ฝ่ายค้านเล่นใหญ่ ตรวจสอบเชิงรุกเข้มข้น ตั้งแท่นยื่นซักฟอกรัฐบาล “เศรษฐา” “ปกรณ์วุฒิ” ลั่นพ้น 1 ปี รัฐบาลคุมทั้งงบฯ และขับเคลื่อนนโยบายเบ็ดเสร็จ 100 เปอร์เซ็นต์ แบกความคาดหวังยิ่งกว่าเดิม โอ่ข้อมูลแน่นปึ้ก มั่นใจ “ก้าวไกล” สู้คดีได้ไม่ถูกยุบ เด็ก ทสท.ขย่มผ่านไป 10 เดือนแล้ว รัฐบาลแก้ปัญหาเศรษฐกิจล้มเหลว จี้เร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจนำร่อง ต่อลมหายใจร้านค้าย่อย-เอสเอ็มอี “นายกฯ” ถก ครม.สัญจรโคราช ขันนอตเข้ม 3 เดือน ปราบยาเสพติดเด็ดขาด มอบดาบ ผวจ.เป็นซีอีโอบูรณาการทุกหน่วยงาน เอกซเรย์ปูพรมตรวจฉี่โจ๋ทุกหมู่บ้าน ลั่นรัฐบาลพร้อมให้ฝ่ายค้านซักฟอก กกต. ถกคำร้องเรียนทุจริต-ฮั้วเลือก สว.ล้น สัปดาห์หน้าถึงชัดเจนวันประกาศรับรองผล “เลขาฯกฤษฎีกา” ฟันธง “นายกชาญ” ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ “อ้วน” โต้ขึ้นอยู่กับศาลจะสั่งพักงานหรือไม่

รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินสายประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่อย่างต่อเนื่อง โดยนายกฯเน้นย้ำนโยบายการปราบปรามยาเสพติดให้เห็นผลเป็นรูปธรรมจริงจัง สั่งบูรณาการการปราบปรามอย่างเข้มข้นเด็ดขาด

เศรษฐา ทวีสิน - สุวัจน์ ลิปตพัลลภ
เศรษฐา ทวีสิน - สุวัจน์ ลิปตพัลลภ

...

นายกฯถก ครม. “สุวัจน์” มอบพระชัยเมือง

เมื่อเวลา 10.00 น.ที่หอประชุมราชภัฏรังสฤษฏ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา นาย นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่ 4/2567 และติดตามการตรวจราชการกลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 (นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ และสุรินทร์) โดยนายกฯและ ครม.สวมเสื้อผ้าไหมพื้นเรียบสีทองและผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกประยุกต์สีทอง ทอโดย อ.ปักธงชัย ขณะที่คณะโฆษกสำนักนายกฯสวมผ้าไหมมัดหมี่หางกระรอกสีชมพูกะปิ จากกลุ่มทอผ้าไหมบ้านแฝกโนนสาราญ อ.สีดาร่วมประชุม ครม. โดยนายกฯถ่ายภาพร่วมกับ ครม. ผวจ. กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 1 และส่วนราชการ

ขณะที่นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา ได้มอบพระพุทธรูปจำลองพระชัยเมืองนครราชสีมาให้นายกฯ อวยพรขอให้ประสบความสำเร็จในการแก้ไขปัญหาต่างๆ นายกฯได้กล่าวขอบคุณพร้อมระบุว่า “ช่วยกันนะพี่” และมีกลุ่มเด็กนักเรียนมามอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ โดยนายกฯร่วมเซลฟี่ด้วยและขอให้เด็กๆให้ห่างไกลจากยาเสพติด และยังมีประชาชนมามอบผ้าขาวม้า 11 ศรี ของชาวภูเขียว ต.หนองตูม อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่มีเอกลักษณ์ทอมือ เชิงผ้าขาวม้าด้วยขิดหรือผ้ามัดหมี่มอบให้นายกฯ โดยนายกฯกล่าวว่า สีสวยเข้ากับ Pride Month

ม็อบโปแตชโคราชร้องทบทวนแผน

ขณะที่เวลา 09.00 น. หน้ามหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาใกล้หอประชุมฯสถานที่ประชุม ครม.สัญจร มีกลุ่มชาวบ้าน อ.โนนไทย อ.โนนสูงและ อ.เมืองนครราชสีมา ที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองแร่โปแตช ที่อยู่ระหว่างสำรวจแร่และขอสัมปทานบัตรเหมืองแร่ รวมตัวยื่นหนังสือร้องเรียนถึงนายกฯ โดยปราศรัยเรียกร้องอย่างดุเดือด มีเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนหนึ่งกองร้อย ดูแลความเรียบร้อยอย่างเข้มงวด จนเกิดวิวาทะระหว่างผู้ชุมนุม ว่าจะมาหาพระแสงอะไร พวกที่ยืนอยู่ตรงนี้คือพ่อแม่พี่น้องของพวกคุณ จนเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องสลายตัว จากนั้นเวลา 09.50 น. น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม มารับหนังสือจากกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านเหมืองโปแตช โดยแกนนำกล่าวต้อนรับทันทีว่า บรรยากาศเหมือนรัฐมนตรีมาเยี่ยมนักโทษ เนื่องจากเป็นการเจรจาผ่านรั้วประตู ทำให้เจ้าหน้าที่เปิดรั้วให้รัฐมนตรี ไปรับมอบหนังสือจากมือผู้ชุมนุม จากนั้นผู้ชุมนุมได้นำเกลือที่ขึ้นในนาข้าว จากผลกระทบการทำเหมืองโปแตช มากองหน้ารัฐมนตรี เรียกร้องให้มีคำสั่งให้ยกเลิกแผนแม่บทบริหารจัดการแร่ฉบับที่ 2 ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับแร่โปแตชทั้งหมด ให้ประเมินสิ่งแวดล้อมสำหรับการพัฒนาเหมืองแร่โปแตชใหม่

รมว.อุตฯอ้อมแอ้มมี กก.หลายชุดสอบ

น.ส.พิมพ์ภัทราเปิดเผยว่า โครงการเหมืองแร่ไทยคาลิ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อตรวจสอบหลายคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบหลายครั้ง ในชั้นนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่า ผลกระทบต่างๆที่เกิดขึ้นมาจากเหมืองไทยคาลิ ล่าสุด จ.นครราชสีมา ได้แต่งตั้งคณะทำงานขึ้นมาใหม่อีกชุด เน้นการมีส่วนร่วมของผู้แทนชุมชน ขึ้นมาตรวจสอบ กระทรวงจะกำกับดูแลให้เป็นไปตามระเบียบและกฎหมายโดยเคร่งครัด พยายามลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนให้มากที่สุด

สั่งลุยปราบยาเสพติดขุดรากถอนโคน

เมื่อเวลา 11.22 น. ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังประชุม ครม.สัญจรว่า รอบสัปดาห์ที่ผ่านมาตนและรัฐมนตรีไปภาคเหนือและภาคอีสาน จะใช้ จ.ร้อยเอ็ดเป็นโมเดลแก้ไขปัญหาให้เป็นจังหวัดสีขาวภายในสิ้นเดือน ก.ย. ให้ ผวจ.รับผิดชอบบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ภาคประชาชน ดังนี้ 1.เอกซเรย์พื้นที่อย่างละเอียด 2.แยกผู้เสพออกมารับการบำบัด ขยายผลจับกุมผู้ขายเพื่อดำเนินคดีเฉียบขาด 3.ให้กระทรวงสาธารณสุข มหาดไทย กลาโหม ร่วมจัดหาสถานที่บำบัดให้เพียงพอ เนื่องจากเรากวาดล้างครั้งใหญ่ น่าจะเจอผู้ป่วยจำนวนมาก 4.ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ กระทรวงแรงงาน ช่วยส่งคืนชุมชน ฝึกอาชีพ หางานให้ทำและมีรายได้เพียงพอ 5.ให้กระทรวงศึกษาธิการและกระทรวงการอุดมศึกษาฯ เร่งหาวิธีสอดส่องดูแลอย่าให้ลูกหลานเสพยา และขอให้โรงเรียนปลูกฝังค่านิยมเด็กและเยาวชนไม่เกี่ยวข้องยาเสพติด สอดแทรกโทษยาเสพติด 6.ให้สำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) กำหนดเป้าหมายและตัวชี้วัดที่ท้าทาย มาตรการที่เหมาะสมให้จังหวัด ผวจ. และ ผบก.ภ.จ.ทำงานคู่กันอย่างใกล้ชิด

เร่งด่วน 3 เดือนมอบดาบ ผวจ.เป็นซีอีโอ

ต่อมาเวลา 12.35 น. นายกฯไปที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21 โคราช ต.ในเมือง อ.เมืองนครราชสีมา มอบนโยบายการบูรณาการแก้ไขปัญหายาเสพติดระยะเร่งด่วน มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและนักศึกษาใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาเข้าร่วม โดยนายกฯกล่าวตอนหนึ่งว่า การแก้ปัญหายาเสพติดถือเป็นวาระแห่งชาติ ขอให้หน่วยงานช่วยกันปราบให้สิ้นซาก นำโครงการขจัดปัญหายาเสพติด ที่ อ.วังผา จ.น่าน และ อ.ธวัชบุรี จ.ร้อยเอ็ด มาเป็นต้นแบบ ผ่านนโยบายบูรณาการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน 3 เดือน คือ 1.ให้ ผวจ.ทุกจังหวัดเป็น CEO ขับเคลื่อนร่วมกับ ผบก.ภ.จ.นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด นายก อบจ. 2.ตัดวงจรค้ายาเสพติดรายสำคัญ กวาดล้างเอกซเรย์ทุกพื้นที่ แยกผู้เสพบำบัด และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ป.ป.ส. และกระทรวงกลาโหม ขยายผลจับกุมผู้ขายดำเนินคดีเฉียบขาด ดำเนินการเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องจริงจังและเด็ดขาด ขอให้กำลังใจช่วยกันแก้ปัญหายาเสพติด โดยเฉพาะ 25 จังหวัดเร่งด่วน

