"รมว.สาธารณสุข" ตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิต ติดตามการดูแลผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด อึ้งทั้งห้องทดลอง โทรสายด่วน 1667 แก้ไม่ได้จริง สั่งแก้ปัญหาด่วน หลังพบสายด่วนมีหลายเบอร์-ขาดการบูรณาการ เผยนายกฯเน้นย้ำทำแผนเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์
เมื่อวันที่ 11 ก.ค.67 ที่กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้ตรวจเยี่ยมกรมสุขภาพจิต โดยมี นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายวัชรพล โตมรศักดิ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต และผู้บริหารกรมสุขภาพจิต ร่วมต้อนรับ
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การควบรวมภารกิจสุขภาพจิตและสารเสพติด ตนมองว่าสามารถขับเคลื่อนได้ แต่ขอให้ทบทวนการใช้งบประมาณให้ดี เพราะตนเป็นห่วงเรื่องงบประมาณ กลัวจะไม่เพียงพอ เนื่องจากมีผู้ป่วยจิตเวชกว่า 5 ล้านคน และเป็นผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดถึง 40% จึงขอให้ติดตามการแก้กฎหมาย เพื่อนำเงินของกองทุนยาเสพติดมาใช้ในการบำบัดผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติดด้วย ซึ่งคาดว่าจะมีความชัดเจนภายใน 30 วัน จะได้มีงบประมาณเพียงพอในการดูแลผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด
...
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการประชุมเรื่องการดูแลผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด นายสมศักดิ์ ได้ให้ทีมทดลองโทรสายด่วนกรมสุขภาพจิต 1667 และสถาบันการแพทย์ฉุกเฉิน 1669 เพื่อทดลองแจ้งข้อมูลพบผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด ที่กำลังจะทำร้ายผู้อื่น ซึ่งปรากฏว่ายังขาดการบูรณาการ เพราะสายด่วนได้ให้ผู้แจ้งโทรติดต่อหน่วยงานอื่นแทน เช่น ตำรวจ โรงพยาบาล และไม่มีแนวทางการช่วยเหลือที่ชัดเจน
โดย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า การทดลองโทรสายด่วน ทำให้เห็นว่าการเรียนทฤษฎีอย่างเดียวไปไม่ได้ ต้องดูการปฏิบัติด้วย ซึ่งสายด่วนพบว่าเรามีหลายเบอร์ และขาดการบูรณาการทุกหน่วยงาน ดังนั้นสายด่วนผู้ป่วยจิตเวชยาเสพติด ต้องแก้ไขให้มีการบูรณาการและช่วยแก้ปัญหาได้จริง โดยเฉพาะคนที่กำลังจะทำร้ายคน ต้องมีตำรวจไปช่วยระงับเหตุด้วย ส่วนสายด่วนเบอร์ไหนไม่มีงบประมาณ ก็ต้องดูว่าสามารถเพิ่มงบประมาณได้หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่ได้ก็ต้องยุบไปรวมกับสายด่วนอื่นที่มีงบประมาณ จะได้ไม่เป็นภาระ และสามารถพัฒนาได้
ทั้งนี้ นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเพิ่มเติมว่า กรมสุขภาพจิตมีภาระหน้าที่เพิ่มเกือบครึ่ง โดยงานของกรมสุขภาพจิตเดิมมี 60% และมีงานยาเสพติดใหม่ 40% ซึ่งเมื่อรวมแล้วงานก็ต้องเพิ่ม ดังนั้นเมื่องานเพิ่มเราก็ต้องโยกย้ายงานที่เกี่ยวข้องมากรมสุขภาพจิต ส่วนเสียงสะท้อนว่ามีภาระงานมากขึ้นนั้น ก็ต้องช่วยดูในเรื่องของงบประมาณให้เพียงพอด้วย จะได้ไม่เกิดปัญหา
เมื่อถามถึงการผลิตแพทย์ พยาบาล หลังจะเกษียณจำนวนมาก นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้เน้นย้ำในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ทำแผนการเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ ส่งภายใน 2 สัปดาห์ เพราะนายกฯ ทราบดีว่า นอกจากการขาดแคลนพยาบาล ก็ยังมีปัญหาครูสอนพยาบาลด้วย โดยเรื่องนี้ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้ประชุมเร่งด่วนแล้ว ซึ่งมีแผนการเพิ่มบุคลากรแล้ว