หลังจากเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลแบบไม่ลงมติระหว่าง 3-4 เม.ย.67 การเมืองคงจะลดดีกรีความร้อนแรงลงตามสภาพ
เนื่องจากสภาฯจะปิดสมัยประชุมในวันที่ 10 เม.ย. รัฐบาลคงจะเบามือทางการเมืองลงไปบ้าง สามารถเร่งมือทำงานเพื่อสร้างผลงานได้อย่างเต็มที่
ความจริงแล้วด้วยภาวะที่รัฐบาลมีเสียงสนับสนุนแน่นปึ้กอย่างนี้ ประเด็นทางการเมืองจึงไม่ใช่เรื่องใหญ่
อยู่ที่จะทำตัวเองให้เป็นปัญหาก็ช่วยไม่ได้
หลังจากหาทางออกด้วยค้นพบวิธีที่จะได้เงินมาดำเนินการโครงการประชานิยม “ดิจิทัลวอลเล็ต” ที่หาเสียงเอาไว้
ดูเหมือนจะทำให้แรงกดดันต่างๆที่ทับถมมาหลายเดือนเริ่มผ่อนคลายลงไปอย่างชัดเจน เห็นหน้าตานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่รับผิดชอบโดยตรง
ก็พอจะรู้แล้วว่า เอาทุกข์ออกจากอกไปได้
ก็ดูวันที่ 10 เม.ย. ที่จะแถลงความเป็นไปว่า จะเอาเงินจากแหล่งไหน วิธีการจะทำอย่างไร เริ่มต้นเมื่อใด
ที่สำคัญคือ ประชาชนจะได้รับเงินวันไหน แบบไหน
พูดง่ายๆว่า หากนโยบายนี้เดินหน้าต่อไปได้อย่างราบรื่นย่อมเป็นประโยชน์ทั้งในแง่เศรษฐกิจ และการเมืองโดยตรง
คือสามารถเรียกศรัทธาความเชื่อถือจากประชาชนได้อย่างสมบูรณ์ เพราะสามารถปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้
ไม่ต้องเสี่ยงคุกเสี่ยงตะราง หากต้องออก พ.ร.บ.เงินกู้ 6 แสนล้านบาท
ถือว่าเป็นผลงานของนายกรัฐมนตรีอย่างชัดเจน และตอกยํ้า ให้ “เพื่อไทย” เห็นว่าเขาทำได้ ควรสนับสนุนเขาให้อยู่ครบเทอม 4 ปี
นี่มันก็เป็นอย่างนี้แล...
อีกเรื่องที่กำลังร้อนๆอยู่ในมือรัฐบาลแล้วคือ “กาสิโน” ในรูปแบบสถานบันเทิงครบวงจรที่พูดกันมานานแล้วสำหรับประเทศไทย
แต่เป็นได้แค่ความหวังเท่านั้น
เนื่องจากมีทั้งกลุ่มที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะทัศนคติที่ต่างกันแต่ละครั้งดูเหมือนการดำเนินการต่างๆค่อนข้างจะเป็นรูปธรรมมากยิ่งขึ้น
...
เมื่อสภาฯมีการตั้งคณะทำงานเพื่อศึกษาเรื่องนี้อย่างเป็นเรื่องเป็นราว โดย กมธ.ชุดนี้ได้เสนอให้สภาฯพิจารณาจากผลการศึกษา และมีมติเห็นชอบด้วย โดยจะเสนอให้รัฐบาลรับไปพิจารณาต่อว่าจะเอาด้วยหรือไม่เอาด้วย
ปรากฏว่า นายกรัฐมนตรีโดดรับลูกทันที
ให้เหตุผลว่า จะทำให้เกิดผลดีที่จะมีรายได้จากเรื่องนี้ และยังทำให้เกิดแรงกระตุ้นในด้านการท่องเที่ยว และรองรับกิจการบันเทิงต่างๆที่รัฐบาลดำเนินการอยู่
ประเด็นสำคัญคือ เอาเงินจากใต้ดินขึ้นมาบนดิน
เพราะเมื่อทำถูกต้องตามกฎหมายก็จะทำให้รัฐมีรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ สามารถแก้ปัญหาการลักลอบเล่นการพนันอีกด้วย
ซึ่งจะเร่งนำเสนอให้ ครม.พิจารณาเพื่อให้นโยบายดำเนินไปอย่างรวดเร็ว เพราะสถานการณ์ทุกอย่างเอื้ออำนวย
ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่รัฐบาลเดินหน้าเต็มตัว
แต่จะไปได้ขนาดไหนอีกไม่นานได้รู้กัน!
“สายล่อฟ้า”
คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม