“เศรษฐา” บินลัดฟ้าเยือนฝรั่งเศส ปาฐกถาสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย หวังเพิ่มเป้าการค้า 2 ชาติ อ้อนหนุนไทยทำเอฟทีเอกับอียู-ยกเว้นวีซ่าเชงเกน โชว์ผ้าเมืองเพชรอวดสายตาชาวโลกขุนคลัง-ผู้ว่าการแบงก์ชาติสวมบทนินจาหลบสื่อก่อน “พิชัย” แถลงยันสุดชื่นมื่นคุยกันนาน 2 ชั่วโมง ลั่นมีวิธีทำให้มันจบได้ โวคุ้นเคยกับสไตล์แบงก์ชาติ เห็นร่วมกันต้องปรับโครงสร้างพื้นฐาน “ทักษิณ” ยกโขยงอุดหนุนครัว “เยี่ยมใต้” กำชับ “เสี่ยหนู” แบ่งงาน มท.ให้ชัด เป่ากระหม่อมกล่อมก๊วนอกหัก ป.ป.ช.คัดสำเนาศาลยกฟ้อง “อิทธิพล” ชี้เคยขอไม่ให้นับระยะเวลาหลบหนีคดีแล้ว “ชาดา” ขีดเส้นตายเจ้าหนี้รายงานตัว เตือน ขรก.ปล่อยกู้โหดโดนสองเด้ง “อิ๊งค์” นำทัพหนุน “ชาญ” ขยี้ “แจ๊ส”
ตามที่นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง ออกตัวรับบทเป็นกาวใจนัดหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ปรากฏว่าถึงเวลานัดทั้งคู่ต่างหลบเลี่ยงผู้สื่อข่าว ขณะที่นายพิชัยยืนยันว่าจะทำให้ปัญหาจบลงได้ เพราะคุ้นเคยกับสไตล์แบงก์ชาติอยู่แล้ว
นายกฯบินลัดฟ้าเยือนฝรั่งเศส
เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 15 พ.ค. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อนนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี จะเดินทางเยือน 3 ประเทศ ประกอบด้วย ฝรั่งเศส อิตาลี และญี่ปุ่น ได้เรียก น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มาสั่งการเรื่องการเพิ่มเป้าหมายจำนวนนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะกลุ่มอาหรับอินเดียในช่วง low season รวมถึงการจัดหาเที่ยวบินเพื่อรองรับนักท่องเที่ยว เช่น เจรจาให้มีเที่ยวบินตรงจากอเมริกามาไทยตามความต้องการของตลาด และให้ประสานนำสินค้าโอทอป อาหารในพื้นที่ชุมชน ที่เป็นสินค้ามีคุณภาพไปจัดแสดงและต่อยอดในห้างสรรพสินค้าชั้นนำในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้ผลิต จากนั้นเวลา 23.30 น. นายกรัฐมนตรี พร้อมนายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รมว.ต่างประเทศ และคณะนักธุรกิจไทย เดินทางไปยังกรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส เพื่อร่วมงาน Thailand-France Business Forum ถึงกรุงปารีส เวลา 07.10 น.ของวันที่ 16 พ.ค. ตามเวลาท้องถิ่น ณ กรุงปารีส ช้ากว่าประเทศไทย 5 ชั่วโมง
...
ปาฐกถาวงสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย
ต่อมาเวลา 10.20 น. วันที่ 16 พ.ค. (ตามเวลาท้องถิ่น) นายเศรษฐาและคณะเดินเท้าจากโรงแรมแฟรงซ์ เดอ กาลล์ โรงแรมที่พักแบบ Day Use มายังศูนย์ประชุม L’Apostrophe เข้าร่วมประชุม Thailand - France Business Forum เป็นงานที่จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชนของไทยกับฝรั่งเศส ระหว่างเดินนายกฯเปิดเผยสั้นๆถึงความคาดหวังในการเดินทางเยือนฝรั่งเศสครั้งนี้ว่า มี 2 เรื่องใหญ่ คือการตอกย้ำความสัมพันธ์ที่ดีเยี่ยมระหว่างทั้ง 2 ประเทศ และหวังว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้ ที่จะมีการพูดคุยระหว่างนักธุรกิจทั้ง 2 ประเทศ จะมีการลงทุนข้ามชาติอีกมากมายตามมา
หวังดึงนักลงทุนเพิ่มยอดการค้า
นายเศรษฐากล่าวปาฐกถาในงาน Thailand -France Business Forum ว่าถือเป็นการเยือนฝรั่งเศสเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงเวลา 3 เดือน สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น เชื่อมั่นว่างานนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และไทยถือเป็นคู่ค้ารายใหญ่อันดับที่ 3 ของฝรั่งเศสในอาเซียน เชื่อมั่นว่าไทยจะเป็นพันธมิตรที่ใหญ่ที่สุดของฝรั่งเศสในภูมิภาคได้ ภาคเอกชน ของสองประเทศมีความร่วมมือที่แข็งแกร่ง รัฐบาลไทยเพิ่งเปิดตัววิสัยทัศน์ “IGNITE THAILAND” เพื่อยกระดับไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลกใน 8 ภาคส่วน ได้แก่ การท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ อาหาร และเกษตรกรรม การบิน การขนส่ง การผลิตยานยนต์แห่งอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัล และการเงิน หวังว่าฝรั่งเศสจะสนับสนุนการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (FTA) ไทย-สหภาพยุโรป คาดว่าจะเพิ่มปริมาณการส่งออกจากสหภาพยุโรปมาไทยกว่าร้อยละ 40 และเพิ่มปริมาณการส่งออกของไทยไปสหภาพยุโรปมากกว่าร้อยละ 25
วอนช่วยหนุนยกเว้นวีซ่าเชงเกน
นายเศรษฐากล่าวต่อว่า ขอเน้นย้ำสองประเด็นสำคัญ คือ 1.เชื่อมั่นว่าการติดต่อและมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน จะทำให้เกิดความเข้าใจ วางใจ และมั่นใจต่อกันมากขึ้น เชิญชวนให้ฝ่ายฝรั่งเศสเดินทางมายังไทยมากขึ้น รัฐบาลได้อำนวยความสะดวกไม่ต้องขอวีซ่า และหวังอย่างยิ่งว่าไทยจะได้รับการสนับสนุนจากฝรั่งเศสในการยกเว้นการตรวจลงตราเข้าเขตเชงเกน สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของไทย 2. ประเทศไทยเปิดกว้างสำหรับการดำเนินธุรกิจ รัฐบาลมีทิศทางนโยบายที่ชัดเจน มีแรงจูงใจที่ดี และมีความมุ่งมั่น เพื่อสนับสนุนความร่วมมือทางเศรษฐกิจ และธุรกิจ ให้เจริญรุ่งเรือง หวังว่างานนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้เข้าร่วมทุกคน
ภาคธุรกิจมั่นใจเพิ่มยอดการค้า
ด้านนายฟรองซัวส์ กอร์แบง (François Corbin) ประธานสภาธุรกิจฝรั่งเศส-ไทย และรองประธานสภานายจ้างฝรั่งเศสในต่างประเทศ MEDEF International (MEDEFi) กล่าวว่า เชื่อมั่นว่าในงานนี้จะเพิ่มตัวเลขทางการค้า และเพิ่มความสัมพันธ์ในการทำธุรกิจระหว่างไทยกับฝรั่งเศสมากขึ้น ขณะที่นาย Franck Riester รมช.ต่างประเทศ ด้านการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ไทยและฝรั่งเศสมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้น มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันหลายครั้ง เชื่อว่าความร่วมมือ FTA ไทย- สหภาพยุโรป จะช่วยด้านการค้าการลงทุนมากขึ้น
โชว์ผ้าเมืองเพชรอวดสายตาโลก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างภารกิจเดินทางเยือนสาธารณรัฐฝรั่งเศส นายกฯสวมผ้าพันคอ “ผ้าลายอย่าง” ลาย “เพ็ชรราชวัตร” ถอดลายมาจากผ้าลายอย่างของอินเดียที่ใช้ห่อคัมภีร์ที่วัดลาด กว่าจะมาเป็นลายนี้ได้ศูนย์วิจัยสิงขร-มะริดศึกษา วิจัยสืบค้นประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยอยุธยา พร้อมทั้งวางลายผ้าหาคู่สีใหม่จนออกมาเป็นลายอย่าง ที่นอกจากจะสวยทั้งสีและลายแล้ว ยังสะท้อนถึงความเป็นมาของเมืองเพชรบุรีได้เป็นอย่างดี นายกฯกล่าวว่า ร้านผ้าบ้านชะอานมอบผ้าพันคอผืนนี้ให้ ก่อนเข้าประชุม ครม.สัญจร จ.เพชรบุรี ตั้งใจพกผ้าผืนนี้มาเพื่ออวดความสวย ความประณีตของงานผ้าไทย พร้อมถ่ายทอดความภาคภูมิใจในประวัติศาสตร์ ให้ชาวอิตาลีเห็นว่าศิลปะไทยเราไม่น้อยหน้าใคร หวังเป็นอย่างยิ่งจะเห็นสินค้าที่มีคุณภาพของคนไทย ได้รับการต่อยอดนำรายได้เข้าสู่จังหวัด
เสร็จเมืองน้ำหอมบินไปมิลานต่อ
จากนั้นเวลา 13.45 น. นายเศรษฐาเดินทางไปยังทำเนียบประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส (Palais de l’Elysée) เข้าร่วมงานเลี้ยงอาหารกลางวัน โดยมีนายเอ็มมานูเอล มาครง (H.E.Mr.Emmanuel Macron) ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐฝรั่งเศส เป็นเจ้าภาพ โอกาสนี้ผู้นำทั้งสองได้ร่วมถ่ายรูปกับคณะนักธุรกิจที่เดินทางมาร่วมงาน Thailand-France Business Forum ภายหลังเสร็จสิ้นนายกฯและคณะออกเดินทางจากท่าอากาศยานปารีส-ออร์ลี กรุงปารีส ไปยังท่าอากาศยานมิลาน มาลเปนซา เมืองมิลาน สาธารณรัฐอิตาลี ในเวลา 17.50 น. (ตามเวลาท้องถิ่นเมืองมิลาน ช้ากว่ากรุงเทพฯ 5 ชั่วโมง)
ขุนคลัง–ผู้ว่าการแบงก์ชาติหลบสื่อ
สำหรับบรรยากาศที่กระทรวงการคลัง หลังนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง นัดพบหารือกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในเวลา 09.00-10.00 น. วันที่ 16 พ.ค. ที่กระทรวงการคลัง เป็นที่สนใจของสื่อมวลชนมารอทำข่าวจำนวนมาก เนื่องจากช่วงที่ผ่านมารัฐบาลและผู้ว่าการ ธปท.มีความเห็นแตกต่างกัน ทั้งโครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต การปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่ปรากฏว่าเมื่อถึงเวลานัด 09.00 น. นายพิชัยได้สั่งให้รถตำรวจนำขบวนขับเข้ามาจอดก่อน ขณะที่ตัวนายพิชัยได้อ้อมไปลงที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ซึ่งมีทางเดินเชื่อมมายังห้องทำงานกระทรวงการคลัง เนื่องจากไม่ต้องการให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าว ขณะที่ทีมผู้ติดตาม รมว.