ไขก๊อกกันซะก๊อกหลวม
ต่อเนื่องจากกระทรวงการต่างประเทศ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ลาออกฉุกเฉิน ล่าสุด “รมต.ตู่” กฤษฎา จีนะวิจารณะ ปรารภดังๆขอลาออกจาก รมช.คลัง
เมื่อเปล่งวาจาแล้วก็คงต้องไป ตามที่ล่าสุด “นายกฯเศรษฐา ทวีสิน” ระบุ ถ้าใบลาออกมาถึงก็ถือว่า “ลาออก”
งานนี้ถือเป็นแผลเลือดซิบ จากคิวแบ่งงานไม่ลงล็อกลงตัว ในกระทรวงการคลัง ที่มี “พิชัย ชุณหวชิร” รองนายกฯ และ รมว.คลัง มีรัฐมนตรีช่วย 3 รมช. แบ่งงาน รมต.รุ่นหลัง “เด็กวันก่อนโน้น” ได้คว้า “พุงปลา”
เหลือแต่ “ก้าง” ไว้ จะให้ “กฤษฎา” นิ่ง ยอมเป็นพระอันดับรั้งท้ายได้ไง
ไม่ใช่แค่น้อยใจ เสียใจ ดีกรีน่าจะพลุ่งพล่านระดับ “ฉุนกึ้ก”
ที่สำคัญจะให้ปรับฟีลเปลี่ยนอารมณ์ไปต่อกับ “รัฐบาลเศรษฐา” ก็คงยากยิ่ง โดยเฉพาะการทำงานในกระทรวงการคลัง หากมีชื่อ “ขุนคลังพิชัย” คุมทีม
...
เพราะเอาเข้าจริง “พิชัย–กฤษฎา” เคยมีปมร้าวลึกครั้งอดีต
รายหนึ่งอยู่ในบริษัทกลุ่มพลังงานยักษ์ใหญ่ตราใบไม้ อีกฝ่ายนั่งแท่นเป็นเบอร์ 1 ข้าราชการ ปลัดกระทรวงการคลัง คุมนโยบายกำกับกฎเกณฑ์ ครอบคลุมไปถึงการบริหารบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านพลังงาน
เคยมีขบเหลี่ยมปีนเกลียวหนัก จนผู้นำรัฐบาลลุง ต้องไกล่เกลี่ย จับแยก
วันนี้สองฝ่ายกลับมาอยู่พื้นที่อำนาจเดียวกัน อีกฝ่ายอยู่จุด “เหนือกว่า” ก็ทำใจยากแล้ว ยังมาเจอปม “แบ่งงาน” แบบประกาศยึดเขี้ยวตัดเล็บกันเห็นๆ
ไม่ “วงแตก” วันนี้ ก็เสี่ยงฉะกัน “พังยับ” ในวันหน้า ผู้นำต้องเลือก จะเก็บเธอไว้ทั้งสองคนไม่ได้แล้ว
เช่นเดียวกันกับ “ผู้ทรงอิทธิพลหลังฉาก” รายการนี้แม้พยายามเล่นบทบรมกุนซือ เป็นแค่ที่ปรึกษา “อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร” ย่อมรู้เห็นในความเป็นไป
เผลอๆจะเป็นฝ่ายชี้แนะให้สัญญาณ เลือก “พิชัย” ที่มีน้องสาวตระกูลชินฯแบ็กอัป และอยู่ในเครือข่ายผู้เฒ่าบ้านป่ารอยต่อฯ
อีกทางก็ลดความสำคัญ “กฤษฎา” หั่นดุลเครือข่าย “ลุงน้องเล็ก” เสียเอง
แล้วก็บังเอิญประจวบเหมาะไปกับสถานการณ์ความเป็นไปในพรรครวมไทยสร้างชาติ กำลังปั่นป่วน
เกมอำนาจระอุในค่าย ยังยากสแกนให้เห็นขั้วฝ่ายชัด
แต่ที่แน่ๆ ฝุ่นตลบยิ่ง นอกจาก “กฤษฎา” ที่ถือตั๋วในฐานะแขกรับเชิญเข้ามาเป็นรัฐมนตรี ติดสายสะพายของ “ผู้มีอุปการคุณ รทสช.” ไขก๊อกเวลาไล่เลี่ยกัน กับคนในเครือข่ายเดียวกัน “สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์” ลาออกจากพรรค ไขก๊อกทุกตำแหน่ง
ยังไม่รวมก่อนนี้ มืองานสายตรง “สปอนเซอร์ใหญ่” ก็ถอนตัวค่ายนี้
ทั้งหมดโยงใยเรื่องราว ทั้งบทกุนซือเขียนสคริปต์อัดแบงก์ชาติ ไปจนกระทั่งเงื่อนไขดีลลับ สูตรพิสดารตั้งรัฐบาล การจัดทัพ ครม. วางคนในกระทรวงสำคัญๆ พลิ้วข้อตกลงแบ่งดุลงานเศรษฐกิจ-ความมั่นคง ไม่ลงล็อก
เพื่อไทยก็หลายก๊ก–รทสช.ก็สารพัดก๊วน แถม “คนหลังฉาก” ทั้งสองปีก สายสัมพันธ์ชัก “ไม่นิ่ง”
โดยเฉพาะในฝั่งผู้นำจิตวิญญาณอย่าง “ทักษิณ” เริ่มกลับมาสนุกกับการบริหาร กร้าวเหิมห้าวทั้งบริหารงาน บริหารคน บริการเกม
“สลับดุล” ขั้วลุงซ้าย–ฝ่ายลุงขวา จนหมุนตามกันไม่ทัน
โดยเฉพาะนายกฯซีอีโอ “เศรษฐา” ก็น่าจะเริ่มหัวหมุน กับรายการโชว์ชักถี่และหลายเรื่องราวของนายใหญ่
ตั้งแต่ดีลลับเกมอำนาจทั่วทิศ “ดีลเปิดทาง” พาน้องกลับบ้าน “ดีลโชว์ไต๋” กับกลุ่มชาติพันธุ์ในเมียนมา “ดีลลึก” คุยลับกับบิ๊กประเทศเพื่อนบ้านรอบทิศ ทั้งเมียนมา–มาเลเซีย–กัมพูชา
ชนิดฝ่ายคุมเกมความมั่นคงในบ้านเมือง กองทัพมีเหล่
เปิดรุกความมั่นคงระหว่างประเทศ จนกระทั่งจัดระเบียบกระทรวงกลาโหม ปมความมั่นคงในประเทศ
โมเดลต้นแบบนายกฯซีอีโอ โชว์พาวเวอร์ ทุบโต๊ะ เร่งสปีดงาน แม้เป็น “ตัวช่วยพิเศษ” แบ็กอัปหนุนรัฐบาลขับเคลื่อน แต่อีกทางก็เริ่มทำปั่นป่วนไปทั้งกระดานอำนาจ
ที่สำคัญ ยั่วขั้วที่ซึมเศร้าอยู่ขอบเวที แหย่แรงต้านที่กำลังฮึ่มๆ
พลิกดีลพลิกเกมกันถี่ๆ ก็เสี่ยง “เป็นเรื่อง” เหมือนกัน.
ทีมข่าวการเมือง