บก.บห.เดอะ อีสาน เรคคอร์ด “หทัยรัตน์” แฉขบวนการล็อกโหวต เสนอเงินหลักแสนแลกเข้าก๊วน มองเลือก สว.เอื้อพวกพ้อง-กลุ่มบ้านใหญ่-พรรคการเมืองอันดับ 2 และ 3 เตรียมรวบรวมข้อมูลเอาผิด


วันที่ 26 มิ.ย. 2567 นางสาวหทัยรัตน์ พหลทัพ บรรณาธิการบริหารเดอะ อีสาน เรคคอร์ด ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนภายหลังไม่ได้รับเลือก สว.รอบแรก ว่า ระบบนี้เอื้อต่อการฮั้วคะแนน ระบบห่วย ไม่น่าใช้ได้กับกระบวนการได้มาซึ่ง สว.ที่ควรจะเป็น จากที่สัมผัสด้วยตนเองตั้งแต่ขั้นตอนรอบอำเภอ และรอบจังหวัด มีความพยายามล็อกอยู่ตลอดเวลา มีการเสนอสินจ้างให้ ตนเองก็ได้รับข้อเสนอ 1-3 แสนบาท ให้เข้าไปอยู่ในก๊วนการเมือง เป็นอดีต สส.ที่เอ่ยชื่อไปก็มีแต่คนรู้จัก ซึ่งมีการเจรจาผ่านโทรศัพท์ ก่อนการเลือกสองวัน โดยขอให้เข้าไปอยู่ในก๊วนเพราะขาดกลุ่มสื่อมวลชน นอกจากนี้หากลงให้ 10 หมายเลข ตามที่ได้บรีฟข้อมูลไว้ จะได้ค่าตอบแทนการเขียนครั้งละ 50,000 บาท รวม 10 หมายเลข 5 แสนบาท 

ส่วนตัวได้ปฏิเสธ โดยให้เหตุผลว่าเป็นสื่อมวลชนและมีรายได้ แต่เจ้าตัวยังพยายามตื๊อ นอกจากนี้ยังมีคนรู้จักที่เจอในลักษณะคล้ายกันอีก โดยเฉพาะจังหวัดหนองบัวลำภู ที่มีการนำรถไปรับถึงหน้าบ้าน และนอนโรงแรมเดียวกัน เหตุการณ์ทั้งหมดทำให้คนที่ เป็นนักการเมืองสามารถล็อกโหวตได้ เป็นการเมืองแบบเก่า 

นางสาวหทัยรัตน์ เปิดเผยอีกว่าบุคคลที่พยายามมาขอให้ตนเองเข้าก๊วน อยู่กลุ่มที่ 13 และพยายามกว้านซื้อผู้สมัคร สว.ในจังหวัดหนองบัวลำภู โดยระบุว่ามีเงินอยู่ส่วนหนึ่งต้องการจะแบ่งปัน ส่วนตัวไม่ทราบว่าบุคคลดังกล่าวผ่านเข้าไปรอบ 800 คนหรือไม่ ขณะที่กลุ่ม 18 เห็นได้ชัดว่าก๊วนใหญ่มักจะได้คนที่เข้าไปอยู่ในสังกัดของตนเองเยอะ ส่วนกลุ่มเล็กๆ ที่จับกลุ่มกันประมาณ 10 คน ส่วนใหญ่ตกรอบไม่มีคะแนน 

...

“ระบบเอื้อต่อพวกพ้อง ใครมีพวกพ้องเยอะก็สามารถจัดตั้งได้มากกว่า ไม่ได้บอกว่าตนเองมีความสามารถแต่คนที่ไปต่อได้อย่างอาจารย์นันทนา คุณพิชิต จิตนิยม คุณประทีป คงสิบ ถือเป็นบุคคลที่มีคุณภาพ ไม่แน่ใจว่ารอบไขว้จะสามารถไปเจอผู้ที่โหวตให้เป็น สว.หรือไม่ ขอฝากความหวังไว้กับ 3 คนนี้” 

นางสาวหทัยรัตน์ ประมาณการว่าน่าจะมี สว.ที่มาจากประชาชน 100 คน เพราะกระบวนการวันนี้ทำให้เราเห็นว่าบ้านใหญ่น่าจะฮุบ สว. เท่าที่ทราบมี 6 กลุ่มใหญ่ๆ และเป็นพรรคการเมือง อันดับ 2 และ 3 โดยขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูล เพราะเป็นการเจรจาทางโทรศัพท์ ไม่ได้มีการบันทึกเสียง เป็นสัญญาว่าจะให้ด้วยวาจา จึงทำให้ไม่มีหลักฐานชัดเจน และขอพิจารณาดูก่อนว่าจะทำอย่างไรต่อไป