“วิสาร เตชะธีราวัฒน์” ชี้ ร่าง พ.ร.บ.แอลกอฮอล์เสร็จทันสมัยประชุมนี้ มั่นใจเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทย ส่วนคนทำผิดทางอาญา ทำคนอื่นพิการต้องได้รับโทษหนัก ก่อนพากรรมาธิการ 42 คน พบ “สมศักดิ์” หารือข้อกฎหมาย

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 12 มิ.ย. 2567 ที่ห้องประชุม 401 อาคารรัฐสภา ในการประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (ฉบับที่....) พ.ศ. .... ที่มี นายวิสาร เตชะธีราวัฒน์ ประธานคณะกรรมาธิการ เป็นประธานในการประชุม โดยที่ประชุมได้มีการเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหารือเกี่ยวกับการแก้กฎหมายดังกล่าว รวมถึงเรื่องข้อห่วงใยในการแก้ฎหมาย

โดย นายวิสาร กล่าวยืนยันในที่ประชุมว่า ทาง กมธ.มีความห่วงใยไม่แพ้หน่วยงานอื่น และยินดีรับฟังเพื่อนำไปแก้ไขปรับปรุงต่อไป 

จากนั้นให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวการเมืองไทยรัฐ เพิ่มเติมว่า กฎหมายได้ถูกบรรจุมาทั้งหมด 5 ฉบับ โดยมีทั้งภาครัฐและเอกชน ที่มีความเห็นต่างหลายเรื่อง ทั้งเรื่องการควบคุมและหนุนเรื่องเศรษฐกิจ แต่ใช้ร่างของคณะรัฐมนตรีเป็นหลัก จำนวน 45 มาตรา มีกรรมาธิการ 42 คน โดยตนเองให้โอกาสทุกคนแสดงความคิดเห็น แต่จะไม่ใช่วิธีการหักหาญด้วยการโหวต เพื่อป้องกันการร้าวฉาน หากเรื่องไหนที่ตกลงกันไม่ได้ให้ชะลอกันไปก่อน เพื่อหารือเรื่อยๆ โดยที่ผ่านมามีการหารือ 17 ครั้งแล้ว บรรยากาศเป็นไปด้วยดี และต้องเกิดประโยชน์สูงสุดกับประชาชนคนไทย ขอให้มั่นใจว่าหากกฎหมายฉบับนี้ออกมาจะเป็นผลดีกว่าที่แล้วๆ มา จะเกิดประโยชน์ทุกด้าน ทั้งเรื่องดูแลส่งเสริมสุขภาพ การส่งเสริมการท่องเที่ยว การเมาแล้วขับ การยุยงเยาวชนในการดื่มสุรา คาดว่ากฎหมายจะเสร็จทันสมัยประชุมนี้ และตั้งใจไว้ว่าจะเสนอสภาในเดือนสิงหาคม เพื่อเสนอคณะกรรมาธิการชุดใหญ่และเสนอเข้าสภาต่อไป ในการโหวตวาระ 2 และวาระ 3 

...

“ประเทศไทยกฎหมายมีมาก แต่การบังคับใช้ให้เกิดผล บางทีอาจจะต้องบังคับใช้ในด้านสังคม หรือแซงชั่นกันเรื่องผู้ที่กระทำความผิดมีความสำนึก มีความคิดในการรับผิดชอบต่อสังคม หากมีความผิดทางด้านอาญา ทำให้คนอื่นพิการต้องรับโทษหนัก แต่ว่าจะห้ามไม่ให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มันเป็นไปไม่ได้” นายวิสาร กล่าว 

ต่อมา เมื่อเวลา 14.00 น. นายวิสาร ได้พาคณะกรรมาธิการเดินทางไปพบ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ โดย นายวิสาร กล่าวระหว่างเข้าพบว่า คณะกรรมาธิการ 42 คน มีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน และเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถ นอกจากนี้ ยังมีคณะอนุกรรมาธิการอีกหนึ่งชุด ที่ได้มีการรับร่างกฎหมายจากฝั่งรัฐบาล 5 ร่าง โดยมีเอกชน 2 ร่าง รวมทั้งจากฝ่ายสภาผู้แทนราษฎรร่วมด้วย ซึ่งเชื่อว่าหากคณะกรรมาธิการได้มาปรึกษาข้อกฎหมายกับนายสมศักดิ์ ที่มีประสบการณ์ทำงานในหลายกระทรวง การพิจารณากฎหมายในหลายฉบับ จะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของคณะกรรมาธิการ เพื่อดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อทำให้กฎหมายฉบับนี้ทันสมัยขึ้น พร้อมยืนยันและคาดว่ากฎหมายจะเข้าสภาทันในสมัยประชุมนี้

ด้าน นายสมศักดิ์ ได้กล่าวแนะนำว่า บางมาตราต้องเขียนเปิดกว้างเพื่อให้ประกาศใช้ และต้องมีกฎหมายตามมาประกอบการใช้ ขอบคุณกรรมาธิการทุกคนที่ทำให้กฎหมายจบได้ ถือว่าเป็นวีรบุรุษแล้ว แต่บางทีเราจะไปห้ามทั้งหมด ก็คงไม่ได้เป็นกฎหมายของส่วนรวม อะไรที่ห้ามไม่ได้ต้องสร้างภูมิคุ้มกัน ต้องฟังจากกระทู้สภาประกอบด้วย