“สรวงศ์” ลั่น พรรคเพื่อไทยเดินหน้านโยบายเรือธงเต็มที่ ย้ำ รัฐบาลคิดมาดีแล้วว่าจำเป็น หลัง “ดิจิทัลวอลเล็ต” ถูกแขวนในชั้น กมธ.งบประมาณ 68 ชี้ ฝ่ายค้านก็คือฝ่ายค้าน ประชาชนเฝ้ารอเงินหมื่นมาเป็นทุน
วันที่ 1 กรกฎาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง สส.สระแก้ว และเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ถึงโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ซึ่งเป็นนโยบายเรือธงของพรรค ที่ถูกแขวนไว้ในคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 หากกลับเข้ามาสู่การพิจารณาของ กมธ. มั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถผ่านไปได้ โดย นายสรวงศ์ ตอบว่า ไม่น่ามีปัญหา เพราะเราก็รับฟังข้อทักท้วงของทุกฝ่ายจนออกมาเป็นมาตรการเช่นนี้ มั่นใจว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี, นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ทุกคนล้วนทบทวนกระบวนการกันมาอย่างดี
นายสรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่ประชาชนรอนโยบายนี้อยู่นั้น เวลาลงพื้นที่ประชาชนเขาก็ถามถึง ตนในฐานะ สส.คนหนึ่ง ก็มั่นใจว่ารัฐบาลพยายามที่จะทำให้เป็นรูปธรรมในทุกนโยบาย และทุกนโยบายที่เป็นนโยบายเรือธงของเรา เราจะพยายามทำให้สำเร็จเพื่อให้ประชาชนได้ใช้นโยบายของเราอย่างรวดเร็วและทั่วถึง
ผู้สื่อข่าวถามต่อ กังวลหรือไม่เพราะเหมือนฝ่ายค้านก็มีท่าทีว่าจะยื่นศาลปกครอง หากมีการใช้งบประมาณผิดวินัยการเงินการคลัง นายสรวงศ์ ระบุว่า หากรัฐบาลไม่ทำแล้วประเทศเสียหายใครรับผิดชอบ แต่หากโครงการนี้เราทำไปแล้วเกิดความเสียหาย รัฐบาลเป็นคนรับผิดชอบอยู่แล้ว อะไรก็แล้วแต่ ฝ่ายค้านก็คือฝ่ายค้าน เขาอยู่คนละฝั่งกับรัฐบาล แต่เราก็อยากให้มองเห็นภาพรวม และสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับพี่น้องประชาชน มั่นใจว่าอยู่ในสภาฯ ได้รับข้อมูลอย่างหนึ่ง แต่หากไปอยู่ในพื้นที่ก็จะได้รับข้อมูลอีกอย่าง ตอนนี้ประชาชนไม่มีเงินในกระเป๋า เงินนี้จะเป็นต้นทุนให้พวกเขา ไม่ใช่ว่าเงินหมื่นจะเอามาใช้จ่ายแบบสุรุ่ยสุร่าย มั่นใจว่าประชาชนในต่างจังหวัดเฝ้ารอว่าเงินทุนตรงนี้เมื่อไรจะมา ย้ำว่า รัฐบาลนี้คิดมาดีแล้วว่าจำเป็น.
...