คลังได้แจ้งเจ้าหน้าที่กระทรวงการคลังว่า ขอสำรวจเส้นทางภายในที่ทำงานกระทรวงคลัง เพื่อหาช่องทางเดินเข้า-ออกกระทรวง เนื่องจาก รมว.คลังไม่ต้องการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ด้านนายเศรษฐพุฒิก็สั่งให้รถอ้อมไปจอดที่อาคาร สศค. เนื่องจากไม่ต้องการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเช่นเดียวกัน
“พิชัย” ลั่นมีวิธีทำให้มันจบได้
ทั้งนี้ นายพิชัยให้สัมภาษณ์เมื่อช่วงดึกของคืนวันที่ 15 พ.ค. ก่อนการพบปะกับผู้ว่าการ ธปท.ว่า ตอนนี้เห็นภาพแล้วว่าคนนี้คิดแบบนี้ อีกคนคิดแบบนี้ เริ่มเห็นภาพว่าแต่ละฝ่ายมีความเข้าใจในมุมของตนเอง ดังนั้นต้องพูดคุยกันให้มองภาพเดียวกัน “เมื่อคุยแล้วความเห็นที่ไม่ตรงกันที่อาจมีอยู่มาก จะค่อยๆลดลง เชื่อเถอะวิธีทำงานของผมยุ่งแค่ไหนก็ทำให้มันจบได้ เพราะทุกคนคิดในมุมที่จะทำให้ประเทศดีขึ้น ตัวผมเองก็มีวิธีคิดที่ไม่ต่างกับเขาเท่าไร และคุ้นเคยกับสไตล์แบงก์ชาติอยู่แล้ว” สำหรับประเด็นที่หารือจะคุยกันในภาพกว้างและหลักการก่อน ส่วนเรื่องรายละเอียด ไม่ว่าจะเป็นการลดดอกเบี้ย เงินเฟ้อ ปัญหาหนี้ของประชาชน คงไปคิดแทนใครไม่ได้
ยันชื่นมื่นคุยกันนาน 2 ชั่วโมง
ต่อมาเวลา 13.00 น. นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ ให้สัมภาษณ์หลังพบปะกับนายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท.ว่า ใช้เวลาหารือร่วมกันกว่า 2 ชั่วโมง พูดคุยทำความเข้าใจกันหลายประเด็น บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น ต่างคุ้นเคยกันดี คงต้องนัดหารือกันอีกหลายครั้ง เพื่อสร้างความเข้าใจให้ตรงกัน ทั้งนโยบายการเงิน การคลัง เพราะต้องทำงานประสานงานใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ขณะที่กรอบเงินเฟ้อจะมีการปรับหรือไม่ ต้องหารือกันอีก เพราะกรอบที่กำหนดไว้ 1-3% ใช้มาหลายเดือนแล้ว ส่วนอัตราดอกเบี้ยนโยบายก็ต้องมาหารือร่วมกัน ประเด็นที่รัฐบาลเป็นห่วงคือการไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน ฉะนั้นไม่ว่าอัตราดอกเบี้ยจะสูงหรือต่ำ การเข้าถึงแหล่งเงินทุนสำคัญกว่า เชื่อว่า ธปท.ต้องทบทวนอัตราดอกเบี้ยให้ออกมาดีที่สุด ธปท.มีอิสระทางความคิด แต่เรื่องเร่งด่วนที่ต้องมามองมากกว่าเรื่องนี้คือเรื่องหนี้เสีย สภาพคล่องที่คนไทยยังเข้าไม่ถึง และหนี้ภาคครัวเรือน
เห็นร่วมปรับโครงสร้างพื้นฐาน
