“เศรษฐา” เร่งระดมมันสมองประชุม ครม.เศรษฐกิจนัดแรก “เศรษฐพุฒิ” ผู้ว่าการ ธปท.อยู่ถกจนจบ กางโจทย์แก้ตัวเลข ศก.ต่ำกว่าประมาณการ ยอมรับโร่เข้าบ้าน “วิษณุ” ใช้บริการข้อกฎหมายแจงสู้คดี แต่งตั้ง “พิชิต” เซ็นให้นั่งที่ปรึกษา สลค.ทันที มั่นใจสู้ได้ไม่มีตกเก้าอี้นายกฯ น้อมรับเสียงสะท้อนผลโพล “ก้าวไกล” ผลงานนำห่าง พท.ขอลุ้นเงินดิจิทัลเรียกคะแนนตีตื้น “ภูมิธรรม” เมินบอกอย่าไปใส่ใจโพลทำงานดีกว่า “อนุทิน” ติงอย่าเดาการเมืองเกินเหตุ ยันพรรคร่วมยังเป็นหนึ่งเดียว “ชัยธวัช” ลั่นเพื่อไทยคือคู่แข่ง ไม่จับมือโหวตเป็นนายกฯคนใหม่ ส่ง “พิธา” เข้าประกวดตามสิทธิ กกต.ไม่ยื้อมีมติเอกฉันท์ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาล ปค.กลาง ปลดล็อกระเบียบแนะนำตัว สว. ขณะที่ศาลสั่งจำคุก “ลูกเกด”สส.ปทุมธานี 2 ปี คดี ม.112
หลังสถาบันพระปกเกล้าเผยผลโพล ระบุพรรคก้าวไกล มีคะแนนนิยมนำโด่งถึงขนาดจะได้ที่นั่ง สส.ถึง 208 คนหากมีเลือกตั้งเร็วๆนี้ ส่วนพรรคเพื่อไทยตกเป็นที่ 2 ได้ 105 คน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี น้อมรับเสียงสะท้อนดังกล่าว พร้อมเข้าหารือปรึกษาข้อกฎหมายสู้คดีแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กับนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกรัฐมนตรี
...
นายกฯเคารพผลโพลเสียง ปชช.
เมื่อเวลา 08.45 น. วันที่ 27 พ.ค. ที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์ กทม. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน EARTH JUMP 2024 : The Edge of Action จากนั้นนายเศรษฐาให้สัมภาษณ์ถึงผลสำรวจความนิยมของพรรคการเมืองและนายกรัฐมนตรีของสถาบันพระปกเกล้า ที่พรรคก้าวไกล (ก.ก.) มีคะแนนนิยมนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า แน่นอน เรื่องนี้เป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชน เราต้องให้ความเคารพกับเรื่องของข้อมูลที่ได้มาอย่างที่บอกเรื่องของงบประมาณปี 2567 เพิ่งออกมาใช้ได้
แจงตั้งวง ครม.ศก.ระดมสมอง
นายเศรษฐากล่าวถึงการประชุม ครม.เศรษฐกิจในช่วงเย็นวันที่ 27 พ.ค.ว่า วันนี้เราไม่ได้มาประชุมสั่งการ แต่มาพูดคุยว่าแต่ละท่านมีข้อคิดเห็น และมีข้อเสนอแนะนำอย่างไรบ้าง และคงไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ไม่อยากให้มองเป็น ครม.เศรษฐกิจ อยากให้เป็นคณะกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจมากกว่า ส่วนการไปรับประทานข้าวพูดคุยกับนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ก็เป็นการเตรียมความพร้อมประชุม ครม.เศรษฐกิจ
เปิดฉากนัดแรกขุนพลพร้อมหน้า
ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่ห้องสีเขียว ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐาเป็นประธานการประชุม ครม.เศรษฐกิจ ครั้งที่ 1/2567 มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกฯ และ รมว.พลังงาน นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ติดภารกิจมอบหมายนางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม เป็นตัวแทน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รมว.อุตสาหกรรม นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ประธานผู้แทนการค้าไทย นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ (สศช.) นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผอ.สำนักงบประมาณ นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) นายพรชัย ฐีระเวช ผอ.สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) และนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เข้าร่วมการประชุม
กางปัญหาตัวเลข ศก.ไม่เข้าเป้า
นายกฯกล่าวเปิดการประชุมว่า กราบสวัสดีรองนายกฯ รัฐมนตรี ผู้ว่าการแบงก์ชาติ เลขาธิการสภาพัฒน์ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เรื่องเศรษฐกิจในวันนี้ตามที่เราทราบกันดีว่า ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาต่ำกว่าประมาณการค่อนข้างมาก แต่วันนี้เรายังไม่เรียกภาวะเศรษฐกิจถดถอยก็ตามที เพราะยังมีเรื่องการท่องเที่ยวที่ยังช่วย แต่ก็ยังเดินหน้าไม่เต็มที่ ที่ผ่านมาตัวเลขเศรษฐกิจไม่ค่อยดีมานาน และต่อเนื่อง รวมถึงมีปัญหาอีกหลายเรื่อง เช่น ปัญหาเศรษฐกิจโลกโตช้า กำลังซื้ออ่อนตัว โดยเฉพาะกลุ่มฐานราก รวมถึงสภาพการเปลี่ยนแปลงทางภูมิอากาศ และปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น สังคมสูงวัย ความสามารถทางการแข่งขัน หนี้ครัวเรือน และหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ปัญหาส่วนใหญ่ต้องแก้ไขโดยการปรับโครงสร้าง และรากฐานเศรษฐกิจ หลายเรื่องภาครัฐทำได้เลย เรากำลังทำอยู่ เช่น เร่งการเบิกจ่ายภาครัฐ กระตุ้นกำลังซื้อ การท่องเที่ยว แต่วันนี้จะทำให้เกิดขึ้นโดยเร็วอย่างไร มีอะไรที่อยากหารือ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย อะไรสามารถทำได้หรือทำไม่ได้ ขอให้แสดงความคิดเห็นได้อย่างเต็มที่
ยิ้มผู้ว่าการ ธปท.ร่วมประชุมจนจบ
ต่อมาเวลา 18.00 น. หลังเสร็จสิ้นประชุม ครม.เศรษฐกิจ นายกฯได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล โดยได้ลดกระจกยิ้มทักทายผู้สื่อข่าว กล่าวเพียงสั้นๆว่า นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯและ รมว.คลัง จะเป็นผู้แถลงผลการประชุมทั้งหมด โดยมีนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.เดินทางกลับออกจากทำเนียบรัฐบาลในเวลาไล่เลี่ยกัน
“พิชัย” แง้มวิธีให้ ธปท.ลดดอกเบี้ย
กระทั่งเวลา 18.20 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รอง นายกฯ และ รมว.คลัง พร้อมนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ร่วมกันแถลงผลการประชุม ครม.เศรษฐกิจ โดยนายพิชัยกล่าวว่า ที่ประชุมได้หารือถึงปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ ที่ประชุมได้นำทุกปัญหามากางบนโต๊ะ เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหาทางออกร่วมกัน โดยมีมาตรการระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาวออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และทำทุกวิถีทาง เพราะตนไม่พอใจการขยายตัวของเศรษฐกิจที่ 2.5% ขณะนี้กำลังการผลิตของภาคอุตสาหกรรมต่ำมากที่ 57.2% ส่งผลต่อการจ้างงานและการบริโภค เมื่อผู้บริโภคไม่ซื้อ ไม่มีกำลังซื้อ ผู้ผลิตไม่มีรายได้ ต้องหาทางกระตุ้นขึ้นมา ท่องเที่ยวปีนี้เติบโตในภาคอุตสาหกรรมรายใหญ่พอสู้ไหวกู้เงินได้ แต่รายเล็กเข้าไม่ถึงแหล่งทุนไม่มีสภาพคล่อง ผู้ว่าการ ธปท.เห็นว่าเศรษฐกิจ มีปัญหาเรื่องปล่อยสินเชื่อ ต้องมีมาตรการบางอย่างออกมา ศักยภาพของประเทศดีพื้นฐานดีการขยายตัวต้อง 3.5% ขึ้นไป ที่ประชุมยังได้หารือถึงค่าเงินเฟ้อที่พอดี เพื่อนำมาเป็นนโยบาย โดยกระทรวงการคลังและ ธปท.เห็นให้ตรงกันว่า จะกำหนดกรอบเงินที่เหมาะสมเท่าใด ปกติคุยกันสิ้นปีแต่เราเห็นความจำเป็นเลยต้องเริ่มคุยกัน ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ย หากสินค้าราคาถูกดอกเบี้ยต้องแพงหน่อย สินค้าแพงดอกเบี้ยต้องถูกหน่อย คงต้องมาดูว่าจะตั้งกรอบเงินเฟ้อเท่าใด
เฟ้นกลยุทธ์กระตุ้นก่อนแจกเงินหมื่น
นายเผ่าภูมิกล่าวว่า มาตรการระยะสั้นคือ แก้ปัญหาหดตัวการปล่อยสินเชื่อให้ธุรกิจเอสเอ็มอี ที่มีอย่างรุนแรง โดยภาครัฐจะเข้าไปช่วยรับความเสี่ยงให้สถาบันการเงินกล้าปล่อยสินเชื่อ โดยเพิ่มเงื่อนไขต้องปล่อยกู้หรือค้ำประกันสินเชื่อให้เอสเอ็มอีรายใหม่ ที่ไม่เคยได้รับเงินกู้เป็นอันดับแรก มาตรการนี้ภายใน 2-3 สัปดาห์จะนำเข้า ครม. โดยกระทรวงการคลังจะไปเร่งรัดเบิกจ่ายงบฯ ทั้งในส่วนงบฯ และงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ส่วนธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ได้รับโจทย์ให้ปล่อยสินเชื่อให้ประชาชน ช่วยให้ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อยเข้าถึงสินเชื่อมากขึ้น ส่วนมาตรการภาคท่องเที่ยว มอบหมาย รมว.การ ท่องเที่ยวและกีฬา ไปดึงนักท่องเที่ยวจากตะวันออกกลาง เข้ามาในช่วงโลว์ซีซัน ที่กระทรวงการคลังเตรียมมาตรการส่งเสริมท่องเที่ยวในเมืองรอง ที่จะเปิดเผยเงื่อนไขให้ทราบต่อไป ด้านนายจุลพันธ์กล่าวว่า ขอทำความเข้าใจว่า การประชุมครั้งนี้นายกฯเชิญรัฐมนตรีและหน่วยงานเศรษฐกิจ ที่เกี่ยวข้องมาร่วม แต่ไม่ได้ตั้งคณะกรรมการแบบ ครม.ฝ่ายเศรษฐกิจ ทั้งนี้ นายลวรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลังเสนอว่าระหว่างรอมาตรการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ควรคิดมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายปีเพิ่ม โดยแต่ละกระทรวงต้องรับกลับไป และนำมาหารืออีกครั้ง
“อ้วน” ไม่ใส่ใจโพลทำงานดีกว่า
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พาณิชย์ แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงผลโพลของสถาบันพระปกเกล้า ที่พบว่าหากเลือกตั้งวันนี้พรรค ก.ก.ได้ สส. 208 คน พรรค พท.ได้ 105 คนว่า โพลไม่ได้สำคัญอะไร เป็นการรวบรวมวิธีคิด การแสดงความเห็น แต่ถ้าฟังนายสติธร ธนานิธิโชติ นักวิชาการผู้ชำนาญการ สำนักวิจัยและพัฒนา สถาบัน พระปกเกล้า ที่ทำโพล เขาบอกว่าไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรเพราะเป็นช่วงหลังจากที่ทำงานกันมาต้องขอดูกันต่อไป ตอนนี้รัฐบาลเราดูตัวเองและทำงาน มัวมานั่งมองแต่โพล มีหลายสำนักไม่รู้จะเชื่อใครดี พระปกเกล้า นิด้า หรือโพลภาคอีสาน อย่าเพิ่งไปใส่ใจเลยทำงานดีกว่า พรรค พท.ทำงานหนักของเราตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามย้ำว่าพรรค พท.ต้องปรับเปลี่ยนการทำงานอย่างไรหรือไม่ นายภูมิธรรมตอบว่า ปรับเปลี่ยนตัวเองตลอดเวลาอยู่แล้ว เมื่อถามว่า เลือกตั้งครั้งหน้านายเศรษฐาขายไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมไม่ตอบคำถาม
เชื่อโพลไม่บั่นทอนรัฐบาล พท.
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อพรรค พท. กล่าวว่า เรายอมรับผลสำรวจของสำนักโพลแต่ละสำนัก แต่ต้องฟังอีกหลายๆโพล ผลโพลที่ออกมาไม่บั่นทอนการทำงาน เพราะถามว่าหากการเลือกตั้งเกิดขึ้นในเร็ววันนี้ แต่จริงๆการเลือกตั้งไม่ได้เกิดในเร็วๆนี้ เพราะรัฐบาลจะอยู่ครบ 4 ปีแน่นอน ต้องยอมรับว่าการบริหารประเทศหลังรัฐบาลรัฐประหาร บวกกับสถานการณ์โควิดไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ที่นายกฯทำมาแล้วเห็นทิศทางว่า หากงบประมาณปี 2567 ออกต่อเนื่องกับงบฯ ปี 2568 การขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ จะดีขึ้น และรัฐบาลอยากทำงานแบบวิ่ง 100 เมตรเห็นผลโดยเร็ว แต่ความเป็นจริงเหมือนวิ่งมาราธอนด้วยสถานการณ์ที่ต้องก้าวข้ามผ่านแต่ละวิกฤติ ฉะนั้นถือเป็นความท้าทาย ที่รัฐบาลเข้ามาทำงานในช่วงรอยต่อ แต่หากทำงานต่อไปเรื่อยๆจะเห็นผลที่เป็นรูปธรรม
ลุ้นเรือธงเงินดิจิทัล 1 หมื่นตีตื้น
นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ผลโพลที่บอกว่า พรรคใดมีคะแนนนำนั้นอาจมีหลายปัจจัย แต่ต้องยอมรับว่า พรรคที่คะแนนนำนั้นยังไม่เคยได้โอกาสเข้ามาบริหาร โดยหลักการการเป็นฝ่ายค้าน ประชาชนยังไม่เห็นฝีมือ เมื่อยังไม่เห็นฝีมือ อาจคาดหวังได้ว่า เข้าไปทำจะเป็นเช่นนั้นเช่นนี้ แต่เราคงไม่นำโพลมาบอกว่าเราท้อแท้หรือฮึกเหิมมั่นใจ ต้องตั้งใจทำงานอย่างเต็มที่ โพลที่ออกมาเป็นแรงผลักดันเป็นความท้าทายที่รัฐบาลต้องเร่งสปีดผลักดันและออกนโยบายที่เป็นรูปธรรม เชื่อว่าหากนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตสำเร็จได้ นโยบายที่เป็นเรือธงต่างๆของพรรค พท. ออกมาก่อน ความเชื่อมั่นและคะแนนนิยมจะดีขึ้นอย่างแน่นอน
“หนู” คิดบวกส่งซิกให้เวลาแก้เกม
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวว่า ต้องแสดงความยินดีกับพรรค ก.ก.ที่ความนิยมไม่ตกลงเลย ถือเป็นสัญญาณให้พรรคต้องเร่งทำผลงานให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นมากขึ้น ดีที่ผลโพลออกมาตอนนี้ดีกว่าออกมาตอนใกล้เลือกตั้งแล้วแก้ไขอะไรไม่ทัน เมื่อถามว่าแสดงว่าไม่กังวลกับผลโพลเพราะพรรค ก.ก.ได้ สส. 208 คน ไม่ถึง 250 คน ใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ได้มองตรงนั้น แต่มองว่าทำไมพรรคการเมืองมี สส.มีคนทำงานเหมือนกัน ทำไมบางพรรคความนิยมมากขึ้นบางพรรคลดลง คำตอบมีอยู่อย่างเดียวคือ พรรคที่คะแนนนิยมลดลงยังทำงานหนักไม่พอ ผลงานไม่เข้าตาประชาชน ต้องเร่งทำงานมากยิ่งขึ้น
“ธนาธร” ปลุก 3 ปีต้องข้ามเส้น 250
นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า กล่าวว่า ขอบคุณประชาชนทุกคนที่ให้ความไว้วางใจต่อเพื่อนที่อยู่ในพรรค ก.ก. หวังอย่างยิ่งว่าเพื่อนในพรรค ก.ก.จะไม่ทำให้ประชาชนผิดหวัง ผลออกมาเป็นที่น่าพอใจแต่ยังไม่เพียงพอ เหลือเวลาอีก 3 ปี พรรค ก.ก.ต้องทำงานหนักกว่านี้ เราต้องการข้ามเส้น 250 ให้ได้ ถ้าทำได้ในปี 2570 ทศวรรษ 2570 จะเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง วันนี้มาไกลกว่าในวันที่ตั้งพรรคอนาคตใหม่แล้วแต่ยังไม่พอ 3 ปีนี้ ต้องใช้ทุกวันให้เป็นประโยชน์มากที่สุด ทำให้ประชาชนเห็นถึงความจริงใจ ความแน่วแน่ของเรา จะได้มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ นำนโยบายไปทำให้เป็นจริง
“เศรษฐา” รุดถก “วิษณุ” ช่วยแก้ต่าง
อีกเรื่อง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการเชิญนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ ฝ่ายกฎหมาย มาขอคำปรึกษาเรื่องข้อกฎหมาย การทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญกรณี 40 สว. ยื่นถอดถอนจากตำแหน่งกรณีเสนอชื่อนายพิชิต ชื่นบาน ที่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญเป็นรัฐมนตรีว่า “ผมไม่ได้เชิญท่านมา ผมไปหาท่านที่บ้านพัก ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว” เมื่อถามว่านายวิษณุได้ให้คำปรึกษาในการชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญอย่างไรบ้าง นายกฯตอบว่า ขอให้เป็นเรื่องระหว่างตนกับนายวิษณุดีกว่า เมื่อถามว่าขณะนี้ความคืบหน้าในการทำคำชี้แจงต่อศาลรัฐธรรมนูญเกือบสมบูรณ์แล้วหรือยัง นายกฯกล่าวว่า “ยังครับ” เมื่อถามว่า ยังติดปัญหาอะไร นายเศรษฐากล่าวว่า ยังไม่เสร็จครับ
มั่นใจสู้คดีได้ไม่ตกเก้าอี้นายกฯ
เมื่อถามว่าการไปขอคำปรึกษาจากนายวิษณุทำให้มั่นใจใช่หรือไม่ว่า จะสู้ได้แน่นอน นายเศรษฐา ตอบว่า “มั่นใจครับ” เมื่อถามว่าระยะเวลา 15 วันเพียงพอหรือไม่ เพราะตามเงื่อนไขสามารถขอขยายระยะเวลาได้ นายกฯตอบว่าเข้าใจว่า เพียงพอ เมื่อถามย้ำว่าแสดงว่ามั่นใจและไม่กังวลอะไรในการต่อสู้คดีใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “ถามคำว่ากังวล สื่อก็ถามผมทุกวัน ผมก็ตอบว่าผมกังวลตลอดทุกเรื่อง” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯ ได้เดินทางไปพบและขอคำแนะนำจากนายวิษณุที่บ้านพัก เมื่อช่วงสายวันที่ 25 พ.ค.ที่ผ่านมา
“อนุทิน” เผยใช้บริการ “วิษณุ” ปกติ
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย กล่าวว่า ต้องรอคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาคำร้องของ 40 สว.ที่นายกฯ ต้องชี้แจงก่อน เมื่อถามว่าพรรค ภท.มีแผนรองรับหรือไม่ เพราะนายอนุทินเป็นแคนดิเดตนายกฯด้วย นายอนุทินตอบว่า ยังไม่มีอุบัติเหตุอะไร การบริหารราชการแผ่นดินยังปกติ พรรคร่วมยังเป็นหนึ่งเดียวกัน ประชาชนต้องเชื่อมั่นรัฐบาลชุดนี้ รัฐมนตรีทุกคนทำงานอย่างหนัก ยืนยันว่าไม่มีเกียร์ว่าง และข้าราชการประจำไม่มีเกียร์ว่างอย่าไปคาดเดาอะไรจนเกินไป เท่าที่พูดคุยเจอกันตามงานต่างๆ ไม่มีใครคุยกันว่าจะทำอย่างไรดี ไม่มีเตรียมแผนสองแผนสาม เมื่อถามว่านายกฯไปปรึกษา นายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯถือเป็นการกังวลของนายเศรษฐาใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ตนก็ปรึกษานายวิษณุอยู่เป็นประจำ
เซ็นตั้ง “เนติบริกร” เป็นที่ปรึกษา สลค.
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า กรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ ได้เข้าพบนายวิษณุ เครืองาม อดีตรองนายกฯ มือกฎหมายรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพื่อขอคำปรึกษาด้านกฎหมายเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมานั้น นายเศรษฐาได้ประสานขอเข้าพบนายวิษณุ ตั้งแต่ช่วงปฏิบัติภารกิจอยู่ที่ต่างประเทศแล้ว และยังได้ทาบทามนายวิษณุเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมาย ล่าสุดบ่ายวันที่ 27 พ.ค. นายกฯ ได้ลงนามคำสั่งแต่งตั้งให้นายวิษณุเป็นที่ปรึกษาสำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) พร้อมกับให้เจ้าหน้าที่เตรียมห้องทำงานที่ตึก สลค.ไว้ให้นายวิษณุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยนายวิษณุตกลงที่จะเข้ามารายงานตัวกับ สลค.ในเร็วๆนี้
“ชัยธวัช” ข้ามช็อตไม่โหวตนายกฯ พท.
ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรค ก.ก. ให้สัมภาษณ์ว่า ศาลรัฐธรรมนูญรับคำร้องของ 40 สว.ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลอย่างปฏิเสธไม่ได้ เนื่องจากเกิดความไม่ชัดเจนแน่นอน อาจกลายเป็นอุปสรรคต่อการผลักดันนโยบายของรัฐบาล ต้องจับตาดูระหว่างการรอพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณ 2568 และจะเกี่ยวข้องกับนโยบายหลักของรัฐบาล อาจได้รับผลกระทบ หากวินิจฉัยออกมาไม่เป็นผลดีต่อนายเศรษฐา แน่นอนว่าต้องเลือกนายกฯคนใหม่ เสถียรภาพทางการเมืองมีปัญหากระทบต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ เมื่อถามว่าหากเลือกนายกฯใหม่รอบนี้ ไม่มี สว.แล้ว พรรค ก.ก.มีโอกาสจับมือพรรค พท.ตั้งรัฐบาลหรือไม่ นายชัยธวัชตอบอย่างหนักแน่นว่า ไม่มี พรรค พท.กับพรรค ก.ก.เป็นคู่แข่งกันในทางการเมือง
ยัน “พิธา” ยังมีสิทธินั่งนายกฯคนใหม่
นายชัยธวัชกล่าวว่า ประเด็นที่ 40 สว.ร้องอาจเป็นสิ่งที่พรรค ก.ก.ไม่ได้เห็นด้วยมากนัก ที่จะให้ศาลรัฐธรรมนูญมาพิจารณาว่าใครสุจริตเป็นที่ประจักษ์ อย่าคิดถึงผลประโยชน์เฉพาะหน้าว่า นายกฯถูกวินิจฉัยแล้วผิด ฝ่ายค้านจะได้ประโยชน์แต่เราต้องคิดถึงระยะยาว เรื่องแบบนี้เป็นความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ใช่ฝ่ายบริหารจะทำอะไรก็ได้ นายกฯแต่งตั้งบุคคลแบบไหนก็ได้ เมื่อตั้งคนไม่เหมาะสมต้องรับผิดชอบทางการเมือง ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ มีผลต่อความไว้วางใจของประชาชนระหว่างการบริหารราชการแผ่นดิน และการเลือกตั้งครั้งต่อไป แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พรรค ก.ก.ยืนยันส่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ยังมีความชอบธรรมเสนอชื่อเป็นนายกฯ
เย้ย “ทักษิณ” ลุยปทุมฯไม่ใช่คู่แข่ง
นายชัยธวัชกล่าวถึงกระแสการเลือกนายกอบจ.ปทุมธานี ที่พรรค ก.ก.ไม่ส่งผู้สมัคร แต่ให้การสนับสนุนเป็นคลื่นใต้น้ำว่า ไม่เป็นความจริงยืนยันว่า การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ปทุมธานี ไม่ได้สนับสนุนใครทั้งสิ้น พื้นที่ปทุมธานีเรายังตั้งเป้าสู้ศึกนายกเทศมนตรี ดังนั้นหากชาวปทุมธานีคนไหนที่อยากเปลี่ยนแปลงบ้านตัวเองเชิญชวนให้มาสมัคร เสนอตัวเข้าสู่กระบวนการคัดสรร เป็นนายกเทศมนตรีปทุมธานี มีหลายเขต เมื่อถามถึงกรณีที่พรรค พท.ตั้งเป้าปทุมธานีเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเตรียมลงพื้นที่ จ.ปทุมธานี ต้นเดือน มิ.ย. นายชัยธวัชตอบว่า เสียดายที่พรรค ก.ก.ไม่ได้แข่งกับพรรค พท.
“สุทิน” โวคนอ้าแขนรับ “นายใหญ่”
ที่สำนักงานปลัดกลาโหม ถนนศรีสมาน นายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่กับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 25 พ.ค.ว่า เป็นการไปแบบส่วนตัว และไปร่วมงาน ประชาชนให้การตอบรับและเคารพนับถือท่าน และพบว่าท่านยังห่วงใยประเทศและน่าจะมีข้อเสนอแนะที่ดีมายังรัฐบาล ยอมรับว่าเรื่องงานความมั่นคงเป็นหัวข้อหนึ่งที่ท่านเป็นห่วง เพราะปัจจุบันมันมีปัญหา ในพื้นที่ตามแนวชายแดน ทั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ชายแดนไทย-เมียนมา
นายกฯถก Grab ขับเคลื่อนท่องเที่ยว
เมื่อเวลา 10.15 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายแอนโธนี ตัน ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท Grab เข้าเยี่ยมคารวะนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกฯได้หารือขยายความร่วมมือตามเป้าหมายเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยว ขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยสู่อนาคต หวังว่า Grab จะสามารถเข้ามามีส่วนร่วมช่วยให้ไทยบรรลุเป้าหมาย ขณะที่นายแอนโธนี ตัน กล่าวว่า Grab พร้อมร่วมมือกับนายกฯ รัฐบาล และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกระดับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน
“เฉลิมชัย” ลงพื้นที่อ้อนชาวปัตตานี
เวลา 13.30 น.นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค และ สส.ของพรรค เดินทางไปพบปะแกนนำ สมาชิกพรรค รวมถึงผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่น ที่บ้านนายสนิท นาแว อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี นายเฉลิมชัยกล่าวว่า ตั้งใจมา จ.ปัตตานีโดยเฉพาะ ที่มีนายยูนัยดี วาบา สส.หนึ่งเดียวของพรรค อยากให้ชาวปัตตานีได้เห็นว่า วันนี้เป็นการมาลงพื้นที่เป็นครั้งแรกและจะมาเยี่ยมเยียนให้ครบ 3 จังหวัด ในยุคที่ตนเป็นหัวหน้าพรรค จะยืนอยู่เคียงข้างประชาชน ไม่ดีแต่พูดอย่างเดียว มั่นใจได้ หลายๆคนอาจมองทำไมพรรคประชา ธิปัตย์นิ่ง ที่ผ่านมาอาจนิ่ง แต่หลังจากมาปัตตานีวันนี้ไม่มีนิ่ง จะเดินหน้าทุกวัน
“สมชาย” ปูดจ้างสมัครฮั้วเลือก สว.
ที่รัฐสภา นายสมชาย แสวงการ สว. กล่าวถึงการเลือก สว.ที่มีผู้สมัครแต่ละกลุ่มน้อยกว่าเป้าของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า ขณะนี้มีบางคณะการเมืองที่รณรงค์ให้คนไปสมัคร สว.ผิดเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญชัดเจน ระเบียบ กกต.มีปัญหา การที่เลขาธิการ กกต.ระบุว่า การเลือก สว.จะเป็นไปตามไทม์ไลน์ โดยประกาศรับรองไปก่อนนั้นถือว่าไม่สุจริต เป็นอันตราย ขณะนี้ได้ข้อมูลจากผู้ตรวจการเลือกตั้งและคนในพื้นที่ว่า มีการทุจริตฮั้วเลือกสว. จ้างให้มาลงสมัครหัวละ 2,000-10,000บาท บางพื้นที่ 5,000 บาท เป็นค่าสมัคร 2,500 บาท ได้ 2,000 บาท ให้ลูก 500 บาท การประกาศทำตามไทม์ไลน์ เลขาธิการ กกต.และ กกต.อาจถูกดำเนินคดีเหมือนอดีต กกต. ต้องไม่ปล่อยให้การเลือกที่ผิดรับรองไปก่อนแล้วสอยทีหลังเหมือนเลือกตั้ง สส.ที่เอาผิดไม่ได้ แม้จะช้ากว่าปฏิทิน 1-2 เดือน ดีกว่าเพื่อให้ได้ สว.ตรงปก นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ กกต.บอกว่า ผู้สมัคร สว.เปลี่ยนกลุ่มสมัคร เพราะกลุ่มเกษตรกรสมัครกันมาก ชี้ให้เห็นกระบวนการส่อฮั้ว การได้สว.ครั้งนี้อาจเลวร้ายกว่าที่เคยกล่าวหา สว.สรรหาอีก
วอนถอนชาวนาเกลือพ้นกลุ่มชาวนา
นายเจริญศักดิ์ ศาลากิจ ผู้สมัคร สว. กลุ่ม 5 ชาวนา อ.เมืองสมุทรสาคร อดีต สปช.ด้านกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นผู้ยกมือผ่านร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. ทราบถึงหลักการและเหตุผล เจตนารมณ์ของกฎหมายฉบับนี้เป็นอย่างดี ได้ไปยื่นหนังสือถึงประธาน กกต.จ.สมุทรสาคร เพื่อคัดค้านผู้มีอาชีพทำนาเกลือสมัครในกลุ่มอาชีพทำนา เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายเลือก สว.และประกาศ กกต. และในวันเดียวกันยังเดินทางไปยื่นหนังสือกรณีเดียวกันให้ กกต.ใหญ่ ขอให้พิจารณาโดยเร่งด่วน ก่อนเกิดความเสียหายอันมิอาจเยียวยาได้ เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิบุคคลผู้มีอาชีพทำนาเกลือสมัครเป็น สว.กลุ่มอาชีพทำนา
“ธนาธร” จี้ กกต.งดอุทธรณ์ศาล ปค.
ที่อาคารอนาคตใหม่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า แถลงว่า กรณีศาลปกครองกลาง มีคำสั่งให้เพิกถอนระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือก สว.2567 ข้อ 7 ข้อ 8 และ ข้อ 11 (2) ว่า 1.ขอเรียกร้องให้ กกต.ออกระเบียบใหม่โดยทันที และต้องสอดคล้องกับคำสั่งศาลฯ 2.ขอให้ กกต. ประกาศเจตนารมณ์ว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลฯ และขอเชิญชวนผู้สมัคร สว.และประชาชนสังเกตการณ์การเลือก สว.ทุกระดับ ทั้งนี้ เราเห็นร่องรอยความผิดปกติ แต่ไม่มีหลักฐานชัดเจน ได้ตั้งข้อสังเกตสังหรณ์ใจว่า มีการเกณฑ์คนจ้างวานคนมาลงสมัคร หากกะเกณฑ์ให้คนละหมื่นสองหมื่น หลายจังหวัดราคาขึ้นไปถึง 1-1.5 หมื่นบาท อาจไม่ได้คนที่มีอุดมการณ์เข้าไปทำหน้าที่
ผู้สมัครบี้ออกประกาศเป็นทางการ
ที่สำนักงาน กกต. ผู้สมัคร สว. น.ส.นารากร ติยายน สื่อมวลชนอิสระ อดีตผู้ประกาศ ข่าวชื่อดัง เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต. น.ส.นารากรกล่าวว่าอยากให้ กกต.ประกาศอย่างเป็นทางการโดยเร็วว่า จะไม่ยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาดังกล่าว เพื่อให้ผู้สมัคร สว.ทุกคนสามารถแนะนำตัวได้อย่างเสมอภาคเท่าเทียมปราศจากความหวาดกลัว 2.หาก กกต.ยกเลิกระเบียบฉบับเดิมและออกระเบียบฉบับใหม่ ต้องไม่จำกัดเนื้อ หาการแนะนำตัว และไม่จำกัดการรับรู้ของประชาชน 3.กกต.ต้องประกาศสถานที่เลือกในระดับอำเภอโดยเร็ว 4.กกต.ต้องเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถสังเกตการณ์เลือก สว.ได้ตลอดกระบวนการ และให้ทักท้วงกระบวนการที่ไม่ชอบโดยกฎหมาย โดยสะดวกและรวดเร็ว
กกต.ไม่อุทธรณ์ระเบียบแนะนำตัว
ต่อมานายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. เป็นประธานประชุม กกต. นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุม กกต. มีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่อุทธรณ์คำสั่งศาลปกครองกลางเพื่อประโยชน์แห่งการเลือก สว.เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเป็นไปตามกรอบที่กฎหมายกำหนด ที่ประชาชนจะได้ สว.ตามไทม์ไลน์ที่วางไว้ คือประมาณต้นเดือน ก.ค. ทั้งนี้ ผู้สมัครสามารถแนะนำตัวได้ตามระเบียบ กกต.ว่าด้วยการแนะนำตัวฉบับที่ 1 และฉบับที่ 2 ควบคู่ไปกับคำพิพากษาของศาลปกครองกลาง แต่อยากให้ผู้สมัครพึงระวังการทำผิดตามมาตรา 77 ของ พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มา ซึ่ง สว.และยึดการไม่ขอ หรือแลกคะแนน ตามคำ พิพากษาของศาลฎีกาทั้ง 2 ฉบับ ที่ถือว่าเป็นความผิด
“วีระ” ยื่นศาล ปค.ออกหมายจับ ป.ป.ช.