ชัย วัชรงค์
ชัย วัชรงค์

สั่งปูพรมตรวจระดมฉี่โจ๋ทุกหมู่บ้าน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯมีข้อสั่งการเน้นย้ำการปราบปรามยาเสพติดเป็นเรื่องสำคัญ มอบหมายให้ ผวจ.บูรณาการความร่วมมือ เอกซเรย์ทุกพื้นที่ตรวจปัสสาวะกลุ่มเสี่ยงทุกคนที่อายุ 16 ปีขึ้นไป ทุกหมู่บ้าน พร้อมกำชับให้ ครม.ทุกคนช่วยสนับสนุนการกวาดล้างยาเสพติดให้เป็นรูปธรรม นายกฯยังให้นโยบายเร่งรัดและผลักดันการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ยกระดับบริการประชาชนและการบริหารงานราชการที่ทันสมัย โดยให้กระทรวงดิจิทัลเศรษฐกิจและสังคม เป็นหน่วยงานหลัก ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ก.พ.ร.)กำหนดแนวทางพัฒนาและผลักดัน การปฏิบัติพร้อมตัวชี้วัดผลักดันการอบรมและเพิ่มทักษะทางดิจิทัลให้ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ทุกระดับ ให้เรียนรู้และใช้งานดิจิทัลอย่างคล่องแคล่วต่อไป

เล็งปั้นไมซ์ซิตี้เป็นศูนย์ประชุมยักษ์

จากนั้นเวลา 13.10 น. นายเศรษฐาไปที่ รพ.มหาราชนครราชสีมา อ.เมืองนครราชสีมา ตรวจติดตามความคืบหน้าโครงการจัดสร้างศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ 18 ชั้น รพ.มหาราชนครราชสีมา ที่เป็นศูนย์สุขภาพครบวงจร ภายใต้งบก่อสร้าง 4,864 ล้านบาท ต่อมาไปที่โรงละครแห่งชาติภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ต.โคกกรวด อ.เมืองนครราชสีมา ติดตามการขับเคลื่อน MICE CITY เพิ่มศักยภาพทางเศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่จะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการประชุมขนาดใหญ่ 4 หมื่น ตร.ม. นายกฯทักทายถ่ายเซลฟี่กับนักเรียน มีตัวแทนชาวบ้านมาผูกผ้าขาวม้า ธงชัยชนะ ท้าวสุรนารี รูปหล่อจำลอง ท้าวสุรนารีให้ มีตัวแทนเยาวชนแต่งเป็นหนุมานและนางสุพรรณมัจฉา จูงมือนำนายกฯเข้าร่วมชมการบรรเลงดนตรีสากลจากวงออเคสตรา การแสดงโปงลางและการแสดงชุดซอฟต์พาวเวอร์พื้นบ้าน จากวิทยาลัยนาฏศิลป จ.นครราชสีมา ร่วมรับฟังการบรรยาย หัวข้อโคราชเมือง MICE CITY

นายกฯลั่นพร้อมให้ฝ่ายค้านซักฟอก

อีกเรื่อง ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา จ.นครราชสีมา นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พรรคฝ่ายค้านประกาศเตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแน่นอน และจะมีการตรวจสอบการใช้งบประมาณปี 2567 อย่างเข้มข้นว่าเป็นหน้าที่ของฝ่ายค้าน แต่สำหรับตนและรัฐบาลพร้อมให้ตรวจสอบ สำหรับการประชุม ครม.สัญจรครั้งต่อไป นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เสนอกลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ประกอบด้วย จ.นนทบุรี ปทุมธานี สระบุรี และนครนายก โดยจะใช้ จ.พระนคร ศรีอยุธยา เป็นแกนหลัก

ครม.กำชับ รมต.ไปตอบกระทู้

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ในฐานะคณะกรรมการประสานงานสภาฯให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการประชุมสภาฯสมัยสามัญวันแรกวันที่ 3 ก.ค.ว่า ที่ประชุมสภาฯจะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เกี่ยวกับกระทรวงการอุดมศึกษาฯ 4 ฉบับที่ค้างมาหลายปี และจะตั้งคณะ กมธ.วิสามัญ ครม.ต้องปรับปรุงโดยกำชับให้รัฐมนตรีไปตอบกระทู้ในสภาฯให้ได้ ได้ขอความร่วมมือรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงจัดสรรเวลาไปตอบกระทู้ อยู่ที่ความรับผิดชอบของแต่ละกระทรวง คำตอบที่ สส.ต้องการคือการแก้ไขปัญหาของประชาชน คงไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไรสำหรับรัฐมนตรี

เมื่อถามถึงกรณีฝ่ายค้านอาจยื่นญัติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล รัฐบาลพร้อมหรือไม่ นางมนพร ตอบว่า รัฐบาลพร้อมอยู่แล้ว เพราะการอภิปรายไม่ไว้วางใจอยู่ในกฎหมาย หากรัฐบาลบริหารไม่ถูกต้องฝ่ายค้านมีสิทธิยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ เมื่อถามอีกว่า มั่นใจใช่หรือไม่ว่ารัฐบาลจะไม่ทำอะไรให้เกิดปัญหา นางมนพรกล่าวว่า การทุจริตเกิดจากการใช้งบฯ แต่ขณะนี้งบฯปี 67 แต่ละกระทรวงแต่ละกรมนำไปบริหารตามนโยบายและรายละเอียดของแต่ละกระทรวงอยู่แล้ว หากมีประเด็นใดไม่ชอบ มาพากล ฝ่ายค้านมีสิทธิเสนอได้ รัฐมนตรีแต่ละคนต้องสร้างความโปร่งใส และความเชื่อมั่นให้ประชาชนในการบริหารงบฯ

ก.ก.ขู่ลับดาบยื่นซักฟอกรัฐบาล

ก่อนหน้านี้ เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะประธานกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมการทำงานการเปิดประชุมสภาวันที่ 3 ก.ค.ว่า พรรค ก.ก.ยืนยันยึดมั่นเป็นฝ่ายค้านเชิงรุก ตรวจสอบเข้มข้น มีข้อเสนอตลอดเวลา ไม่ได้ทำงานเพื่อล้มรัฐบาล จะทำงานรูปแบบนี้เข้มข้นขึ้น ช่วง 1 ปีแรก รัฐบาลต้องใช้เวลาปรับตัว แต่ปีนี้ทั้งงบฯและนโยบายต่างๆขับเคลื่อนโดยรัฐบาลชุดนี้แบบ 100% ความคาดหวังของประชาชนและฝ่ายค้านต่อรัฐบาลจะเข้มข้นยิ่งกว่าเดิม สิ่งที่สัญญาไว้รัฐบาลมีอำนาจเต็มแล้วจะขับเคลื่อนได้จริงหรือไม่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลมีแน่นอน รอลุ้นว่าจะเป็นช่วงไหน พอมันเข้มข้นขึ้น ต้องตรวจสอบเข้มข้นขึ้น การวางแผน งานร่วมกับพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคฝ่ายค้านอื่นได้พูดคุยอย่างต่อเนื่อง นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. คุยกับแกนนำพรรคฝ่ายค้านทุกเดือน ล่าสุดโครงการผู้นำฝ่ายค้านพบประชาชนลงพื้นที่ จ.อุดรธานี พรรค ปชป.ส่งนายร่มธรรม ขำนุรักษ์ สส.พัทลุงมาร่วมด้วย พรรค ปชป.พร้อมทำหน้าที่ฝ่ายค้านร่วมกันอย่างเหนียวแน่น เชื่อว่าพรรค ปชป.พร้อมอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย หากฝ่ายค้านจะเปิดอภิปราย

ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล
ปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล

โอ่ข้อมูลแน่นปึ้กมั่นใจ ก.ก.ไม่ถูกยุบ

นายปกรณ์วุฒิยังกล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญเตรียมพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลก่อนเดือน ก.ย.ว่า คิดว่าศาลจะไม่ยุบ พรรคมั่นใจข้อโต้แย้งของเราต่อข้อกล่าวหาของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) หลายคนคงเห็นท่าทีฝั่งผู้กล่าวหาดูจะเกรงๆ ต่อข้อโต้แย้งพรรคก้าวไกลพอสมควรที่มีน้ำหนัก มีโอกาสมากที่พรรคก้าวไกลจะรอดสูง ขณะที่การวางแผนการ เลือกนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ในปีหน้านั้น พรรคก้าวไกลมีการวางแผนไว้ จะส่งผู้สมัครนายก อบจ.ในจังหวัดที่มีความพร้อม และจังหวัดที่มีแคนดิเดตอยู่แล้ว อาจมี 1-2 คน ซึ่งมีอยู่หลายจังหวัด จะไม่ส่งแบบดาวกระจาย ส่งแบบมียุทธศาสตร์ในจังหวัดที่พร้อมและมั่นใจว่ามีคนเหมาะสมให้ประชาชนเลือกจริงๆ จะไม่ใช่แค่อยากส่งก็ส่งหรือคิดว่าพรรคมีกระแส เพราะไม่ควรดูถูกประชาชน ดังนั้นจะได้เห็นการเปิดตัวในบางจังหวัดเพิ่มภายในเดือน ก.ค.

นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะโฆษกพรรค ก.ก.กล่าวว่า ในการประชุม สส.พรรค มีการพูดคุยกันถึงการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลอยู่เรื่อยๆ ถือเป็นกลไกสำคัญหนึ่งที่ฝ่ายค้านใช้ตรวจสอบรัฐบาล แต่ไม่ได้เป็นกลไกเดียวที่จะใช้ปกป้องผลประโยชน์ของประชาชน เรามีความพร้อม เมื่อมีข้อมูลครบถ้วนและมีจังหวะเวลาที่เหมาะสม อยากให้มองกลไกการทำงานของฝ่ายค้านให้กว้างกว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจด้วย

เร่ง กกต.รับรองผล สว.วัดใจแก้ รธน.

นายพริษฐ์กล่าวว่า ส่วนการคัดเลือก สว. เรื่องสำคัญเฉพาะหน้าทำอย่างไรให้ กกต.เร่งตรวจสอบข้อร้องเรียนให้เสร็จเร็วที่สุด จะได้รับรองผลโดยเร็ว เพราะใน พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว.ไม่ได้กำหนดว่า กกต.ต้องประกาศผลภายในกี่วัน ที่ผ่านมา กกต.ยังไม่เคยยืนยันต่อสาธารณะว่าประกาศผลเมื่อไหร่ และวันที่ 4 ก.ค. ในฐานะประธาน กมธ.พัฒนาการเมืองฯ จะเชิญ กกต.เข้ามาชี้แจง หาก กกต.ประกาศผลเร็ว โอกาสจะเกิดสุญญากาศทางการเมือง ให้ สว.ชุดเดิมรักษาการต่อจะน้อยลง ส่วน สว.ชุดไหนมีโอกาสเห็นชอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญมากกว่านั้น สว.ชุดเดิม ไม่จำเป็นต้องวิเคราะห์สถิติเกือบ 30 ร่างผ่านไปได้แค่ร่างเดียว สว.ชุดใหม่คงได้พิสูจน์กัน ปัจจัยหลักในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ คือการกำหนดองค์ประกอบของ ส.ส.ร. พรรค ก.ก.และพรรค พท. ยืนยันต้องมาจากการเลือกตั้ง 100% รวมถึงอาจมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตราคู่ขนานไปกับการแก้ไขทั้งฉบับเป็นบทพิสูจน์ สว.ชุดใหม่

ผู้ออกเเบบกติกาเฟ้น สว.ควรเป็น ส.ส.ร.

เมื่อถามถึงในส่วนข้อกังวลว่า สว.ชุดใหม่ อาจมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ เช่น วุฒิการศึกษา หรือ อาชีพที่ไม่ตรงกับกลุ่มอาชีพที่รับสมัคร นายพริษฐ์ มองว่า ทุกคนผ่านกติกาที่ถูกออกแบบมาด้วยรัฐธรรมนูญ 2560 หากไม่พบการกระทำใดๆ ที่ผิดกฎหมาย ก็คิดว่าทุกคนเข้ามาด้วยกระบวนการอย่างเท่าเทียมกัน แต่หากมีการกระทำที่ขัดต่อกฎหมาย กกต.ก็ต้องเร่งตรวจสอบและลงโทษตามกระบวนการ ส่วนที่มีความคิดว่าควรจะปรับกระบวนการได้มาซึ่ง สว.ให้เป็นการเลือกตั้ง หรือถึงขั้นตั้งคำถามว่า ควรมีวุฒิสภาต่อไปหรือไม่ ก็ล้วนเป็นโจทย์ที่คิดว่าสามารถพูดคุยกันได้ แต่สุดท้ายพรรค ก.ก.เชื่อว่า ผู้ที่จะมาออกแบบกระบวนการ ควรเป็น สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน

ทสท.ฉะ 10 เดือน รบ.แก้ ศก.เหลว

ด้านนายกิติ วงษ์กุหลาบ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวว่า วันที่ 11 ก.ค.รัฐบาลนี้จะทำงานครบ 10 เดือน รับฟังเสียงสะท้อนของประชาชน ต่างมองว่าไม่เห็นผลงานอะไรที่โดดเด่นของรัฐบาลไม่สามารถจับต้องได้เป็นรูปธรรม โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ มองไม่ออกว่ารัฐบาลมีทีมเศรษฐกิจหรือไม่ แม้แต่นายสรเทพ โรจน์พจนารัช ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มองไม่เห็นแสงสว่างปลายอุโมงค์ ต้องตั้งคำถามว่าการแก้ปัญหาเศรษฐกิจมาถูกทางหรือไม่ 10 เดือนที่ผ่านมา มีแต่ปัญหาเพิ่มมากขึ้น เช่น ข้าวของและค่าวัตถุดิบแพง ค่าไฟพุ่ง หนี้สิ้นเพิ่มมากขึ้นแต่รายได้กลับไม่เพิ่มขึ้น อยากเห็นทีมเศรษฐกิจกำหนดนโยบายที่ทำได้จริงว่าแต่ละเดือนกระตุ้นอะไรได้ แก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างไรบ้าง ไม่เช่นนั้นร้านค้ามีแต่ทยอยปิดตัวลงเรื่อยๆ ยังไม่รวมร้านโชห่วยในต่างจังหวัดที่ปิดตัวอีกมากมาย โดยเฉพาะผู้ประกอบการร้านอาหาร SMEs คนตัวเล็ก อยากเห็นนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ รัฐบาลต้องหามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงนี้นำร่องออกมาก่อน อาทิ แจกเงินสดคนละ 2,000 บาททุกเดือน ให้คนมาจับจ่ายใช้สอย 3-5 เดือน จะช่วยเหลือร้านค้ารายย่อยจนถึง SME รายใหญ่ จะเกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในประเทศแล้ววนกลับสู่รัฐบาลในรูปแบบภาษี