“วันนี้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนกันหลายเรื่องว่าสถานการณ์เป็นอย่างไร กลุ่มที่ควรมีโอกาสเข้าถึงสินเชื่อได้ง่าย อาทิ นักธุรกิจรายใหญ่ มีโอกาสเข้าถึงแล้ว ควรมีทางเลือกให้รายย่อยเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงิน รวมทั้งกลุ่มที่มีปัญหาหนี้จากช่วงโควิดด้วย ยังสามารถปรับปรุงให้กลุ่มเหล่านี้เข้าถึงสินเชื่อ หรือมีความยืดหยุ่นเข้าถึงสินเชื่อได้มากขึ้น ส่วนการปรับเกณฑ์การให้สินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม (Responsible Lending) ธปท.ใช้มาตรฐานระดับโลก ทำให้ภาคการเงินของไทยเข้มแข็ง กระทรวงคลังมองว่าอาจต้องเพิ่มความยืดหยุ่นในบางข้อ เพื่อช่วยปล่อยสินเชื่อให้รายย่อย เป็นการดึงออกมาจากพอร์ตสินเชื่อโดยรวมเล็กน้อยเท่านั้น ทั้งนี้ พอร์ตแต่ละแบงก์มีประมาณ 4 ล้านล้านบาท เชื่อว่าไม่กระทบเรื่องการปล่อยสินเชื่อตามเกณฑ์ปกติ ยอมรับว่าสิ่งที่เห็นคล้ายกัน คือ เมืองไทยต้องปรับโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับประเทศ หลังจากนี้คงมาคุยกันบ่อยขึ้น ครั้งต่อไปอาจจะไม่ต้องมานัดเจอกันแล้ว”
กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติ “พิชิต”
ที่ห้องประชุมรอยัล จูบิลี่ บอลรูม อิมแพ็คอารีน่า เมืองทองธานี นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีผู้ตรวจการแผ่นดินมีมติส่งเรื่องให้ กกต.พิจารณาเพื่อส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีคุณสมบัติของนายพิชิต ชื่นบาน รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรีว่า ขณะนี้อยู่ในชั้นสำนักงาน กกต. กำลังประมวลข้อมูลเพื่อเสนอ กกต. แต่คาดว่าคงยังไม่ได้เสนอในการประชุมครั้งหน้า เมื่อถามถึงกรณีที่ กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาเพื่อสั่งให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนายสุวรรณา กุมภิโร สส.บึงกาฬ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) หลังจากนี้จะมีคำร้องอื่นอีกหรือไม่ เพราะกกต.มีเวลาตรวจสอบ 1 ปี หลังประกาศผลเลือกตั้งสส. นายแสวงตอบว่า จริงๆ เวลา 1 ปีไม่มีในกฎหมาย แต่ กกต.กำหนดไว้ปฏิบัติเอง ขณะนี้เหลืออยู่ 10 สำนวน ที่ได้ส่งให้ศาลพิจารณา ไม่ใช่เรื่องเดียว ยังมีเวลาตรวจสอบอยู่
“นายใหญ่” ยกโขยงครัว “เยี่ยมใต้”
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหาร “เยี่ยมใต้” สาขา 2 ของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีต ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย โดยมีรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล อดีตรัฐมนตรี สส. และอดีต สส. ไปร่วมทานข้าวอย่างคึกคัก อาทิ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว. มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน สส.เชียงราย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ นายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล สส.แพร่ นายโกศล ปัทมะ สส.นครราชสีมา นายพัฒนา สัพโส สส.สกลนคร นายวรชัย เหมะ แกนนำคนเสื้อแดง มีนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ และแกนนำพรรคเพื่อไทยตามมาสมทบ บรรยากาศเป็นไปด้วยความชื่นมื่น
กล่อม “เสี่ยหนู” เคลียร์งานให้ชัด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวงกินข้าวมีการหารือการเมืองหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นสืบเนื่องจากการปรับ ครม. รวมทั้งการบริหารงานของรัฐบาล การประสานงานที่ติดขัดของบรรดารัฐมนตรีในช่วงที่ผ่านมา โดยประเด็นเรื่องกัญชา นายทักษิณได้พูดคุยกับนายสมศักดิ์ เทพสุทิน พร้อมทำความเข้าใจกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล ถึงความจำเป็นในการขับเคลื่อนเรื่องนี้ของพรรคเพื่อไทย จนกลายเป็นนโยบายรัฐบาล ยืนยันว่าถึงยังไงก็ยังต้องร่วมรัฐบาลกันต่อไป ส่วนตำแหน่ง รมว.มหาดไทยยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่ จากนั้นนายทักษิณได้พูดถึงประเด็นการทำงานของรัฐมนตรีในกระทรวงมหาดไทย มีนายเกรียงมาร่วมหารือด้วย หลังเกิดปัญหาภายในกระทรวง ทีมงาน ข้าราชการ สายภูมิใจไทย ไม่ตอบสนองคำสั่ง รมต.เพื่อไทย อธิบดีบางกรมใส่เกียร์ว่างเช้าชามเย็นชาม จึงฝากให้นายอนุทินแบ่งงานและกำหนดสายบังคับบัญชาให้ชัดเจนเด็ดขาด ปลดเกียร์ว่างข้าราชการทุกระดับ ซึ่งนายอนุทินล้วนตอบรับพร้อมให้ความร่วมมือทุกเรื่อง ไม่มีท่าทีติดใจอะไร
เป่ากระหม่อมปลอบก๊วนอกหัก
นอกจากนี้นายทักษิณยังได้คุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรฯ จากพรรค พปชร. มีนายอิทธิ ศิริลัทยากร บิดาของนายอรรถกรร่วมด้วย ฝากฝังเรื่องการดูแลประสานงานในกระทรวงเกษตรฯของบรรดา สส.พรรคเพื่อไทย ท่ามกลางบรรยากาศชื่นมื่นพูดจาหยอกล้อ และนายทักษิณยังพูดคุยกับเหล่า สส.อาวุโส โดยเฉพาะกลุ่มอีสาน เรื่องการปรับ ครม.ที่ผ่านมา หลังรู้สึกว่าถูกมองข้าม ไม่ได้รับโควตาตำแหน่งรัฐมนตรี กลายเป็น สส.คนรุ่นใหม่ที่ได้โควตาไป มีการพูดจาหว่านล้อมปลอมใจว่าการปรับ ครม.ไม่ได้จบเพียงครั้งนี้ ครั้งหน้าครั้งถัดไปยังมีโอกาส เช่นเดียวกับนางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด อดีต รมต.ประจำสำนักนายกฯ ที่ถูกปรับออกไป นายทักษิณระบุว่าออกได้ก็กลับเข้ามาใหม่ได้
มท.-กกต.จับมือติวเข้มเลือก สว.
ที่อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมเลือก สว. กับ ผวจ. นอภ. ปลัดจังหวัด ผอ.สำนักงาน กกต.ประจำจังหวัดทั่วประเทศ และ ผอ.เขต กทม.ทั้ง 50 เขต นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย มอบนโยบายให้ข้าราชการกระทรวงมหาดไทยวางตัวเป็นกลาง สนับสนุนการเลือก สว. ร่วมรักษาความสงบเรียบร้อย ใช้กลไกประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูล อาทิ หอกระจายข่าว เสียงตามสาย รวมถึงให้ ผวจ. นอภ. กำนัน ผู้ใหญ่บ้านลงพบปะประชาชน ขณะที่นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. ได้ชี้แจงแนวทางปฏิบัติ และขั้นตอนกระบวนการเลือก สว.เพื่อซักซ้อมก่อนลงสนามจริง
คัดสำเนาศาลยกฟ้อง “อิทธิพล”
