แม้เวลาจะผ่านมานานหลายปีแต่คงเป็นเรื่องของ “จำฝังใจ” ที่ “ชวน หลีกภัย” ผู้อาวุโสแห่งประชาธิปัตย์ ได้ ลุกขึ้นอภิปรายในสภาฯเพื่อเตือนสตินายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” อย่าได้พึงกระทำ

พร้อมกับยกประเด็นสมัยที่ “ทักษิณ ชินวัตร” เป็นนายกรัฐมนตรี ได้พูดจริงและทำจริงว่า จังหวัดไหนไม่เลือกพรรคไทยรักไทย

ก็ไม่ต้องไปพัฒนาจังหวัดนั้น หรือไม่ก็ต้องเป็นจังหวัดสุดท้าย

นี่เป็นแค้นฝังใจที่เป็นเรื่องหนึ่งที่ทำให้ภาคใต้ขาดการดูแลเอาใจจากรัฐบาลในยุคสมัยนั้นเช่นกัน

“คนใต้” ก็ไม่เลือกพรรคการเมืองที่ “ทักษิณ” เป็นเจ้าของจากไทยรักไทยไล่มาจนถึง “เพื่อไทย” ไม่มี สส.แม้แต่คนเดียว

แรกๆส่งผู้สมัครในบางจังหวัด แต่ระยะหลังไม่ส่งผู้สมัครแม้แต่คนเดียว เพราะแน่ใจแล้วว่าคนปักษ์ใต้ไม่เลือกอย่างแน่นอน

เป็นคำตอบที่ได้รับการพิสูจน์ผลมาแล้ว

และเป็นคำตอบที่ว่าทำไม “ชวน” จึงไม่ต้องการที่จะร่วมรัฐบาลกับ “เพื่อไทย” จนเกิดปัญหาในประชาธิปัตย์ประเด็นหนึ่ง

นับแต่รัฐบาลชุดนี้เข้ามาบริหารประเทศ ต้องยอมรับนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นวัวงานจริงๆ คือขยันจนแทบจะไม่มีวันหยุด

ไม่ไปต่างประเทศก็ไปต่างจังหวัด

นับเป็นข้อดีอย่างหนึ่งของผู้นำประเทศที่เอาการเอางานแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยได้ใกล้ชิดกับประชาชน

ไม่อยู่แต่บนหอคอยงาช้าง เป็นลูกชาวบ้าน...ว่างั้นเถอะ

แต่มีข้อสังเกตอยู่อย่างหนึ่งคือกำหนดลงพื้นที่ต่างจังหวัดนั้น ค่อนข้างจะเน้นไปที่จังหวัดในภาคอีสานและภาคเหนือ ซึ่งเป็นจังหวัดที่มีมวลชนให้การสนับสนุน

ยิ่งจังหวัดไหนเป็นฐานเสียงสำคัญก็จะมีโปรแกรมยาวหน่อยค้างคืนหรือตรวจงานใช้เวลายาวหน่อย

...

จังหวัดภาคใต้นั้นน้อยมาก

ด้วยลักษณะการทำงานอย่างนี้ ทำให้ “ชวน หลีกภัย” ที่ไม่ต้องการเห็นและไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะนายกรัฐมนตรีนั้น คือผู้นำของประเทศของประชาชนทุกคน

ไม่สามารถที่จะเลือกปฏิบัติได้

จึงต้องท้วงติงและแนะนำนายกรัฐมนตรีว่าอย่าปฏิบัติเช่นนั้นเพราะไม่เป็นธรรมจากการเลือกปฏิบัติ

เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องฟังจากคำแนะนำด้วยความหวังดี ยิ่งประกาศว่าจะทำหน้าที่ให้ครบ 4 ปี และชนะเลือกตั้งครั้งต่อไปให้ได้

ยังมีเวลาอีก 3 ปีครึ่ง

การชนะเลือกตั้งนั้นมีความจำเป็นที่จะต้องมี สส.ทุกๆภาคการที่ “เพื่อไทย” พ่ายแพ้ “ก้าวไกล” ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา

ไม่มีใครหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาพูดหรือยกเป็นเหตุผลหนึ่งของความพ่ายแพ้ เพราะมันเหมือนกับหยิกเล็บก็เจ็บเนื้อเนื่องจากเจ้าของพรรคไปสร้างเรื่องขึ้นมาเอง

แต่นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันคงจะต่างไปเพราะระยะหลังมีกำหนดการลงจังหวัดภาคใต้มากขึ้น

มิหนำซ้ำยังมีนโยบายพัฒนาในพื้นที่ต่างๆ ที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น!

“สายล่อฟ้า”

คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม