คงเป็นเรื่องปกติเมื่อต้องจากไปก็โหยหาใน 2 ส่วนสำคัญทางการเมืองที่กำลังตกอยู่ในสภาพแห่งความเปลี่ยนแปลงทั้งวุฒิสภาและการปรับ ครม.

“วุฒิสมาชิก” 250 คน ที่ได้รับการแต่งตั้งจาก คสช.ด้วยรูปแบบที่ทำให้ดูเหมือนว่ามาจากขบวนการประชาธิปไตยสากล

แต่จริงๆแล้วก็แต่งตั้งนั่นแหละ...

กำลังจะพ้นวาระ 5 ปี ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดในวันที่ 11 พ.ค. 2567 เท่ากับว่าอีกเพียงไม่กี่วันนี้ก็ต้องกลับไปเลี้ยงหลานที่บ้าน

แต่เป็นเพราะส่วนใหญ่มีตำแหน่งมาอย่างยาวนานจากสภาแต่งตั้งของ คสช. และต่อเนื่องเรื่อยมาถึงการเป็นสมาชิกวุฒิสภา

ดูง่ายๆว่าผูกปีติดต่อกัน

ดังนั้นการที่จะต้องพ้นจากตำแหน่งจึงเกิดความรู้สึกในอารมณ์ไม่น้อยเพราะตำแหน่งนี้มีอำนาจบารมีไม่เบาเหมือนกัน

ที่เห็นและเป็นปัญหาการเมืองก็คือมีอำนาจในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ทำให้นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งไม่ชอบใจนัก

เพราะนี่คือกลไกอย่างหนึ่งที่ส่งเสริม “อำนาจทหาร” อย่างชัดเจน

การจัดรัฐบาลที่ผ่านมาวุฒิสภาก็มีส่วนสำคัญทำให้หัวหน้าพรรค “ก้าวไกล” ที่มีเสียงอันดับ 1 ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพราะคะแนนโหวตไม่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด

แต่กลับยกมือสนับสนุนคนที่ 2 ที่ “เพื่อไทย” ส่งเข้าประกวดคือ “เศรษฐา ทวีสิน” เป็นนายกรัฐมนตรี มีเสียงสนับสนุน 314 เสียง 11 พรรค

เมื่อวุฒิสภาชุดนี้พ้นจากตำแหน่งไปรัฐธรรมนูญได้กำหนดให้มีวุฒิสภาชุดใหม่ที่มาจากการเลือกกันเองของ 20 กลุ่มอาชีพทั่วประเทศ

ให้อำนาจทุกอย่างเหมือนเดิม

เว้นแต่การโหวตนายกรัฐมนตรีเท่านั้น

ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากประชาชนทั่วไป รวมถึงนักการเมืองและพรรคการเมืองเพราะแม้ว่าจะไม่มีอำนาจในการโหวตนายกรัฐมนตรีแต่อำนาจทุกอย่างยังดำรงอยู่

...

ที่สำคัญคือการแต่งตั้งองค์กรอิสระต่างๆทั้งระบบ

ถามว่าองค์กรอิสระเหล่านี้มีผลในทางการเมืองมากน้อยแค่ไหน แค่ ป.ป.ช.กับศาลรัฐธรรมนูญที่ทำให้นักการเมืองรู้กันดีว่าแค่ไหนอย่างไร

เนื่องจากสามารถชี้เป็นชี้ตายความเป็นไปได้

จึงไม่แปลกที่พรรคการเมืองบางคนพยายามเรียกร้องให้ประชาชนเข้าไปมีส่วนร่วมและมีข่าวว่าระดมส่งผู้สมัครด้วย

เพราะใครที่จะมีโอกาสได้เป็น สว. 200 คนนี้จะต้องได้รับการลงคะแนนเลือกจากผู้สมัครเหล่านี้ เพราะประชาชนโดยทั่วไปไม่สามารถเลือกเองได้

นี่ก็เป็นนวัตกรรมใหม่ทางการเมืองอีกชุดหนึ่ง

แม้ กกต.และกฎหมายห้ามไม่ให้พรรคการเมือง หรือนักการเมืองมีได้เสียในการเลือกเนื่องจากจะทำให้เกิดการครอบงำเพื่อประโยชน์

แต่ในสภาพความเป็นจริงแล้วค่อนข้างจะป้องกันยากไม่ต่างจากการเลือกตั้ง สส.เท่าใดนักที่มีช่องโหว่ให้ทำอย่างนั้นได้

ก็ต้องดูฝีมือ กกต.ว่าจะสามารถควบคุมได้แค่ไหน?

แต่ที่แน่ๆวุฒิสมาชิกชุดปัจจุบันน่าจะทำหน้าที่รักษาการไปอีกนานพอสมควรเพราะการเลือกตั้งกว่าจะเสร็จเรียบร้อย

น่าจะใช้เวลาถึงปลายปีก็ได้!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม