สนับสนุนหนังไทยบ้างได้ไหมคะมกราคม 2567 ที่ผ่านมา กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวฯ ได้ออกมาตรการเสริม เพื่อดึงดูดการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติในไทย โดยการคืนเงินให้สูงสุดถึง 20% ของค่าใช้จ่าย เริ่มตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ขณะที่ ผู้สร้างภาพยนตร์ไทย ต้องกระเสือกกระสนดิ้นรนกันเอง รัฐบาลไม่ช่วยเหลืออะไรเลย แถมยังต้องเสียภาษีเงินได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย สวนทางกับนโยบายของ รัฐบาลเพื่อไทย และ คณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ (THACCA) ที่มี คุณแพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานกรรมการ ซึ่งประกาศว่าจะสนับสนุน “หนังไทย” ให้เป็น Soft Power ก็ไม่รู้จริงใจหรือเปล่า เพราะเห็นสนับสนุนแต่หนังต่างประเทศ หนังไทยจะขอบ้างได้ไหมคะ

สิทธิประโยชน์ หรือ Film Incentive ที่กรมการท่องเที่ยวมอบให้กับผู้ถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศถือว่าจุใจไม่น้อย ไปดูรายละเอียดกันครับ

เริ่มตั้งแต่ สิทธิประโยชน์หลัก ถ้ามีการใช้จ่ายในการสร้างภาพยนตร์ในไทย ตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป จะได้เงินคืน 15% และมีออปชันเสริมอีก 5 ข้อ ซึ่งจะได้เงินคืนเพิ่มอีกไม่เกิน 5% รวมเป็น 20% ดังนี้ มีการส่งเสริมการท่องเที่ยว ส่งเสริม Soft Powr และ ภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศไทย ได้เงินคืนเพิ่ม 5% มีการจ้างทีมงานหลักชาวไทยจำนวน 23 ตำแหน่งงาน ได้เงินคืนเพิ่ม 3% มีการถ่ายทำในจังหวัดเมืองรอง (55 จังหวัด) โดยมีสัดส่วนวันการถ่ายทำในเมืองรองไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ได้เงินคืนเพิ่ม 3% มีค่าใช้จ่ายในการทำ Post– Production ไม่น้อยกว่า 15% ของค่าใช้จ่ายที่เข้าเงื่อนไข ได้เงินคืนเพิ่ม 2% หากเริ่มถ่ายทำตั้งแต่ 31 ธ.ค.2566 และมีค่าใช้จ่าย 100 ล้านบาทขึ้นไป จะได้เงินคืนเพิ่ม 5% และ ถ้ามีค่าใช้จ่ายตั้งแต่ 150 ล้านบาทขึ้นไป และเริ่มถ่ายทำตั้งแต่ 1 ม.ค.2567 จะได้เงินคืนเพิ่ม 5% รวมไม่เกิน 20% ลงทุน 150 ล้านบาท ได้คืน 20% ก็เป็นเงิน 30 ล้านบาท

...

มาตรการส่งเสริมคนทำหนังต่างประเทศ ทำให้คนทำหนังไทยตาร้อนผ่าว ทำไมรัฐบาลไทยจึงไม่ส่งเสริมคนทำหนังไทย แต่ส่งเสริมคนทำหนังต่างประเทศ เช่นเดียวกับ ผู้จัดงาน Mice คนไทย ที่เจ็บชํ้ามานานแล้ว รัฐบาลเอาเงินภาษีไปส่งเสริมแต่ต่างชาติ ไม่ส่งเสริมคนไทย

คนทำหนังไทยเล่าให้ผมฟังว่า ผู้สร้างหนังไทยไม่ได้เรียกร้องอะไรมาก อยากให้มีมาตรการ Rebate การผลิตคอนเทนต์ของคนไทย 20% เท่ากับที่ให้ Rebate คอนเทนต์ต่างประเทศที่มาถ่ายทำในประเทศไทย เพราะปัจจุบันคอนเทนต์ไทยที่มีมาตรฐาน ก็สามารถที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยและสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยไปสู่ต่างประเทศได้เช่นกัน หรือจะให้มี Foreign Distribution Deal มายืนยัน คนทำหนังไทยก็พร้อม เพราะทุกวันนี้ หนังไทยจำนวนมากก็ได้ฉายใน Netflix และ OTT network อื่นๆอยู่แล้ว ไม่ได้ด้อยกว่าต่างชาติตรงไหน ที่สำคัญการช่วยเหลือหนังไทย จะทำให้ “ทรัพย์สินทางปัญญา (IP) อยู่กับประเทศไทย ดีกว่าช่วยแล้วทรัพย์สินทางปัญญายังเป็นของต่างชาติ

ก่อนหน้านี้ คุณแพทองธาร ชินวัตร ประธาน THACCA ได้ประกาศนโยบายเพื่อ “ภาพยนตร์ไทย” ในเว็บไซต์พรรคเพื่อไทย แต่ไม่มีเรื่องการคืนเงินลงทุน มีแต่เรื่องทั่วๆไป เช่น เพิ่มช่องทางหาทุนสร้างหนัง เลิกมาตรการเซ็นเซอร์ อำนวยความสะดวกในการถ่ายทำ หนังไทยได้ฉายไม่ถูกกีดกัน เพิ่มโอกาสให้หนังไทย ขยายจิตนาการคนสร้างหนัง ฯลฯ

สิ่งที่คนทำหนังไทยต้องการจากรัฐบาลไทยก็คือ “ความเท่าเทียมกัน” ระหว่าง “คนทำหนังไทย” กับ “คนทำหนังต่างประเทศ” ทำไม รัฐบาลจึงด้อยค่าคนทำหนังไทย แต่เชิดชูคนทำหนังต่างชาติ เขียนแล้วก็นึกถึงข่าว “ฝรั่งเตะหมอ” ที่ทำให้คนไทยฮึกเหิมขึ้นมาทวงศักดิ์ศรีคนไทย หนังไทยก็เช่นเดียวกัน ถ้ารัฐบาลคืนเงินลงทุนเรื่องละ 20% ตามเงื่อนไขเดียวกับต่างชาติ หนังไทยจะผงาดในเวทีโลกได้อย่างงดงามแน่นอน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม