“นลินี” ร่วมวงประชุมรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีการค้าของ APEC ชูการส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม พร้อมเน้นย้ำนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาล
วันที่ 19 พฤษภาคม 2567 นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทย เข้าร่วมประชุมระหว่างรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีด้านการค้าของเอเปค หารือถึงการค้าและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจที่จะเป็นประโยชน์ต่อสตรี ย้ำการส่งเสริมบทบาทสตรีในเศรษฐกิจเป็นปัจจัยสำคัญในการเติบโตที่ยั่งยืนและครอบคลุม ก่อนเข้าประชุมระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปค ในหัวข้อการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี ย้ำนโยบายการค้าเชิงรุกของรัฐบาล และบทบาทของเวทีเอเปคต่อพัฒนาการของค้าไทย
ผู้แทนการค้าไทย เปิดเผยว่า ช่วงเช้าวันนี้มีการประชุมร่วมระหว่างรัฐมนตรีด้านสตรีและรัฐมนตรีด้านการค้าของเอเปค เป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีการค้าได้มีการประชุมร่วมกับรัฐมนตรีด้านสตรีเอเปค โดยที่ประชุมมีการหารือถึงการค้าและการรวมกลุ่มทางเศรษฐกิจ ที่จะเป็นประโยชน์ต่อสตรี การเสริมสร้างโอกาสให้กับสตรีในการเข้าถึงทรัพยากรทางเศรษฐกิจ ตลอดจนการกำหนดแนวทางในการจัดการแก้ไขปัญหาที่สตรีกำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของมุมมองทางสังคมที่มีต่อสตรี โอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ไม่เท่าเทียม โดยตนใช้โอกาสนี้เน้นย้ำความสำคัญของเทคโนโลยีดิจิทัลในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรี การสร้างงานและการสร้างรายได้ให้แก่สตรี โดยเฉพาะผ่านอีคอมเมิร์ซ และโซเชียลมีเดีย โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยมีการจัดหลักสูตรอบรมการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งทุน การปรับมุมมองของสังคมต่อสตรี เนื่องจากไทยเชื่อว่าการส่งเสริมบทบาทของสตรีในเศรษฐกิจจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในการมุ่งไปสู่การเติบที่ยั่งยืนและครอบคลุมอย่างแท้จริง ทั้งนี้ ในระหว่างการประชุม ประธานาธิบดี ดินา โบลัวร์เต ผู้นำเปรู ได้เข้าร่วมและแสดงความเห็นด้วย
...
นางนลินี เปิดเผยถึงช่วงบ่ายว่า เป็นการหารือระหว่างรัฐมนตรีการค้าเอเปค ในหัวข้อการสนับสนุนระบบการค้าพหุภาคี โดยที่ประชุมเห็นพ้องว่าเอเปคเป็นเวทีสำคัญสำหรับการหารือ แลกเปลี่ยนความเห็น การเสริมสร้างขีดความสามารถ และการแบ่งปันแนวทางปฏิบัติที่ดี โดยเฉพาะในประเด็นการอำนวยความสะดวกทางการค้า การพัฒนาอย่างยั่งยืน รวมถึงการปฏิบัติตามผลลัพธ์ของการประชุมรัฐมนตรีองค์การการค้าโลก อีกทั้งที่ประชุมยังให้ความสำคัญกับการปฏิรูปองค์การการค้าโลก โดยเฉพาะกลไกระงับข้อพิพาท เพื่อให้องค์การการค้าโลกยังคงทันต่อเหตุการณ์และแนวโน้มทิศทางของการค้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยตนได้ให้ความเห็นต่อที่ประชุมเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไทยให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านการเจรจาจัดทำ FTA นอกจากนี้ไทยยังส่งเสริมนโยบายการค้าที่คำนึงถึงความยั่งยืนและสิ่งแวดล้อม รวมถึงการส่งเสริมการเชื่อมโยงในภูมิภาค โดยเฉพาะการเชื่อมโยงทางดิจิทัล.