“คารม พลพรกลาง” แนะ “พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์” อย่าคิดฟุ้งซ่านและจินตนาการมากไป จนทำให้ผู้ใหญ่เข้าใจผิดกัน ยัน “อนุทิน” หนุนนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลอยู่แล้ว ส่วน “พุทธิพงษ์” ไม่ได้ร่วมกิจกรรมกับ ภท. มานานแล้ว

วันที่ 27 เมษายน 2567 นายคารม พลพรกลาง รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากที่นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ สมาชิกพรรคเพื่อไทย ออกมาพูดถึงกรณีนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ ซึ่งเคยเป็นอดีตผู้สมัคร สส. บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย ที่วิพากษ์วิจารณ์ นโยบายดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล ในทำนองว่าให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย อบรมนายพุทธิพงษ์ที่เป็นสมาชิกพรรคให้ระมัดระวังการพูดถึงนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งเป็นนโยบายที่สำคัญของพรรครัฐบาลนั้น

      

นายคารม กล่าวว่า ตนเองในฐานะเป็นรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และได้เข้าร่วมประชุม ครม. อีกทั้งได้ติดตามการแสดงความคิดเห็นนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งนั้น ขอยืนยันว่า นายอนุทินได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ในทางสอดคล้องและเห็นด้วยกับนโยบายสำคัญนี้มาโดยตลอด เนื่องจากเป็นนโยบายของรัฐบาล เพียงแต่ได้พูดถึงข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งจะต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง เพราะเป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณจำนวนมาก ทั้งนี้ นายอนุทิน ก็พูดและกล่าวเกี่ยวกับนโยบายนี้ว่า ที่ปรึกษากฎหมายของรัฐบาลคือคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้เป็นผู้ตรวจสอบอยู่แล้ว โดยนายอนุทิน ก็พูดในเชิงหลักการ และได้แสดงความคิดเห็น อย่างมีความเป็นผู้ใหญ่ และคำนึงถึงมารยาทในทางการเมืองแบบมีวุฒิภาวะ    

ส่วนความคิดเห็นของนายพุทธิพงษ์ ซึ่งเคยเป็นผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อของพรรคฯ นั้น นายคารม กล่าวว่า เป็นเพียงความคิดเห็นหนึ่งของสมาชิกพรรคคนหนึ่ง ซึ่งหลังจากผ่านการเลือกตั้งแล้ว นายพุทธิพงษ์ ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมกับพรรคมานานแล้ว อีกทั้งการที่สมาชิกพรรคการเมืองของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีความคิดเห็นหลากหลาย แตกต่างกันบ้าง ถือเป็นเรื่องส่วนตัว นายอนุทิน ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคไม่สามารถทราบได้ทั้งหมด  

...

“ตนเองไม่อยากให้นายพร้อมพงศ์คิดมากไป ไม่ต้องฟุ้งซ่านและจินตนาการมากไป เพราะผู้ใหญ่ของพรรคได้ทำงานใกล้ชิดกันมาโดยตลอด ซึ่งคู่ต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย คือพรรคก้าวไกล ไม่ใช่พรรคภูมิใจไทย คุณพร้อมพงศ์อย่าเข้าใจการเมืองแบบกระพี้ ขอให้เข้าใจแก่นมัน” นายคารม ย้ำ