เหรียญย่อมมี 2 ด้าน การทำงานของรัฐบาลย่อมมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ ถ้าไม่ถูกใจก็เป็น “ข่าวร้าย” ถ้าถูกใจก็เป็น “ข่าวดี”!!

วันนี้ “แม่ลูกจันทร์” มีทั้งข่าวดี-ข่าวร้ายเกี่ยวกับราคาพลังงาน

คณะ กก.กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ลงมติตรึงค่าไฟฟ้างวดเดือนพฤษภาคมถึงเดือนสิงหาคมยูนิตละ 4.18 บาทเท่าเดิม

แม้ว่าต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นเพราะต้องนำเข้าก๊าซแอลเอ็นจีราคาแพงขึ้นกว่าที่ผ่านมา

และแม้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าช่วงหน้าร้อนจะเพิ่มขึ้นอีก 20 เปอร์เซ็นต์

รัฐบาลนายกฯเศรษฐา ทวีสิน ยอมกัดฟันยันค่าไฟฟ้าต่อไปอีก 4 เดือน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบพี่น้องประชาชน

ส่วนหนี้ที่ติดค้าง กฟผ.หนึ่งแสนล้านบาท รัฐบาลขอแปะไว้ก่อนชั่วคราว

“แม่ลูกจันทร์” กราบเรียนว่าการตรึงค่าไฟฟ้าไปอีก 4 เดือน ถือเป็นข่าวดีของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วหน้ากัน

นี่ก็มาถึงข่าวร้าย...ของผู้ใช้น้ำมันดีเซล

รัฐบาลนายกฯเศรษฐาได้ลดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซล จากลิตรละ 32 บาท เหลือลิตรละ 30 บาท มาแล้ว 6 เดือน

แต่ผลจากการบิดเบือนราคาน้ำมันต่ำกว่าความเป็นจริง

ทำให้รัฐบาลหมดแรงข้าวต้มไม่ สามารถอุ้มราคาน้ำมันดีเซลขายปลีก ไม่เกินลิตรละ 30 บาทอีกต่อไป

เหตุผลที่อุ้มต่อไปไม่ไหวมี 4 ประการดังนี้คือ...

1,ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกกระเด้งจาก 90 เหรียญต่อบาร์เรล เป็น 104 เหรียญต่อบาร์เรล

และกำลังจะกระโดดค้ำถ่อไปถึง 110 เหรียญต่อบาร์เรล

2,กองทุนน้ำมันที่กู้มาอุดหนุนน้ำมันดีเซล ติดลบบานทะโร่ใกล้ทะลุหนึ่งแสนล้านบาทเต็มเพดานวงเงินกองทุนน้ำมัน

จึงไม่สามารถกู้มาอุดหนุนราคาน้ำมันเพิ่มอีกต่อไป

...

3,ปัจจุบันรัฐบาลต้องควักกระเป๋าอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลสูงกว่า 4 บาทต่อลิตร ในขณะที่คนไทยใช้น้ำมันดีเซลวันละ 72 ล้านลิตร หรือ 2,200 ล้านลิตรต่อเดือน

รัฐบาลต้องแบกส่วนต่างราคาน้ำมันดีเซลสูงถึง 290 ล้านบาทต่อวัน หรือ 8,700 ล้านบาทต่อเดือน!!

4,มาตรการตรึงราคาน้ำมันดีเซล ทำให้การจัดเก็บภาษีสรรพสามิต ซึ่งเป็นรายได้หลักตกฮวบอย่างแรง

ถ้าขืนหลับหูหลับตาอุ้มราคาน้ำมันดีเซลต่อไปจะทำให้รายได้รัฐบาลโบ๋ไปอีกก้อนโต!

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่าข้อเสนอของกระทรวงพลังงาน คือ ขยับราคาน้ำมันขายปลีกน้ำมันดีเซล “แบบขั้นบันได”

ขยับจากลิตรละ 30 บาท เป็นลิตรละ 31 บาท และขยับเป็นลิตรละ 32 บาทในเดือนต่อไป

การปรับราคาน้ำมันดีเซลเพิ่ม 1 บาท จะทำให้ภาษีสรรพสามิตเพิ่มขึ้น 2,000 ล้านบาทต่อเดือน

“แม่ลูกจันทร์” ย้ำว่านี่คือ “ข่าวร้าย” ของผู้ใช้น้ำมันดีเซลที่จะต้องกลับไปใช้น้ำมันลิตรละ 32 บาทอย่างเดิม

ยกเว้น...นายกฯเศรษฐา จะยอมกัดฟันตรึงราคาน้ำมันดีเซลต่อไป เพื่อบรรเทาผลกระทบประชาชน

ยอมเทหมดหน้าตักเพื่อรักษามาตรการสำคัญของรัฐบาล

ยอมแบกหนี้ริดสีดวงบานเป็นกลีบมะไฟ เพื่อรักษาสัญญาจะลดราคาพลังงานเพื่อประชาชน

แบกหนี้ไม่กลัว...กลัวชาวบ้าน ด่าอย่างเดียว!!

“แม่ลูกจันทร์”

คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม