“อิ๊งค์ แพทองธาร” ลงพื้นที่สำรวจสินค้าท้องถิ่น นำข้อมูลไปพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ อ้อนชาวขอนแก่น “ทักษิณ ชินวัตร คิดฮอดเด้อ” พร้อมอุดหนุนสินค้าและผ้าฝ้าย ก่อนร่วมงานสัมมนา ม.ขอนแก่น พรุ่งนี้
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 มิถุนายน 2567 น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินทางมาสำรวจสินค้าท้องถิ่นเพื่อรับทราบความต้องการของชาวบ้าน เพื่อนำข้อมูลไปพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์ (Soft Power) ของประเทศ โดยมี สส.พรรคเพื่อไทย จังหวัดขอนแก่น ผู้นำชุมชน และประชาชนให้การต้อนรับ ที่หอประชุมศรีภูบาล องค์การบริหารส่วนตำบลท่าพระ อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น
ทั้งนี้ ชาวบ้านได้นำสินค้าชุมชนในพื้นที่และต่างพื้นที่มาโชว์กว่า 10 บูธ ทั้ง ปลาส้ม ไม้กวาดดอกหญ้า มาลัยจากผ้าขาวม้า ไส้กรอก การสานตะกร้า กากหมูหรือกากเจียว โดย น.ส.แพทองธาร ได้เดินชมสินค้าตามบูธต่างๆ พร้อมทั้งซื้อสินค้าจากชาวบ้าน และได้ซื้อผ้าฝ้ายจากกลุ่มทอผ้าไหมอีรี่ จำนวน 2 ชิ้น ขนาด 2.50 เมตร ราคารวม 3,500 บาท
...
จากนั้น น.ส.แพทองธาร ได้กล่าวทักทายประชาชนที่มาให้การต้อนรับ ทั้งกลุ่มสตรี กลุ่มแม่บ้าน รวมถึงกลุ่ม อสม. สั้นๆ เป็นภาษาอีสาน ว่า “ทักษิณ ชินวัตร คิดฮอดเด้อ หากมีเวลาจะเดินทางลงมาเยี่ยมพี่น้องชาวขอนแก่น” พร้อมทั้งบอกว่า ส่วนตัวเคยมาขอนแก่นตั้งแต่ยังไม่ตั้งครรภ์ มาตอนตั้งครรภ์ และหลังคลอดก็ต้องมา โดยคราวหน้าจะพาลูกหลานมาด้วย จากนั้นจึงถ่ายรูปร่วมกับชาวบ้านที่มารอต้อนรับทุกกลุ่มอย่างเป็นกันเอง
ทางด้าน นางทองเลิศ สอนจันทร์ ประธานกลุ่มทอผ้าไหมอีรี่ บ้านหนองหญ้าปล้อง อำเภอมัญจาคีรี จังหวัดขอนแก่น กล่าวว่า งานฝีมือชาวบ้านถนัดอยู่แล้ว แต่อยากให้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้คนรู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้มากกว่าเดิม ปัจจุบันผลิตภัณฑ์ไหมอีรี่ ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนจีน นิยมซื้อไปจำหน่ายในประเทศ โดยแปรรูปเป็นเสื้อผ้า หมวก กระเป๋า สามารถสร้างรายได้เข้ากลุ่มเดือนละ 200,000 บาท สำหรับ “ไหมอีรี่” คือ ไหมป่า เป็นไหมชนิดที่ความนุ่มและฟูกว่าไหมบ้านปกติ มีจุดเด่นที่เส้นไหมไม่สม่ำเสมอ มีความฟู นุ่ม เบา มีผิวสัมผัสเป็นเอกลักษณ์ของตนเอง สามารถย้อมสีธรรมชาติได้ อีกทั้งการสาวไหมก็ไม่จำเป็นต้องฆ่าตัวไหม
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า น.ส.แพทองธาร จะมาร่วมสัมมนางานเศรษฐกิจแห่งปี ISAN Soft Power ขุมทรัพย์ขับเคลื่อนอีสานใหม่สู่สากลของมหาวิทยาลัยขอนแก่น ในหัวข้อ “ISAN Soft Power โอกาสและความท้าทายในการพลิกเศรษฐกิจอีสานให้รุ่งเรืองและยั่งยืน” ในวันที่ 14 มิถุนายน 2567