"บุณณดา" โฆษก ทส. ป้อง “พัชรวาท” รองนายกฯ และรมว.ทส. ลุยแก้ฝุ่น PM 2.5 เต็มที่ หลัง “สส.ก้าวไกล” อภิปรายตาม ม.152 พาดพิง มโน ใส่ร้าย ให้ข้อมูลเท็จ ถาม เป็นคนรุ่นใหม่ เหตุใดไม่ทำการเมืองสร้างสรรค์
วันที่ 5 เม.ย. 67 น.ส.บุณณดา สุปิยพันธุ์ โฆษกกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฝ่ายการเมือง) กล่าวถึงกรณี นายภัทรพงษ์ ลีลาภัทร์ สส.เชียงใหม่ พรรคก้าวไกล อภิปรายพาดพิง พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 ว่า จากการรับฟังการอภิปรายของ สส.ฝ่ายค้าน พรรคก้าวไกล ในประเด็นฝุ่น PM 2.5 เป็นการมุ่งเน้นโจมตีด้อยค่า โดยไม่มองถึงความพยายามในการแก้ไขปัญหา ในฐานะที่ พล.ต.อ.พัชรวาท เป็นประธานคณะกรรมการบริหารจัดการมลพิษทางอากาศ PM 2.5 อย่างยั่งยืน ท่านได้ทุ่มเทกำลังความสามารถในการทำหน้าที่ เรียกประชุมติดตามสถานการณ์กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกระยะ หรือแม้กระทั่งในสถานการณ์เร่งด่วน เช่น กรณีไฟป่าจากประเทศเพื่อนบ้านลุกลามเข้ามาทางด้านจังหวัดจันทบุรี ท่านก็รีบยกหูโทรศัพท์ไปสอบถามกับทางผู้ว่าฯ โดยตรง พร้อมกับสั่งการหน่วยงานนำเฮลิคอปเตอร์ไปช่วยภารกิจดับไฟจนสถานการณ์คลี่คลาย หรือหลายครั้งหลายคราท่านก็เดินทางลงพื้นที่ดูปัญหาฝุ่นในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งไม่ได้มีเพียงจังหวัดเชียงใหม่ที่เดินทางไป แต่ยังมี จ.น่าน จ.เชียงราย รวมถึงอีกหลายจังหวัดในภาคอื่นด้วย
“ท่าน สส.ภัทรพงษ์ เองก็เป็นคนรุ่นใหม่ เหตุใดไม่ทำการเมืองสร้างสรรค์ ยังยึดติดกับการพูดจาให้ร้าย ด้อยค่า กล่าวหาข้อมูลที่ไม่ใช่ความจริง หรือไม่ได้ทำข้อมูลเอง สักแต่พูดตามสคริปต์โดยไม่เช็กความถูกต้องก่อน ถ้าไปศึกษาให้ดีจะรู้ว่าท่านพัชรวาท เดินทางลงพื้นที่แก้ปัญหาไฟป่าทุกระยะ อีกทั้งประชุมกับหน่วยงานในพื้นที่ติดตามสถานการณ์ผ่านทางออนไลน์มาโดยตลอด ส่วนที่กล่าวหาว่ามีรัฐมนตรีลงพื้นที่ไปเชียงใหม่เฉพาะช่วงที่นายใหญ่มา อยากถามว่านายใหญ่ที่ท่านกล่าวถึงคือใคร อย่าพูดจากำกวมให้คนเข้าใจผิด พล.ต.อ.พัชรวาท ไปเชียงใหม่ก็เพื่อทำงานร่วมกับนายกฯ ที่ไปตรวจเยี่ยมไฟป่าหมอกควัน ในฐานะเจ้ากระทรวงที่รับผิดชอบเรื่องดังกล่าว ดังนั้น สส.ภัทรพงษ์ อาจจะจำรัฐมนตรีผิดกระทรวงหรือไม่ หรือตั้งใจโจมตีให้เกิดความเข้าใจผิดกันแน่” น.ส.บุณณดา กล่าว
...
น.ส.บุณณดา กล่าวว่า อย่างไรก็ตามปัญหาฝุ่นเป็นปัญหาเรื้อรัง มีต้นเหตุมาจากหลายปัจจัย นอกจากปัจจัยภายในประเทศแล้วก็ยังมีปัญหาหมอกควันข้ามแดนอย่างที่ทราบกันดี หรือแม้กระทั่งปรากฏการณ์เอลนีโญ ปัญหาโลกเดือด ส่งผลให้เกิดภัยแล้ง เมื่อแล้งมาก อากาศแห้ง ก็วนกลับมาที่ก่อให้เกิดปัญหาไฟป่าอีก ซึ่งเรามีมาตรการตรึงในพื้นที่ 11 ป่าอนุรักษ์ 10 ป่าสงวนฯ รวมทั้งมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตร จากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวกับการเผา เราพยายามแก้ปัญหาครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน แต่ก็ต้องอาศัยเวลา และความร่วมมือจากทุกฝ่ายเช่นกัน.