“สรวงศ์” ปัดคิดแก้กฎหมายแบงก์ชาติ ชี้ มีหน่วยงานเดียวที่ไม่ว่าจะเสนออะไรก็ขวางความคิดเห็น ซ้ำ การประชุมผู้ว่าการว่า ธปท. ก็ไม่มา เพียงแต่ส่งตัวแทน ติง เหมือนไม่ให้เกียรติรัฐบาล

วันที่ 6 พฤษภาคม 2567 นายสรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีการเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร สมัยวิสามัญประจำปี ช่วงเดือนมิถุนายน 2567 จะมีการแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการปรับบทบาทธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือไม่ ว่า การเปิดสมัยประชุมสภาฯ ครั้งนี้ จะพิจารณาเรื่องงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ยังไม่ได้มีการพูดคุยถึงการปรับแก้ไขกฎหมายใดๆ และตอนนี้ยังไม่มีการพูดคุยถึงการแก้ไขกฎหมายบทบาทของ ธปท. 

นายสรวงศ์ กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย พูดบนเวที 10 เดือนที่ไม่รอ ทำต่อให้เต็ม 10 นั้น เป็นเพียงความคิดเห็น หากเรามองในมุมที่ไม่มีอคติใดๆ เลย จะสังเกตได้ว่ามีอยู่เพียงหน่วยงานเดียวที่ไม่ว่าจะเสนออะไรไปก็จะขวางความคิดเห็นของรัฐบาล อีกทั้งไม่มีการเสนอแนะความคิดเห็นให้รัฐบาลว่าต้องดำเนินการอย่างไร และหากเปิดใจให้กว้างก็จะเห็นว่าเราไม่ได้ต้องการจะโจมตี ธปท. แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเช่นนั้นจริงๆ เพราะเป็นเพียงหน่วยงานเดียว ไม่รู้ร้อนรู้หนาว เพราะแม้กระทั่งธนาคารพาณิชย์ ก็ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลที่จะปรับลดดอกเบี้ยทันที 

สำหรับการแก้ไขกฎหมายที่จะปรับลดบทบาทของ ธปท. นายสรวงศ์ ระบุว่า ก็จะต้องมีการพูดคุยกันในพรรคเพื่อไทยก่อน ส่วนตัวมองว่าการแก้กฎหมายไม่ใช่การจะนำ ธปท. เข้ามาอยู่ภายใต้การดำเนินงานของรัฐบาลอย่างแน่นอน ซึ่งการทำงานอย่างอิสระของแบงก์ชาติเป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว แต่การที่เป็นอิสระนั้นจะต้องดูสภาพแวดล้อมภายนอกด้วย และหากมองย้อนกลับไปจากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ก็ไม่ใช่ว่า ธปท.จะตัดสินใจผิดพลาด 

...

ทั้งนี้ รัฐบาลหรือนายกรัฐมนตรีเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เชื่อในการนำเสนอของ ธปท. แต่ไม่ได้มีข้อเสนอใดๆ มา นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ขณะนี้สื่อมวลชนได้นำคำพูดของ น.ส.แพทองธาร มาเป็นประเด็น แต่ไม่มองว่าสิ่งที่ออกมาพูดนั้น รัฐบาลได้พยายามในทุกวิถีทาง และนายกรัฐมนตรีเองก็ถึงขั้นที่ขอความกรุณาให้ ธปท. พิจารณาในการลดดอกเบี้ย 

เมื่อถามต่อไปว่า ธปท.มีความอิสระเกินไปในการดำเนินการหรือไม่ เพราะจากที่ผ่านมาก็ปฏิเสธที่จะดำเนินการร่วมกับรัฐบาล นายสรวงศ์ กล่าวว่า เป็นอิสระหรือไม่นั้น ไม่ใช่ประเด็น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่หน่วยงาน แต่ปัญหาอยู่ที่ตัวบุคลากรมากกว่า ซึ่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย มีอคติอะไรกับรัฐบาลหรือไม่ ตนไม่ทราบ รายการเข้าประชุมในแต่ละครั้งก็ดูเหมือนจะไม่ได้ให้เกียรติอะไรรัฐบาลเลย เพราะจากการประชุมที่ผ่านมาส่งเพียงตัวแทนเข้ามาร่วมประชุมเท่านั้น แสดงออกได้ชัดว่า ผู้ว่าการ ธปท.ไม่ต้องการร่วมสังฆกรรมกับรัฐบาล 

“การออกมาพูดของรัฐบาล หรือหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ไม่ใช่การพูดครั้งแรก แต่เป็นการขอร้องแล้วขอร้องอีก เป็นการขอพูดคุยกันในหลายๆ ครั้ง แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับความร่วมมือเลย แล้วทำให้เห็นว่าเป็นเอกเทศจนไม่สนใจนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล สิ่งที่ผมพูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ได้พูดในนามนักเศรษฐศาสตร์ หรือนายธนาคาร แต่พูดในฐานะประชาชนว่า ในขณะที่ทุกคนกำลังช่วยกันอยู่นั้น แต่มีเพียงหน่วยงานเดียวที่ค้านทุกอย่าง และสิ่งที่ น.ส.แพทองธาร พูดนั้น ต้องการสื่อให้เห็นว่าความเป็นอิสระของ ธปท. มันเกี่ยวข้องต่อความเป็นอยู่ของประชาชนในประเทศ”