นายกฯ เปิดทำเนียบรัฐบาล จัดงานฉลองกฎหมายสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ หน้าตึกไทยคู่ฟ้า หลัง สว.ผ่านความเห็นชอบท่วมท้น ดารา-ศิลปิน คนดัง ตบเท้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

วันที่ 18 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทำเนียบรัฐบาล จัดงานเลี้ยงรับรอง เพื่อแสดงความยินดีกับจุดเริ่มต้นของกฎหมายสมรสเท่าเทียม โดยเปิดบริเวณสนามหญ้าหน้าตึกไทยคู่ฟ้า จัดอีเวนต์สีรุ้ง มี LGBT ศิลปิน ดารา นักแสดงชื่อดัง ร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน และ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวแสดงความยินดี นอกจากนี้ ยังมีเอกอัครราชทูตมาร่วมแสดงความยินดีในงานครั้งนี้ด้วย

...

นายวราวุธ กล่าวว่า ต้องขอบคุณความร่วมมือจากทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ สภาผู้แทนฯ วุฒิสภา และพรรคการเมือง รวมถึงภาคอื่นๆ ที่ร่วมกันผลักดันจนกระทั่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ได้ผ่านขั้นตอนต่างๆ และวันนี้ได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมวุฒิสภา ซึ่งรัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ถือเป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชนที่มนุษย์ทุกคน ทุกเพศ ทุกวัย ทุกสถานะ มีสิทธิจะได้รับความคุ้มครองให้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกัน และเมื่อกฎหมายฉบับนี้ได้ผ่านการรับรองและมีผลบังคับใช้ จะทำให้ประเทศไทยเป็นประเทศแรกในอาเซียน และประเทศที่สามในเอเชีย ที่มีกฎหมายสมรสเท่าเทียม และจะเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศสามารถสมรสกันได้ตามกฎหมาย และยังมีสิทธิและประโยชน์ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งทางกฎหมายและทรัพย์สิน และคิดว่าจะเป็นการส่งเสริมภาคธุรกิจของประเทศไทย ให้คู่สมรสเพศเดียวกันที่อยากจดทะเบียนสมรส สามารถเดินทางมาที่ประเทศไทยในการจดทะเบียนสมรสกันได้

ขณะที่ นายอัครนันท์ กัณณ์กิตตินันท์ สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง หลังจากวันนี้เห็นวุฒิสภาเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมเพราะเป็นสิ่งที่พรรคการเมืองและสภาผู้แทนฯ ผลักดันกันมานาน หลังจากนี้ก็จะมีกฎหมายสำหรับคู่สมรสที่เป็นเพศเดียวกันแล้ว จึงอยากให้คู่รักเพศเดียวกันเดินทางมาประเทศไทยมาจดทะเบียนสมรสได้

ส่วน นายคชาภา ตันเจริญ และ นายธนัชพันธ์ บูรณาชีวาวิไล หรือ ดีเจบุ๊คโก๊ะ ก็กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตัวแทนของ LGBT รู้สึกดีใจ เพราะกว่าจะมีวันนี้ได้ประเทศไทยต้องรอมากกว่า 20 ปี เชื่อว่าหลังจากนี้จะทำให้คู่รักที่เป็นเพศเดียวกันได้มีสิทธิเท่าเทียม สมกับการรอคอยมานาน