รมว.แรงงาน เปิดเวทีระดมความคิด ป้องกันความเสี่ยงกองทุนประกันสังคมล้มละลายใน 30 ปี ชง ปรับเพดานค่าจ้าง ปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพ เพิ่มอายุเกษียณจาก 55 ปีเป็น 65 ปี


วันที่ 31 พ.ค. 2567 ที่กระทรวงแรงงาน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน เป็นประธานการประชุมระดมความคิดเห็นการบริหารกองทุนประกันสังคมมูลค่ากว่า 2.5 ล้านล้านบาทหลังจากมีข้อกังวลว่ากองทุนมีความเสี่ยงล้มละลายใน 30 ปี และประกันสังคมได้เตรียมการอย่างไรโดยมีนายไพโรจน์ โชติกเสถียร ปลัดกระทรวงแรงงาน นายสฤษฏ์พงษ์ เกี่ยวข้อง ประธานคณะกรรมาธิการการแรงงาน นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้แทนสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และผู้แทน 20 พรรคการเมือง อาทิ พรรคก้าวไกล เพื่อไทย ภูมิใจไทย พลังประชารัฐ นักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิร่วมประชุมนานกว่า 3 ชั่วโมง 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า ได้นำเสนอหลักการบริหารกองทุนประกันสังคม การเพิ่มการเข้าถึงและประสิทธิภาพบริการทางการแพทย์ระบบกองทุนชราภาพ การสร้างเสถียรภาพกองทุนในมิติของผลตอบแทนการลงทุน การยกระดับระบบประกันสังคมปัจจุบันเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคม สร้างความยั่งยืนให้กองทุนประกันสังคม ส่วนที่กังวลว่ากองทุนประกันสังคมจะล้มละลายในอีก 30 ปีนี้หรือไม่นั้น อาจจะเป็นเช่นนั้นหากไม่ทำอะไร เพราะผลการประเมินค่าทางคณิตศาสตร์ประกันภัยระบุว่า ผู้ประกันตนจะเกษียณอายุเพิ่มขึ้น จะมีผู้รับบำนาญสะสมเพิ่มขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายบำเหน็จบำนาญเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและได้มีการศึกษาแนวทางการปฏิรูปกองทุนประกันสังคมให้มีความยั่งยืนไว้ในหลายรูปแบบ เช่น การปรับเพดานค่าจ้าง ปรับเพิ่มอัตราเงินสมทบเข้ากองทุนชราภาพ เพิ่มผู้ประกันตนต่างชาติ เพิ่มจำนวนผู้ประกันตนระยะสั้น ปรับเพิ่มผลตอบแทนการลงทุน ปรับเพิ่มอายุเกษียณจาก 55 ปีเป็น 65 ปี จะช่วยลดต้นทุนค่าใช้จ่ายเนื่องจากระยะจ่ายบำนาญสั้นลง

...