กกต.ถกข้อร้องเรียนอื้อเลื่อนรับรอง สว.

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก กกต.เกี่ยวกับการเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ระดับประเทศที่เสร็จสิ้นไปเมื่อวันที่ 26 มิ.ย. มีผู้ได้รับเลือกเป็น สว. 200 คนและบัญชีสำรองอีก 100 คน หลังจากนั้นมีเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการเลือก สว.เข้ามาที่สำนักงาน กกต.จำนวนมาก ตั้งแต่วันที่ 1-2 ก.ค. กกต.ได้ประชุมเพื่อหารือเกี่ยวกับคำร้องจำนวนมากดังกล่าวที่มีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดย กกต.ได้นัดประชุมหารือเกี่ยวกับคำร้องต่างๆต่ออีกช่วงบ่ายวันที่ 3 ก.ค.พร้อมกับสั่งการให้สำนักงานฯ จัดเตรียมรายละเอียดข้อมูลในทุกด้านเพิ่มเติมอีกด้วย ขณะเดียวกันเบื้องต้นคาดว่าภายในสัปดาห์หน้าถึงจะเห็นความชัดเจนเรื่องการดำเนินการประกาศรับรอง สว.จาก กกต. เนื่องจากการพิจารณาว่าใครทำผิดกฎหมาย หรือทุจริตการเลือก สว. ต้องมีหลักฐานที่ชัดเจน จึงต้องใช้เวลาตรวจสอบข้อมูล การหาหลักฐานเพิ่มเติม การประสานหน่วยงานภายนอกที่มีความเกี่ยวข้อง เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น

ชาญ พวงเพ็ชร์
ชาญ พวงเพ็ชร์

กฤษฎีกาชี้ “ชาญ” ต้องหยุดทำหน้าที่

เมื่อเวลา 08.50 น.ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ที่ชนะการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี มีคดีค้างเก่าที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ประทับรับฟ้องว่า เมื่อไหร่ที่นายชาญ เข้ารับหน้าที่ต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที เพราะคณะกรรมการกฤษฎีกาให้เหตุผลทุกกรณีไว้ว่า หากถูกสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดย ป.ป.ช.ชี้มูล และมีคำถามว่าระหว่างนั้นพ้นตำแหน่งแล้วกลับเข้ามาทำหน้าที่ใหม่จะต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ โดยตรรกะต้องหยุด ไม่ต้องการให้ยุ่งเหยิงกับคดี และป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ถือเป็นหลักกฎหมายปกติ เมื่อถามว่า ต้องหยุดโดยอัตโนมัติ โดยไม่ต้องมีหน่วยงานใดมาชี้แจงใช่หรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า ไม่ต้องมี

บอกถ้าขัดขืน สถ.มีหน้าที่สั่ง

เมื่อถามว่า นายชาญมีสิทธิไม่เชื่อความเห็นของกฤษฎีกาหรือไม่ นายปกรณ์ตอบว่า หากนายชาญไม่เชื่อ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) จะเป็นคนชี้แจง เพราะมีอำนาจหน้าที่ดูแลการเข้าสู่ตำแหน่ง การดำรงตำแหน่ง และการปฏิบัติหน้าที่ เมื่อถามว่า ใครจะทำหน้าที่แทนนายชาญ นายปกรณ์ตอบว่า คงเป็นปลัด อบจ.ปทุมธานี ในรายละเอียดให้ไปสอบถามอธิบดี สถ.และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย

“หนู” โบ้ยให้ศาลสั่งไม่ใช่เรื่อง มท.

