“รองนายกฯ ภูมิธรรม” ดีใจจบดราม่าข้าวเดินหน้าประมูล คาดแล้วเสร็จ มิ.ย. ยันตรวจสอบคุณภาพได้ทุกอย่าง เชื่อได้ราคาดี ไม่ใช่ 4-5 บาท ย้ำประมูลเพื่อประโยชน์สูงสุดของรัฐ
วันที่ 23 พ.ค. 2567 ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ให้สัมภาษณ์ถึงประเด็นการเตรียมเปิดประมูลข้าวในคลัง ว่า จากผลการตรวจสอบคุณภาพข้าวของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ และแล็บเอกชน ผลตรวจสอบก็ออกมาแล้วว่าไม่มีสารตกค้าง ถือว่าอยู่ในมาตรฐานที่จะนำออกสู่ตลาดได้ ขณะนี้จึงมีการตัดสินใจอยู่บนหลักการที่ชัดเจนว่าจะประมูลข้าวทันทีและจะประมูลยกกอง โดยจะกำหนดทีโออาร์ให้ชัดเจน มีการประชุมอย่างโปร่งใส
โดยที่ประชุมจะพิจารณาให้ทุกฝ่ายเข้ามาประมูลได้ มีการจัดการประมูลเป็นลำดับที่ 1-5 เพราะหากเกิดมีข้อขัดข้องขึ้น ซึ่งเราคาดว่าจะไม่เกิด การจัดอันดับประมูลข้าว สามารถใช้ผู้เสนอราคาสูงสุดในลำดับถัดไปได้ และข้อดีคือการพิจารณาต่อรองให้รัฐได้ประโยชน์สูงสุด รายได้หลังจากหักค่าใช้จ่ายต่างๆ จะเข้าสู่รัฐ ขณะนี้มีการตั้งคณะทำงานที่ดูแลเรื่องการจัดประมูล โดยไม่ต้องนำเสนอ คกก.นบข. เพราะมีมติอยู่แล้ว ซึ่งได้ตั้งกรรมการขึ้นมาจัดทำทีโออาร์ ประกอบด้วย องค์การคลังสินค้า กรมการค้าภายใน กรมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาเป็นกรรมการ คาดว่าทุกอย่างจะชัดเจนไม่เกินสิ้นเดือนนี้ (พฤษภาคม) กรรมการชุดนี้พร้อมที่จะประกาศให้ทุกคนมีสิทธิ์ที่จะเข้ามาเตรียมตัวประมูล และจะจบประมาณเดือนมิ.ย.รายได้ที่เข้ามา จะได้ดำเนินการตามกระบวนการตามหลักการที่ควรจะเป็นตามกฎหมายที่กำกับ ตนดีใจที่ดราม่าเรื่องข้าวจบลงทุกฝ่ายมุ่งหาประโยชน์ให้ประเทศชาติ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สำหรับการตรวจสอบคุณภาพข้าวก่อนการประมูลนั้น การจัดประมูลข้าวหอมมะลิอายุประมาณ 10 ปี เมื่อเปิดการประมูล ผู้เข้าประมูลสามารถตรวจสอบคุณภาพข้าวได้ทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปตามกระบวนการ จะพ้นภาระการรักษาของรัฐและเปิดการประมูล ส่วนผู้ใดจะเข้ามาประมูลก็สามารถดำเนินการพิสูจน์คุณภาพข้าวได้ตามหลักเกณฑ์และกระบวนการ
...
นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ตนเชื่อว่าผู้ประมูลทุกคนที่เข้ามาประมูลมีแผนแล้วว่าจะนำข้าวไปใช้ในแบบใด ราคาเท่าไร
“ผมคิดว่าตลาดที่ชัดเจนแล้วคือตลาดข้าวแอฟริกา ที่นิยมทานข้าวเก่า และจำนวน 15,000 ตัน มีจำนวนไม่เยอะ รายได้จากการประมูลคาดว่าจะอยู่ในราคาที่ดี ไม่ใช่ขายข้าว 4-5 บาท ซึ่งเป็นข้าวเน่า”
สำหรับข้าวที่จะนำมาประมูล คือ 1. คลังกิตติชัย หลัง 2 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 3 มกราคม 2557 ถึง 10 มีนาคม 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 2 เดือน รวมปริมาณทั้งสิ้น 26,094 ตัน หรือ 258,106 กระสอบจาก 24 โรงสี และได้มีการระบายข้าวสารแล้ว 3 ครั้ง คงเหลือ 11,656 ตัน หรือ 112,711 กระสอบ
2. คลัง บจก.พูนผลเทรดดิ้ง หลัง 4 (ข้าวหอมมะลิ 100%) รับมอบข้าวสารตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคม 2557 ถึง 29 เมษายน 2557 เก็บข้าวแล้ว 10 ปี 7 วัน มีปริมาณรวมทั้งสิ้น 9,567 ตัน หรือ 94,637 กระสอบ จาก 6 โรงสี ซึ่งระบายข้าวสารแล้ว 4 ครั้ง คงเหลือ 3,356 ตัน หรือ 32,879 กระสอบ