วันเดียวกัน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แถลงกรณีศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 มีคำพิพากษายกฟ้องนายอิทธิพล คุณปลื้ม กับพวกรวม 5 คน กรณีออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโดยมิชอบ เนื่องจากโจทก์ยื่นฟ้องเกินระยะเวลาจึงขาดอายุความว่า อยู่ระหว่างขอสำเนาคำพิพากษาเพื่อเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป ข้อเท็จจริงคดีนี้ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดนายอิทธิพลกับพวก สมัยดำรงตำแหน่งนายกเมืองพัทยา เมื่อวันที่ 24 ก.ค.2566 กรณีพิจารณาออกใบอนุญาตก่อสร้างและต่อใบอนุญาตก่อสร้างอาคารโครงการวอเตอร์ฟรอนท์ สวีท แอนด์ เรสซิเดนซ์ โดยมิชอบด้วยกฎหมาย พร้อมส่งสำนวนการไต่สวนไปยังสำนักงานอัยการสูงสุด มีการประสานความคืบหน้าเป็นระยะ เพราะคดีใกล้ขาดอายุความ 15 ปี ในวันที่ 10 ก.ย.2566 กระทั่งวันที่ 30 ส.ค.2566 อัยการสูงสุดมีคำสั่งฟ้องนายอิทธิพลกับพวก รวม 10 ราย แต่ปรากฏว่าในวันที่ 4 ก.ย.2566 ที่อัยการแจ้งให้ ป.ป.ช.นำตัวผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมดไปส่งอัยการ เพื่อยื่นฟ้องต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ภาค 2 มีผู้ถูกกล่าวหาเพียง 5 ราย ไปรายงานตัวต่ออัยการ นายอิทธิพลไม่ได้เดินทางมาพบอัยการตามวันและเวลาที่กำหนด ทำให้ศาลออกหมายจับวันที่ 5 ก.ย.2566
ขอไม่ให้นับระยะเวลาหลบหนี
นายนิวัติไชยกล่าวว่า ต่อมาวันที่ 6 ก.ย.2566 อัยการขอให้ ป.ป.ช.ยื่นขอออกหมายจับนายอิทธิพลใหม่อีกครั้ง โดยขอให้ศาลระบุในหมายจับว่า ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีเมื่อวันที่เท่าใด ศาลออกหมายจับตามคำร้องใหม่วันที่ 7 ก.ย.2566 โดยระบุหมายเหตุผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีระหว่างถูกดำเนินคดี มิให้นับระยะเวลาที่ผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีรวมเป็นส่วนหนึ่งของอายุความ จากนั้นติดตามตัวผู้ถูกกล่าวหาที่เหลือมาดำเนินคดีรวมถึงนายอิทธิพลด้วย เมื่อวันที่ 9 ต.ค.2566 ศาลได้ประทับรับฟ้องทุกราย ดังนั้นกรณีศาลอาญาคดีทุจริตฯมีคำพิพากษาโจทก์ยื่นฟ้องเกินระยะเวลาทำให้คดีขาดอายุความ จึงอยู่ระหว่างขอสำเนาคำพิพากษาเสนอ ป.ป.ช.พิจารณาต่อไป
“ชาดา” ขีดเส้นตายเจ้าหนี้รายงานตัว
เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายชาดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย ที่ปรึกษาของคณะกรรมการแก้ไขหนี้นอกระบบ แถลงเปิดแผนปฏิบัติการแก้ไขหนี้นอกระบบอย่างยั่งยืนว่า ขณะนี้มีคนมาลงทะเบียนแล้วแสนกว่าราย แต่ถือว่ายังไม่ใช่ทางออก เพราะมีคนจำนวนมากกู้เงินในระบบไม่ได้ต้องกู้นอกระบบ ชีวิตเดินต่อไม่ได้ต้องกู้หนี้มาใช้หนี้ ทำมาหากินใช้ดอกเบี้ย ที่เรามาประกาศวันนี้เพื่อให้เจ้าหนี้และลูกหนี้ออกมาแสดงตัว ถ้าลูกหนี้ไม่มาเจ้าหนี้ต้องมา ยืนยันให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เป็นหนี้ต้องใช้แต่ใช้ในอัตราที่ไม่โหดร้ายทารุณ ขีดเส้นตายถึงวันที่ 31 พ.ค. ถ้าไม่มาจะถูกตรวจสอบอย่างเข้มข้น ต่อให้มีนอมินีอย่างไรก็ไม่พ้น คิดว่าการตรวจสอบจะไม่ถึง ถือว่าคิดผิด ถึงแน่ วันดีคืนดีจะมีเจ้าหน้าที่สรรพากรไปถึงบ้านสอบภาษี รวมถึง ปปง.ด้วย คนที่นั่งอยู่เบื้องหลังเป็นเจ้าพ่อเงินกู้ต้องเข้าระบบ เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจะมาว่าไม่ได้ว่าไม่ให้ความเป็นธรรม