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องของนายชาญ เมื่อถามว่า หาก สถ.สั่งต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ขึ้นอยู่กับกฎหมายและการตีความ เมื่อถามว่า กระทรวงมหาดไทยไม่สามารถบอกได้ใช่หรือไม่ว่าจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ได้หรือไม่ได้ นายอนุทินตอบว่า ไม่สามารถบอกได้ตอนนี้ เพราะยังไม่รู้เรื่องต้องไปสอบถามก่อน ต้องรอถามเลขาฯกฤษฎีกา แต่ไม่ใช่เรื่องของ มท.จะไปสั่งให้ใครหยุดหรือไม่หยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อถามอีกว่า เลขาฯกฤษฎีกาบอกว่านายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่อัตโนมัติ เว้นแต่เจ้าตัวไม่เห็นด้วยถึงเป็นหน้าที่ของ สถ.ต้องสั่งให้หยุด นายอนุทินตอบว่า สถ.คงไม่ได้สั่งอะไร เรื่องพวกนี้หากเห็นแย้งอะไรต้องให้ศาลสั่ง อย่าให้เกี่ยวกับ มท.เลยแค่นี้ปวดหัวตายอยู่แล้ว

ป.ป.ช.โยนมหาดไทยชี้ขาด

นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการ ป.ป.ช.กล่าวว่า เรื่องดังกล่าว ป.ป.ช.ชี้มูลเมื่อนานมาแล้ว ขณะนี้เรื่องอยู่ในกระบวนการพิจารณาของทางศาล ในชั้นการสืบพยานก็นำสืบพยานกันต่อไป เพราะคดีพ้นจากมือ ป.ป.ช.ไปแล้วคงทำอะไรไม่ได้ ชี้มูลและส่งเอกสารหลักฐานไปหมดแล้ว ส่วนจะมีผลต่อการได้รับเลือกเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี หรือไม่นั้น ไม่สามารถบอกได้ เป็นเรื่องของกระทรวงมหาดไทย

“อ้วน” สวนแค่ความเห็นกฤษฎีกา

ด้านนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า หนังสือเวียนของคณะกรรมการกฤษฎีกาที่ออกมาถือเป็นเพียงความเห็น ไม่ใช่กฤษฎีกาบอกอย่างนั้นอย่างนี้แล้วทุกคนต้องดำเนินการ มีหลายเรื่องที่เป็นความเห็นของกฤษฎีกาแล้วตัดสินเป็นอย่างอื่นได้ นายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ขึ้นอยู่กับกระบวนการยุติธรรม ต้องศาลสั่งเท่านั้น นายชาญยังมีสิทธิ เพราะตอนสมัครยังไม่ขาดคุณสมบัติ ผู้สื่อข่าวถามว่า ตามกฎหมาย ป.ป.ช.ยังไม่ชัดพอใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ยังหรอก เพราะศาลยังไม่มีคำสั่งว่านายชาญผิด วันนี้เพียงประทับรับฟ้อง เมื่อถามว่า ประเด็นนี้พรรค พท.ทราบก่อนเลือกตั้งนายก อบจ.หรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ฝ่ายที่เกี่ยวข้องคงเลือกมาดีแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่า มองอย่างไรพอผลเลือกตั้งออกมาแล้วมีประเด็นนี้เกิดขึ้นทันที นายภูมิธรรมตอบว่า เป็นเรื่องธรรมดา ไม่ไปคิดว่าใครกลั่นแกล้งรื้อฟื้น เพราะเรายึดกฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม

สรวงศ์ เทียนทอง
สรวงศ์ เทียนทอง

“สรวงศ์” ยัน พท.กางตำราดูแล้ว

นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคพท.ให้สัมภาษณว่า ฝ่ายกฎหมายของพรรค พท. ตรวจสอบข้อมูลแล้ว เห็นว่าเรื่องนี้ ป.ป.ช.เป็นโจทก์ฟ้องเอง ขณะที่ศาลประทับรับฟ้องนั้นนายชาญไม่มีตำแหน่งหน้าที่ จึงไม่มีกรณีที่ต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ต้องถือว่าขณะนี้คดีอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาล ถ้าจะต้องให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ป.ป.ช.โจทก์ต้องยื่นคำร้องต่อศาล นอกจากนั้นการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ไม่มีบัญญัติไว้ใน พ.ร.บ.วิธีพิจารณาของศาลอาญาทุจริตฯเพียงแต่เขียนไว้ใน พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย ป.ป.ช.เท่านั้น และเป็นดุลพินิจของศาล ไม่ใช่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยอัตโนมัติ ส่วนคำวินิจฉัยของกฤษฎีกาว่า นายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่นั้นเป็นเรื่องการใช้อำนาจตามกฎหมายการเลือกตั้งผู้บริหารท้องถิ่น เป็นกรณีทั่วไป กรณีนี้เมื่อคดีอยู่ในอำนาจศาลแล้ว ควรให้ศาลเป็นผู้สั่ง ถ้ากระทรวงมหาดไทยสั่งถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ผู้ถูกคำสั่งสามารถฟ้องร้องศาลปกครองได้

นายกฯให้ว่ากันไปตามกฎหมาย

ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯกล่าวภายหลังประชุม ครม.สัญจร ที่ จ.นคราชสีมา ว่า เมื่อมีปัญหาข้อกฎหมายก็ให้เป็นไปตามกระบวนการของกฎหมาย แต่โดยส่วนตัวแล้วไม่รู้จักนายชาญ จึงไม่ได้โทรศัพท์พูดคุยแสดงความยินดี เป็นหน้าที่ของพรรค พท. ที่จะดำเนินการ แต่ย้ำว่าไม่รู้จักเป็นการส่วนตัว แต่ก็พร้อมที่จะพัฒนาร่วมกัน เมื่อพรรค พท.เลือกนายชาญมาเป็นนายก อบจ.ปทุมธานี

