“จิราพร” แจ้งข่าวดี กฎหมายคุ้มครองนักช็อปออนไลน์ จ่อบังคับใช้ 3 ตุลาคม 2567 สินค้าเก็บเงินปลายทาง เปิดดูก่อนได้ หากไม่ตรงตามที่สั่ง ปฏิเสธชำระเงิน-ไม่รับสินค้าได้ ช่วยแก้ปัญหาถูกหลอกขายสินค้าผ่านทางออนไลน์

วันที่ 7 กรกฎาคม 2567 นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข่าวดี ว่า ตามที่คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ภายใต้สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ได้ให้ความเห็นชอบร่างประกาศที่เกี่ยวข้องกับการที่ผู้บริโภคสามารถขอเปิดดูสินค้าได้ก่อนชำระเงินค่าสินค้า สำหรับการซื้อสินค้าออนไลน์จ่ายเงินปลายทางนั้น ประธานคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทางเป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. 2567 แล้ว เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2567 

อีกทั้งล่าสุด ประกาศ สคบ.ดังกล่าว ได้ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 ที่ผ่านมา และจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 3 ตุลาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งการมีผลบังคับใช้เมื่อพ้นกำหนด 90 วัน นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เพื่อให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีระยะเวลาในการเตรียมตัวที่เหมาะสม 

...

นางสาวจิราพร ยังย้ำด้วยว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้นักช็อปออนไลน์ โดยการใช้มาตรการส่งดี (Dee-Delivery) ให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าที่เรียกเก็บเงินปลายทางจากผู้บริโภค ต้องระบุรายละเอียดในหลักฐานการรับเงิน เช่น ชื่อ-สกุล และหมายเลขโทรศัพท์ของผู้ส่งสินค้า หมายเลขติดตามพัสดุ ข้อมูลพัสดุ จำนวนเงินที่เรียกเก็บปลายทาง รวมถึงให้สิทธิผู้บริโภคปฏิเสธไม่รับสินค้า หรือมีสิทธิได้รับค่าสินค้าคืน โดยให้ผู้ประกอบธุรกิจถือเงินไว้ก่อนเป็นเวลา 5 วัน ก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ส่งสินค้า เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้าและขอเงินคืน 

นอกจากนี้ ยังให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ โดยบันทึกภาพถ่ายหรือวิดีโอไว้เป็นหลักฐาน หากสินค้าไม่ตรงตามที่สั่งซื้อ ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์โดยตรงกับประชาชนซึ่งเป็นผู้บริโภค และจะช่วยแก้ไขปัญหาการถูกหลอกขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์อีกด้วย.