“สมศักดิ์” รองนายกฯ ซัด สส.ก้าวไกล บิดเบือน-ไม่ศึกษาโครงการโค ย้ำ ตั้งเแต่ปี 36 ยังไม่ได้เริ่มทำ-ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โอด ทำสังคมเข้าใจผิด ชี้ อภิปรายมั่ว เอาโครงการมีปัญหาปนกับโคแสนล้าน จี้ยอมรับข้อเท็จจริง
วันที่ 12 เมษายน 2567 นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีการบิดเบือนโครงการโคแสนล้านต่อเนื่องในโซเชียลมีเดีย หลังนายคริษฐ์ ปานเนียม สส.ตาก พรรคก้าวไกล อภิปรายเรื่องโครงการโค ในสภาผู้แทนราษฎรว่า หลังจบการอภิปรายในสภาฯ ยังมีการพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโคต่อในสื่อสังคมออนไลน์ ทำให้ตนต้องออกมาชี้แจงอีกครั้ง ซึ่งสิ่งที่ นายคริษฐ์ มีการอภิปราย ก็ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า โครงการโค ตั้งแต่ปี 2536 โคอีสานเขียว ปี 2547 โคเอื้ออาทร ปี 2555 ค้าวัวเป็น ปี 2561 โคเนื้อล้านครอบครัว ปี 2563 โคบาลบูรพา ปี 2565 กู้ยืมกองทุนหมู่บ้านเพื่อเลี้ยงโค และปี 2567 โคบาลชายแดนใต้ นั้นทั้งหมดเป็นโครงการที่ตนเป็นคนทำ ซึ่งไม่ใช่ข้อเท็จจริง และเป็นการบิดเบือน โดยตนก็ได้ชี้แจงในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไปแล้วว่า ตนยังไม่ได้เป็นผู้ทำแม้แต่โครงการเดียว ดังนั้นสิ่งที่ นายคริษฐ์ กล่าวหามาเป็นการบิดเบือนอย่างชัดเจน รวมถึงหลังมีการอภิปรายก็ยังมีการตัดคลิปวิดีโอชี้นำว่าตนไม่ได้ทำ แต่เป็นคนคิด โดยขอยืนยันว่า โครงการโค ตั้งแต่ปี 2536 ตนไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องแต่อย่างใด จึงขอให้สังคมเข้าใจ พร้อมขอให้มีการเลิกบิดเบือน และยอมรับข้อเท็จจริงด้วย
“การกล่าวหาที่ไม่ตรงข้อเท็จจริง สะท้อนให้เห็นว่า ไม่ได้ทำการบ้าน และไม่ได้ศึกษา จึงไม่รู้ว่าแต่ละโครงการโคใครเป็นผู้ดำเนินการ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างความสับสบให้กับประชาชนที่เหมารวมว่าผมเป็นคนทำ หรือคิดทั้งหมด ทั้งที่จริงผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ โดยการส่งเสริมอาชีพเลี้ยงโค ผมคิดมาแล้วกว่า 20 ปีจริง แต่ยังไม่ได้ขับเคลื่อน เพราะสังคมเมืองยังไม่เข้าใจ และไม่สนับสนุน จนต้องดึงภาคเอกชนมาช่วยทำโครงการนำร่องที่จังหวัดสุโขทัย 200 ครอบครัว ซึ่งประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เพราะมีตัวอย่างเกษตรกร จากเริ่มต้นเลี้ยง 2 ตัว ผ่านมา 4 ปี มีโค 10 ตัวแล้ว ช่วยให้เกษตรกรมีรายได้กว่า 250,000 บาท จึงทำให้สังคมมีความเข้าใจ และเห็นภาพมากขึ้นว่า การเลี้ยงโค สามารถสร้างรายได้เสริมได้จริง” รองนายกรัฐมนตรี กล่าว
...
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า หลังโครงการนำร่องประสบความสำเร็จ ตนก็ได้เป็นที่ปรึกษาให้กับ นายอนุชา นาคาศัย ขณะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อขับเคลื่อนโครงการส่งเสริมอาชีพการเลี้ยงโคนำร่องในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย จำนวน 1,000 ครอบครัว 2,000 ตัว ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี ขณะนี้มีลูกโคแล้วเกือบ 100% และไม่มีการทุจริต หรือถูกการร้องเรียนแต่อย่างใด ตนจึงมาขับเคลื่อนเองในโครงการโคแสนล้าน ในปัจจุบันส่วนที่มีการกล่าวหาว่าเน้นส่งเสริม ไม่เน้นส่งถึงฝั่งนั้น ตนก็ขอเรียนข้อเท็จจริงให้ทราบว่า รัฐบาลไม่ได้ทอดทิ้งผู้เลี้ยงโคอย่างแน่นอน เพราะ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ก็ได้ช่วยเจรจาการส่งออกโคกับหลายประเทศแล้ว เช่น จีน ซาอุดีอาระเบีย ทำให้มีตลาดรองรับการส่งออกโคแล้ว
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนโครงการโคบาลชายแดนใต้ ที่กล่าวหาว่าเป็นโครงการของรัฐบาลชุดนี้ ตนในฐานะกำกับดูแล ศอ.บต. ที่เป็นผู้ขับเคลื่อนโครงการ ขอยืนยันว่า โครงการโคบาลชายแดนใต้ ไม่ใช่โครงการของรัฐบาลชุดนี้ เพราะตนในฐานะกำกับดูแล ศอ.บต. ไม่ได้เป็นผู้ขับเคลื่อน แต่เมื่อเข้ามากำกับดูแล และโครงการพบปัญหา ตนก็ได้เรียกประชุมด่วนเพื่อมอบแนวทางการแก้ปัญหาให้ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น การพยายามเชื่อมโยงโครงการที่มีปัญหา กับโครงการของตน จึงเป็นการกระทำที่สร้างความสับสนให้กับสังคมเป็นอย่างมาก ที่พยายามชี้นำว่า โครงการโค จะมีปัญหา ทั้งที่โครงการของตน ชยังไม่ทันได้เริ่มดำเนินการ และไม่ยอมพูดถึงโครงการนำร่องที่ประสบความสำเร็จ จึงอาจมองได้ว่าผู้อภิปรายไม่อยากช่วยเกษตรกรให้หลุดพ้นจากความยากจน ถึงไม่ช่วยส่งเสริม.