เตือน ขรก.ปล่อยกู้โหดโดนสองเด้ง
นายชาดากล่าวว่า นายทุนเงินกู้มีทั้งกลุ่มดำและกลุ่มขาว หรือกลุ่มดีและไม่ดี อยากให้เรื่องมันจบ พอจบแล้วคนจนจะมีโอกาส ไม่ไปพึ่งแล้วธนาคาร เพราะธนาคารไม่ยอมลดดอกเบี้ย ไม่ยอมมารับรู้อะไรด้วยเลย และหนี้ในระบบบางส่วนก็ไม่ดีไม่ยุติธรรม ไม่เหมาะสมกับประเทศชาติจึงทำให้เกิดหนี้นอกระบบขึ้น เมื่อถามว่าเจ้าหนี้ที่เป็นข้าราชการจะมีผลต่อหน้าที่การงานหรือไม่ นายชาดาตอบว่า ต้องมาเข้าระบบด้วยเหมือนกัน เพราะถือว่าโดน 2 เด้งเนื่องจากเป็นข้าราชการ
“อุ๊งอิ๊งค์” นำทัพหนุน “ชาญ” สู้ “แจ๊ส”
อีกเรื่องนายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีนายชาญ พวงเพ็ชร์ ลงสมัครนายก อบจ.ปทุมธานี ในนามพรรคเพื่อไทยว่า พรรคพท.ตัดสินใจส่งตามความประสงค์ของนายชาญและมติ สส.ในพื้นที่ จ.ปทุมธานี เมื่อถามว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตนายก อบจ.ปทุมธานีลงสมัครนามคนรักปทุมธานี จะตัดคะแนนกันหรือไม่ นายสรวงศ์ตอบว่า ตัดคะแนนกันเองอยู่แล้ว แต่เท่าที่ติดตามเห็นว่าในส่วนพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ยังไม่ส่งลง ส่วนจะช่วยใครข้างหลังหรือไม่นั้นไม่ทราบ แต่พรรคจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุดเพื่อทำให้ประชาชนเทคะแนนมาให้เรามากที่สุด ไม่ประมาทใครทั้งสิ้น ไม่ว่าเป็นผู้สมัครอิสระ ผู้สมัครโนเนม โดย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท. จะลงพื้นที่ 2 รอบคือช่วงกลาง และช่วงปลายของการหาเสียง
“วัชระ” กังขาใช้ ฮ.บินเบิร์ธเดย์นาย
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต สส. พรรค ปชป. แถลงกรณีทหารในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ นำเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพบก (ทบ.) บินไปร่วมงานวันเกิดอดีตนายทหาร ที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า จะทำหนังสือสอบถาม พล.อ.เจริญชัย หินเธาว์ ผบ.ทบ. และขอให้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง การนำเฮลิคอปเตอร์แบล็กฮอว์ก ทบ.ไปร่วมงานวันเกิดอดีตนายทหาร ประชาชนเกิดความสงสัยมากว่า ใช้เฮลิคอปเตอร์และน้ำมันของกองทัพเงินภาษีประชาชนไปใช้ส่วนตัว เหมือนเช่นกรณีใช้เฮลิคอปเตอร์ไปล่าสัตว์ป่าที่ทุ่งใหญ่นเรศวร เมื่อปี 2516 ว่าเป็นความจริงหรือไม่ ให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน อีกกรณีที่มีข่าวนายสุทิน คลังแสง รมว.กลาโหม มีนโยบายซื้อข้าวเก่าค้างโกดัง 10 ปี มาให้พลทหาร หรือทหารเกณฑ์ ในกองทัพรับประทาน ขอถามผบ.ทบ.ว่ามีนโยบายอย่างไร และขอคำมั่นว่าจะไม่ให้พลทหารหรือทหารเกณฑ์กินข้าวเน่า 10 ปีแม้แต่เมล็ดเดียว และแถลงให้ประชาชนทราบภายใน 15 วัน