"กังฟู" วสวรรธน์ ตั้งข้อสังเกต งบซื้อเรือดำน้ำ เหตุใด ต้องเลือกเรือฟริเกต จี้ เตรียมเอกสารแจงหากไม่เป็นความลับ พร้อมถามแผนจัดงบฯ เพิ่มเติมป้องกันยาเสพติดชายแดนภาคอีสาน

วันที่ 10 ก.ค. 2567 ที่อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 นายวสวรรธน์ พวงพรศรี ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 2568 และหัวหน้าพรรคไทรวมพลัง กล่าวในที่ประชุมถึงเรื่องงบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหมว่า ในปี 2568 มีการของบประมาณเพิ่มขึ้นจากปี 2567 จำนวน 313 ล้านบาท หากเทียบกับภารกิจงานคือ 3.3% ถือว่าไม่ได้มาก แต่ขอตั้งข้อสังเกตในโครงการจัดซื้อรถและโครงการติดตั้งระบบไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ว่า เป็นการจัดซื้อเลยหรือเป็นการตั้งแบบ จีทูจี เพราะส่วนตัวมองว่า เป็นแบบ จีทูจี ดีกว่า เนื่องจากหลายหน่วยงานของรัฐก็จะซื้อแบบนี้ พร้อมทั้งอยากทราบว่าจะลดค่าไฟฟ้าจากระบบโซลาร์เซลล์ได้เท่าไรเป็นจำนวนกี่เมกะวัตต์

นอกจากนี้ นายวสวรรธน์ ยังกล่าวชื่นชมที่กระทรวงกลาโหมที่มีการปรับลดงบลงในบางโครงการ แต่ก็พบว่า มีบางโครงการมีการเพิ่มงบประมาณเพิ่มขึ้น เช่น โครงการปรับปรุงอาคารสิ่งอำนวยความสะดวก จำนวน 37 ล้านบาท จึงขอให้เตรียมเอกสารชี้แจงในชั้นอนุกรรมาธิการด้วย เพราะในปีที่ผ่านมามีการของบประมาณในส่วนนี้ไปบางส่วนแล้วจึงอยากทราบเหตุผลในการปรับปรุงเพิ่มเติมว่าเป็นเพราะเหตุใด

ส่วนประเด็นข่าวกรองเพื่อสกัดกั้นยาเสพติดในโซนอีสานเหนืออยากให้เพิ่มงบประมาณในการสกัดในโซนอีสานใต้ด้วย เริ่มตั้งแต่ตั้งแต่ จ.อำนาจเจริญ ไปจนถึง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพราะประชาชนบ่นตลอดในเรื่องปัญหายาเสพติด จึงอยากทราบรายละเอียดของการตั้งงบประมาณข่าวกรอง ว่า มีรายละเอียดอย่างไรมีการมีการจัดสรรเพียงพอหรือไม่ รวมถึงโครงการบำบัดยาเสพติดอยากให้เน้นไปที่จังหวัดชายแดนไทยเพราะมีปัญหาเรื่องการลักลอบขนยาเสพติดเข้ามาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งทางเพื่อนบ้านมีการใช้โดรนในการส่งยาเสพติดจึงขอให้ฝากติดตามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน

...

นายวสวรรธน์ ยังชื่นชมกองทัพบก ที่จะมีการสร้างอนุสรณ์สถานเชิดชูวีรบุรุษผู้กล้าช่องบก ที่ ต.ดงประดิษฐ์ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพราะจะป็นการดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ทหารได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อปกป้องประชาธิปไตยไทย แต่ยังติดกรอบเรื่องการใช้งบประมาณ

"อยากให้ทางกระทรวงกลาโหมจัดเตรียมเอกสารชี้แจงในชั้นอนุกรรมาธิการเรื่องการจัดซื้อเรือดำน้ำถึงวัตถุประสงค์และความคุ้มค่า เพราะจะต้องมีการซื้อเรือลากจูง และเรื่องท่าเทียบเรือประกอบด้วย ยืนยันว่าตนเองไม่ได้ห้ามให้มีการจัดซื้อ แต่อยากทราบรายละเอียด และสาเหตุว่าทำไมจึงต้องเลือกเรือฟริเกตหากไม่เป็นความลับอยากให้ชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย ส่วนที่มีการลดงบประมาณลงไปแล้วมีการลดมากน้อยเพียงใดอยากให้เตรียมเอกสารชี้แจงในเรื่องนี้ด้วย พร้อมฝากข้อห่วงใยถึงประเด็นความตึงเครียดจีนและไต้หวัน ว่า ไทยมีแผนทางการทูตทหารในการรับมือกับเรื่องดังกล่าวอย่างไร รวมถึงจะมีการสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจอย่างไร เพราะหลายคนยังเรียกไต้หวันว่าเป็นประเทศ ซึ่งถือเป็นประเด็นละเอียดอ่อนต่อทางประเทศจีน" นายวสวรรธน์ กล่าว