฐาน เรื่องของสัญชาติ เพราะหากได้สัญชาติแล้วจะได้รับการดูแลที่ถูกต้อง สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุข การศึกษา และเรื่องต่างๆ
ทั้งนี้ รัฐบาลสัญญาจะให้การพิสูจน์ทราบสัญชาติให้จบภายใน 5 วัน ไม่ใช่ 180 วัน แต่ขอเวลาอีกสักระยะ และคาดว่าจะพิจารณาจบได้ภายในเดือนกรกฎาคม 2567 น่าเศร้าใจเรื่องพี่น้องชาติพันธุ์ถูกดูแลโดยเจ้าหน้าที่รัฐยังไม่เป็นที่น่าพอใจ และไม่เท่าเทียมกับพี่น้องชาวไทยส่วนอื่นๆ ซึ่ง สส.ทั้งระบบเขต สส.บัญชีรายชื่อ และเจ้าหน้าที่รัฐระดับสูง ต้องยึดถือเรื่องความเสมอภาคเท่าเทียม ตนขอพูดไว้เลยว่าพี่น้องชาติพันธุ์ต้องได้รับความเสมอภาคเท่าเทียม ไม่แบ่งแยก เจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายความมั่นคง ฝ่ายสาธารณสุขเอง ต้องดูแลอย่างเสมอภาค
ส่วนโรงพยาบาลที่ไม่เพียงพอ นายกรัฐมนตรี ระบุ แน่นอนว่าทุกที่ไม่ว่าจะภาคเหนือ ภาคใต้ หรืออีสาน ไม่พออยู่แล้ว รัฐบาลพยายามจัดสรรงบประมาณดูแลให้ทั่วถึง ขณะที่เรื่องไฟฟ้า สามารถยืนยันได้เลยว่าจะจัดการให้ เพราะถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทุกคนพึงจะได้รับ รวมถึงเรื่องน้ำ ขอฝากให้ดูแลพี่น้องชาติพันธุ์ให้มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกับพี่น้องคนไทยทุกคน ทั้งนี้ คิดว่าคงไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่จะได้มา หวังว่าจะได้กลับมาอีกเพื่อมาดูความก้าวหน้า หลังเสร็จสิ้นจุดนี้ นายกรัฐมนตรีและคณะ ไปรับฟังปัญหาในพื้นที่ อ.แม่จัน และพบปะประชาชน ณ บ่อน้ำพุร้อนธรรมชาติป่าตึง อ.แม่จัน พร้อมเน้นย้ำให้ดูแลกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเท่าเทียม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ระหว่างทางไป อ.แม่จัน เพื่อมายังสนามบินแม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นายกรัฐมนตรีได้แวะให้กำลังใจ พร้อมมอบอาหารและน้ำดื่ม รวมอุปกรณ์ที่ใช้ทำงาน ให้เจ้าหน้าที่ทหารกองกำลังผาเมืองที่จับยาบ้าได้ช่วงค่ำวันที่ 13 กรกฎาคม 2567 ที่ อ.เชียงแสน จำนวน 8 ล้านเม็ด พร้อมกำชับให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความระมัดระวัง อย่าประมาท และขอเป็นกำลังใจ พร้อมทั้งสอบถามถึงอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางออกจาก จ.เชียงราย เพื่อเดินทางไปปฏิบัติราชการในพื้นที่ จ.สระแก้ว ต่อไป