"จุลพันธ์" รมช.คลัง ยัน ข่าวดี เงินหมื่นบาทดิจิทัลวอลเล็ต เงินถึงมือประชาชน ไตรมาส 4 ปีนี้ ส่วนไตรมาส 3 วางแพลน เปิดให้ร้านค้าลงทะเบียน ขณะ 27 ม.ค. นัดหมาย บอร์ดดิจิทัลพิจารณา ขณะ 10 เม.ย. นัดประชุมกรรมการชุดใหญ่ ไทม์ไลน์จะยิ่งชัด เมินข้อหาไม่ตรงปก
วันที่ 25 มี.ค. ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 14.10 น. นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง แถลงข่าวความคืบหน้า โครงการดิจิทัลวอลเล็ต ว่า โครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมนัดหมายเข้าสู่คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ยืนยันไทม์ไลน์มีความชัดเจนขึ้นทุกวัน แต่เงินจะถึงมือพี่น้องประชาชนยังไกล
โดยวันแรก 27 มี.ค. นี้ จะมีการนัดกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ ทำเนียบรัฐบาล เพื่อนำข้อมูลมาสรุป โดยการส่งคำตอบจากหน่วยงานต่างๆ กลับมาอย่างครบถ้วน โดย 1. จะนำความคืบหน้ามารายงานในที่ประชุม 2. จะนำข้อเสนอแนะ ป.ป.ช.อย่างเป็นทางการ เข้าสู่ที่ประชุมรับทราบ และเอาปัญหาที่จะเกิดขึ้นมารายงานให้คณะกรรมการรับทราบ
...
และหลังวันที่ 27 มี.ค. นี้ ก็จะมีการรายงาน ให้คณะกรรมการชุดต่างๆ ได้หารือกัน เพื่อนำข้อสรุปทั้งหมด นำส่งให้คณะกรรมการดิจิทัลวอลเล็ตชุดใหญ่ วันที่ 10 เม.ย. นี้ แล้วจะสรุปข้อมูลทั้งหมดให้ ครม.พิจารณา เพื่อเดินหน้าโครงการ หลังจากนั้นจะมีการวางกรอบทำงานอย่างรอบคอบ ทั้งกรอบกฎหมาย-กรอบตัวเงิน เรากำหนดคร่าวๆ หลังวันที่ 10 เม.ย. รายไตรมาส 3 ปีนี้ (คาดหลัง ก.ค.) จะมีการเปิดให้ลงทะเบียนร้านค้า และภายในไตรมาส 4 ปีนี้ (คาดหลังเดือนต.ค.) เติมเงิน 1 หมื่นบาท ผ่านสู่มือพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างแน่นอน
นายจุลพันธ์ กล่าวต่อว่า ทุกอย่างรอให้มีมติคณะกรรมการชุดใหญ่ รอวันที่ 10 เม.ย. นี้ เพื่อให้มีข้อสรุปออกจากกรรมการชุดใหญ่ รัฐบาลยืนยัน เดินหน้าโครงการนี้อย่างแน่นอน จะทำให้เงินถึงมือประชาชนภายในไตรมาส 4 ปีนี้แน่ โดยยังยืนยันเงื่อนไข เดิมกรอบที่ 50 ล้านราย
"รอดูคณะกรรมการชุดใหญ่ประชุมแล้ว เดี๋ยวชัดเจน ยืนยันเงื่อนไขเงินดิจิทัลวอลเล็ต ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงเลย แต่รอผลสรุปจากที่ประชุมใหญ่ก่อนดีกว่า เพราะสรุปก่อน ผมก็พูดไม่ได้ เราไม่ถกเถียงเรื่องวิกฤติเศรษฐกิจตรงนั้นหรือไม่ แต่สถานการณ์เศรษฐกิจ เราต้องมีการกระตุ้นเศรษฐกิจให้เหมาะสม" รมช.คลังกล่าว
นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายงานความเห็น ป.ป.ช. ที่ได้ไปศึกษาไม่มีอะไรต่างจากเดิม ทำให้ไม่ต้องมีกระบวนการเพิ่มเติมในส่วนนั้น แต่ที่ต้องนำเข้าที่ประชุมชุดใหญ่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายซึ่งไม่มีอะไรติดขัด แต่จะให้ช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางอย่างเดียว คงไม่ทำแบบนั้น เพราะเรามีเป้าหมายกระต้นเศรษฐกิจไม่ใช่การเยียวยา
เมื่อถามว่า มีการตั้งข้อสังเกตว่า นโยบายดังกล่าวไม่ตรงปก ห่วงว่าจะทำให้เกิดปัญหาในอนาคตหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า เราไม่ห่วงประเด็นนี้เลย เพราะขณะนี้เป็นนโยบายของรัฐบาลที่มีการแถลงต่อรัฐสภา รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลผสมต้องหารือเพื่อหาจุดสมดุล สุดท้ายก็ออกมาเป็นลักษณะนี้
"ส่วนที่ทางวุฒิสภาสอบถามว่าเป็นการจูงใจให้เลือกหรือไม่ ก็คงต้องตอบว่าไม่ใช่ เพราะผ่านพ้นการเลือกตั้งมานานแล้ว แต่เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ส่วนที่พูดในสภาว่า จูงใจซื้อเสียง ก็ต้องถามกลับว่า นโยบายบัตรคนจนเป็นการเติมเงินให้ประชาชนหรือไม่ หรือแม้แต่นโยบายเพิ่มเงินผู้สูงอายุก็คงไม่ต่างกัน ดังนั้น เงินดิจิทัลฯจึงเป็นนโยบายรัฐที่ได้รับการประทับตรามาโดยประชาชนในระดับหนึ่ง ได้เข้าสู่รัฐสภาในการแถลงนโยบายแล้วเท่ากับดำเนินการครบถ้วน เราจึงต้องมีความรับผิดชอบต่อประชาชนในการเดินหน้าให้สำเร็จ" นายจุลพันธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมอีกหรือไม่ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นายกฯ มีการพูดคุยอยู่ตลอดอยู่แล้ว ซึ่งทุกคนทราบความคืบหน้าของโครงการ