“เรืองไกร” ร่อนหนังสือบี้ มท.1

นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ได้ส่งหนังสือถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ผ่านทางไปรษณีย์ให้ตรวจสอบนายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครพรรค พท. ที่ชนะเลือกตั้งนายก อบจ.ปทุมธานี จะสามารถดำรงตำแหน่งได้หรือไม่ เพราะกฤษฎีกาพิจารณาเห็นว่า ควรให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ไว้ก่อนจึงมีเหตุอันควรที่ รมว.มหาดไทย ต้องรีบตรวจสอบว่า นายชาญต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ตามผลของกฎหมายโดยเคร่งครัดหรือไม่

ทร.วอน ครม.เมตตาชี้ชะตาเรือดำน้ำ

ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เรือพระราชพิธี ถนนอรุณอมรินทร์ เขตบางกอกน้อย พล.ร.อ.อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผบ.ทร.กล่าวถึงโครงการเรือดำน้ำที่รอมติชี้ขาดการแก้ปัญหาจาก ครม.ว่า “กองทัพเรือขออ้อนวอนท่านได้โปรดเมตตา ให้กองทัพได้เรือดำน้ำด้วยนะครับ” เมื่อถามว่า จะทัน 30 ก.ย.นี้ ก่อนที่ ผบ.ทร.จะเกษียณหรือไม่ พล.ร.อ.อะดุงตอบว่า ก็อยากให้เสร็จ ผบ.ทร.ท่านใหม่ จะได้เดินหน้าในเรื่องอื่นต่อไป

ร้อง ป.ป.ช.สอบกองทุนรัฐเรียกหัวคิว

เมื่อเวลา 13.30 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช.นายนที ศิริธรรมวัฒน์ โปรดิวเซอร์ผลิตรายการ “แบร์เบอรี่ หมีจอมเปลือง” ยื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ เรียกรับเงินจากการขอรับเงินสนับสนุนกองทุนฯปี 2566 เพื่อผลิตรายการ นายนทีกล่าวว่า บจ.เอ็น.ที.อินเตอร์ บิสซิเนส ได้รับทุนจากกองทุนฯปี 2566 ผลิตรายการ “แบร์เบอรี่ หมีจอมเปลือง” วงเงิน 5 ล้านบาท แต่กลับถูกเรียกขอเงิน 1.5 ล้านบาท หรือ 30% เพื่อให้ได้ทำโครงการจากบุคคลที่อ้างว่า ผู้ใหญ่ในกองทุนเป็นคนให้งานมา ขอให้ชำระเงิน 1.5 ล้านบาท หลังจากที่ได้รับเงินสนับสนุนครั้งที่ 1 แล้วก็ถูกเร่งให้รีบจ่ายเงินดังกล่าว โดยตนและเพื่อนๆได้รวบรวมโอนเงินไปให้ 9.6 แสนบาทในวันที่ 14 ก.ค.2566 จึงนำหลักฐานสลิปการโอนเงินมายื่นเรื่องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ

เตือนเช่ารถขยะ กทม.ส่อทุจริต

ผู้สื่อข่าวรายงานจากสำนักงาน ป.ป.ช.ว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ค. พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธาน ป.ป.ช. ลงนามในหนังสือส่งถึงเลขาธิการครม.เพื่อให้ข้อเสนอแนะป้องกันทุจริตโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยของ กทม.ระบุว่า ป.ป.ช.ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบโครงการเช่ารถเก็บขนมูลฝอยของ กทม.อาจไม่โปร่งใส 4 โครงการ 1.เช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 2 ตัน 152 คัน 2.เช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบอัดขนาด 5 ตัน 464 คัน 3.เช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอยขนาด 3 ลูกบาศก์เมตร 102 คัน และ4.เช่ารถเก็บขนมูลฝอยแบบยกภาชนะรองรับมูลฝอยขนาด 8 ลูกบาศก์เมตร 124 คัน รวม 842 คัน รวมมูลค่า 3,993,761,464 บาท อาจไม่เป็นไปตามระเบียบวิธีการงบประมาณของกทม.และการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดโครงการอาจส่งผลให้ กทม.มีภาระค่าใช้จ่ายด้านงบฯเพิ่มขึ้น ตลอดจนมีข้อกังวลที่ไม่ชัดเจนหลายประเด็น อาทิ การกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ ขอบเขตงานเช่ารถฯ อาจส่งผลให้ได้รถเช่าฯที่ไม่สามารถปฏิบัติงานได้จริง การกีดกันผู้ประกอบการรายใดรายหนึ่งให้ตกไป มีเหตุควรสงสัยอาจนำไปสู่การทุจริต

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่