นายวีระ สมความคิด ประธานเครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชัน (คปต.) โพสต์คำร้องที่ยื่นต่อศาลปกครองกลางว่า ได้ไปยื่นคำร้องขอให้ศาลปกครอง ออกหมายจับผู้ถูกฟ้องคดี ทั้งเลขาธิการ ป.ป.ช. ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 และคณะกรรมการ ป.ป.ช.ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 มากักขังไว้ จนกว่าปฏิบัติตามคำพิพากษาและคำบังคับของศาล ในคดีที่ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ไม่ยอมให้เอกสารจำนวน 3 รายการ แก่ผู้ฟ้องคดี กรณีนาฬิกา 22 เรือนของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่อ้างเป็นนาฬิกายืมเพื่อน เนื่องจากล่าสุดวันที่ 23 พ.ค.2567 ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ยังไม่ยอมปฏิบัติตามคำสั่งคำบังคับของศาลปกครอง ให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารทั้ง 3 รายการ ถือว่ามีเจตนาฝ่าฝืนคำพิพากษาอย่างชัดแจ้ง สมควรถูกลงโทษตามกฎหมาย เพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างที่เลวต่อสังคมต่อไป
ศาลจำคุก “ลูกเกด” 2 ปี คดี ม.112
เมื่อเวลา 10.40 น. ที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ต.รังสิต อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรค ก.ก. พร้อมด้วย น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.ปทุมธานี มาศาลเพื่อฟังคำพิพากษาในคดีหมายเลขดำที่ อ1971/2565 กรณีชุมนุมเรียกร้องให้ปล่อยตัวผู้ต้องขังทางการเมือง ที่หน้าศาลจังหวัดธัญบุรี เมื่อวันที่ 11 ก.ย.2564 มีจำเลยทั้งหมด 10 คน ในข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ และใช้เครื่องขยายเสียงโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วน น.ส.ชลธิชาถูกกล่าวหาเพิ่มตาม ป.อาญามาตรา 112 เพียงคนเดียว กรณีปราศรัยเกี่ยวข้องกับการออก พ.ร.บ.ระเบียบราชการในพระองค์ 2560 และการใช้อำนาจตามพระราชอัธยาศัย โดยศาลตัดสินยกฟ้องจำเลยทั้งหมดในคดีฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และให้จำคุก น.ส.ชลธิชา 3 ปี ในคดีมาตรา 112 จำเลยให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี จากนั้นทนายความขอยื่นประกันตัวด้วยหลักทรัพย์ 150,000 บาท ศาลให้ประกันตัว
“แอมมี่” อ่วมโดน 4 ปี “ธนพัฒน์” 1 ปี
สายวันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีที่นายไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธุ์ หรือ แอมมี่ เดอะ บอตทอม บลูส์ ศิลปิน-แกนนำม็อบ และนายธนพัฒน์ หรือปูน กาเพ็ง เป็นจำเลย 1-2 ตามลำดับ ฐานดูหมิ่นสถาบันตาม ป.อาญามาตรา 112 และฐานวางเพลิงเผาทรัพย์ มาตรา 217 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯมาตรา 14 (3) กรณีเมื่อคืนวันที่ 28 ก.พ.2564 จำเลยกับพวกร่วมวางเพลิงพระบรมฉายาลักษณ์รัชกาลที่ 10 หน้าเรือนจำกลางคลองเปรม ต่อมานำภาพเข้าและเผยแพร่สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิด รวมโทษแล้วจำเลยที่ 1 จำคุก 4 ปี จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 1 ปี จากนั้นจำเลยได้ยื่นขอประกันตัว ศาลให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตีราคาประกันนายไชยอมร 2 แสนบาท และนายธนพัฒน์ 5 หมื่นบาท โดยไม่มีเงื่อนไข
“ทวี” ไฟเขียวเปิดวงจรปิดปม “บุ้ง”
ที่กระทรวงยุติธรรม พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวถึงกรณีนายกฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ขอไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดของทัณฑสถาน รพ.ราชทัณฑ์ การช่วยชีวิต น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวังว่ากรมราชทัณฑ์ยินดีที่จะให้บิดา มารดา หรือทนายความ หรือผู้ได้รับมอบอำนาจ มาดูภาพจากกล้องวงจรปิดได้ ทราบว่าได้เชิญพ่อแม่ของบุ้งให้เข้าไปร่วมดูภาพเหตุการณ์จากกล้องวงจรปิด แต่จากข้อกังวลของราชทัณฑ์คือเรื่องกฎหมาย เพราะในเหตุการณ์นั้นมีผู้เกี่ยวข้องหลายคน รวมถึงยังต้องพิจารณาในกรอบของ พ.ร.บ.สุขภาพแห่งชาติ ยินยอมด้วย แต่ยืนยันสามารถเปิดไฟล์ภาพให้ดูได้แน่นอน แต่หากจะเอาไฟล์ภาพจากกล้องวงจรปิดออกมา ขณะนี้อยู่ในกระบวนการพิจารณาข้อกฎหมาย วินิจฉัยกันอาจไม่จบ แต่ตนก็ยินดีว่าเราไม่ควรปิดกั้น ควรเปิดเผย แต่ต้องยึดกฎหมายที่สามารถปฏิบัติได้
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่