นายกรัฐมนตรี กล่าวถ้อยแถลงเปิดการประชุมประจำปีของ ESCAP เน้นย้ำบรรลุเป้าหมาย SDGs ผลักดันการใช้นวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนา หามาตรการจัดการความเสี่ยงจากนวัตกรรมดิจิทัล ยัน ไทยพร้อมให้ความร่วมมือ

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 22 เมษายน 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถ้อยแถลงในพิธีเปิดการประชุมประจำปีของคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจและสังคมแห่งสหประชาชาติสำหรับเอเชียและแปซิฟิก สมัยที่ 80 (The 80th Session of the United Nations Economic and Social Commission for Asia and the Pacific: ESCAP) ณ ศูนย์การประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพฯ 

นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปสาระสำคัญ โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติในการเป็นประธานเปิดการประชุมประจำปีของ ESCAP สมัยที่ 80 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้หัวข้อ “การใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในเอเชีย-แปซิฟิก” (Leveraging digital innovation for sustainable development in Asia and the Pacific) ประเทศไทยมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งในการเป็นศูนย์ปฏิบัติงานประจำภูมิภาคของบุคลากรและตัวแทนของ UN มากกว่า 5,000 คน สะท้อนบทบาทและความมุ่งมั่นของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศ 

...

สำหรับหัวข้อการประชุมในครั้งนี้ เหมาะสมและสอดคล้องกับปัจจุบัน โดยการประชุม SDG Summit และการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ณ นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ในปีที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประทับใจกับความร่วมมือกันระหว่างสหประชาชาติกับประเทศสมาชิก ในการดำเนินมาตรการเชิงรุก เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายในปี 2030 พร้อมเชื่อว่าหากทุกประเทศมีเจตนารมณ์และลงมือปฏิบัติร่วมกันอย่างจริงจัง จะทำให้บรรลุเป้าหมาย เพื่ออนาคตที่เจริญรุ่งเรืองของทุกคน

ทั้งนี้ ภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก เป็นภูมิภาคที่มีชีวิตชีวาและมีพลวัต แต่การดำเนินการในปัจจุบันจะไม่สามารถทำให้บรรลุเป้าหมาย SDGs ได้ จนกว่าจะถึงปี 2062 จึงจำเป็นต้องแสวงหาวิธีใหม่ๆ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเร่งด่วน โดยนายกรัฐมนตรีมองเห็นถึงความสำคัญของการนำนวัตกรรมดิจิทัลมาใช้ เนื่องจากเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์สิ่งต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว มีคุณภาพดีขึ้น ในราคาถูกลง พร้อมเสนอแนวทาง 2 ประการ สำหรับการดำเนินการทางนวัตกรรมดิจิทัล ดังนี้

1. การส่งเสริมศักยภาพให้กับคนและชุมชน ผ่านการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัล โดยยึดคนเป็นศูนย์กลาง ผ่านการดำเนินการตามวิสัยทัศน์ Ignite Thailand มุ่งส่งเสริมนวัตกรรมดิจิทัล ควบคู่กับการพัฒนาใน 8 ด้าน อีกทั้งรัฐบาลยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการส่งเสริมความรู้ด้านดิจิทัล ซึ่งครอบคุลมไปถึงกลุ่มเปราะบาง โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับผู้คนและชุมชน พร้อมขับเคลื่อนการเติบโตที่ยั่งยืน

สำหรับประเทศเกษตรกรรมหลายแห่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมถึงประเทศไทย การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลถือเป็นสิ่งสำคัญที่ส่งผลต่อความมั่นคงทางอาหาร จึงจำเป็นต้องใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมทางการเกษตร สิ่งนี้จะพัฒนาไปสู่ระบบอาหารที่ยั่งยืน การทำฟาร์มเกษตรอัจฉริยะที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม

2. การจัดการความเสี่ยงจากนวัตกรรมดิจิทัล แม้การใช้นวัตกรรมดิจิทัลจะมีประโยชน์อย่างมาก แต่ก็มีความเสี่ยงเช่นกัน นายกรัฐมนตรีขอให้ร่วมกันหามาตรการจัดการปัญหาภัยคุกคามทางไซเบอร์ ลดความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล รวมไปถึงความร่วมมือเพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะมีการใช้นวัตกรรมดิจิทัลที่ปลอดภัย มั่นคง และเท่าเทียม

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรียังเน้นย้ำถึงบทบาทของ ESCAP ต่อการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ในการบูรณาการเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อส่งเสริมการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมถึงมองว่าศักยภาพและโอกาสของความร่วมมือจะยังเติบโตได้อีกมาก ซึ่งไทยพร้อมที่จะสนับสนุน และส่งเสริมการดำเนินการร่วมกันของ ESCAP ซึ่งจะส่งผลประโยชน์อย่างมหาศาลต่อภูมิภาคนี้ รวมถึงเสนอให้ประเทศสมาชิกแลกเปลี่ยนความรู้และแนวปฏิบัติ เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางด้านดิจิทัล และนำไปสู่การพัฒนาอย่างอย่างยั่งยืนที่รวดเร็วมากขึ้น

การประชุมในครั้งนี้ เป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมความร่วมมือระดับภูมิภาคผ่านนวัตกรรมดิจิทัล เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย SDGs และหวังว่าจะนำแนวความคิดจากการประชุมครั้งนี้ เปลี่ยนไปสู่แนวนโยบายเพื่อปฏิบัติร่วมกันในระดับชาติและภูมิภาคต่อไป เชื่อมั่นว่าผลลัพธ์ของการประชุมจะสามารถนำไปต่อยอดในการประชุม High-Level Political Forum การประชุม Summit of the Future และ Global Digital Compact ในปีนี้ ซึ่งไทยพร้อมเสริมสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล และสนับสนุนความร่วมมือกับ ESCAP เพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกันต่อไป.