เมื่อวานผมทิ้งท้ายฝากให้ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ช่วยติดตามควบคุมการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิผล เพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน ก็อยากจะย้ำตรงนี้กันอีกที หวังว่าท่านจะไม่ลืมคำพูดที่ได้ประกาศเอาไว้กลางห้องประชุมสภาผู้แทนราษฎร หลังมีมติผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ไปเรียบร้อย

เท่าที่คาดการณ์ งบประมาณปี 67 น่าจะผ่านกระบวนการขั้นตอนและมีผลบังคับใช้ราวๆกลางเดือน เม.ย.นี้ นั่นจะทำให้รัฐบาลมีเวลาที่จำกัดจำเขี่ย ที่จะใช้งบปั่นผลงานไม่ถึง 2 ไตรมาสดี นี่จะเป็นการวัดฝีมือรัฐบาลผสมภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย ที่มีนายกฯเศรษฐา เป็นผู้คัดท้ายเรือลำนี้

ท่ามกลางสารพัดปัญหาที่ถาโถม ทั้งวิกฤติเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์โลก ที่ปัญหารัสเซีย-ยูเครน กลับมาร้อนระอุอีกครั้ง รวมถึงปัญหาปากท้องของพี่น้องประชาชนคนไทย

นับจากนี้ รัฐบาลเพื่อไทยและนายกฯเศรษฐา ไม่สามารถยกเรื่องข้อจำกัดด้านงบประมาณ มาเป็นข้ออ้างในการบริหารราชการแผ่นดินได้อีกแล้ว ปัญหาสำคัญคือ จากนี้ไปรัฐบาลเพื่อไทยจะผลักดันนโยบายที่จะช่วยเสริมสภาพคล่องของประเทศได้อย่างไร โดยเฉพาะนโยบายเรือธงอย่าง โครงการเติมเงิน 1 หมื่นบาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ที่จนถึงทุกวันนี้ก็ยังถูกต่อต้านจากภาคส่วนต่างๆ

นี่ยังไม่รวมปัญหาภายในของรัฐบาลเอง ที่มีพรรคร่วมบางพรรคจ้องเตะสกัดทุกจังหวะที่มี ร่องรอยที่เห็นล่าสุดคือ ไอ้โม่ง ที่มีดีกรีเป็นแกนนำในพรรคร่วมรัฐบาล พยายามปล่อยข่าวจะมีการโหวตคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ก่อนจะถึงวันโหวต หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล มีการเปลี่ยนตัวนายกฯ จากคุณเศรษฐา ไปเป็น “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ

...

สุดท้ายแล้วกลายเป็นรถผ้าป่าพรรคร่วมคว่ำซะเอง ผลโหวตออกมาไม่มีใครกล้าแตกแถว เพราะรู้ๆกันอยู่ภายในงบฯ 3.48 ล้านล้านบาทนี้มันมีเงินปากถุงที่จะทอนให้กับผู้แทนฯด้วย ไม่มีใครทุบหม้อข้าวตัวเองแน่ แต่ “ลุง” ก็ดันหลงเคลิ้มไปแล้ว

เราลองมาดูผลสำรวจความเห็นของ นิด้าโพล กันหน่อย หลังรัฐบาลชุดนี้ใช้ช่วง “ฮันนีมูนพีเรียด” มา 6 เดือน ประชาชนผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่ 42.75% ยังหนุนคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกฯ ตามมาด้วยคุณเศรษฐา ที่ 17.75% และคุณ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร ตามมาห่างๆ 6% ส่วน “ลุงป้อม” โน่นมาอันดับ 8 ได้แค่ 1.05%

ขณะที่ความนิยมของพรรคการเมือง อันดับ 1 ยังเป็นก้าวไกล 48.45% ตามด้วยเพื่อไทย 22.10% รวมไทยสร้างชาติ 5.10% ประชาธิปัตย์ 3.50% พลังประชารัฐ 2.30%

เมื่อเทียบกับการสำรวจเมื่อช่วง ธ.ค.2566 ความนิยมของคุณพิธา เพิ่มขึ้นจาก 39.40% มาอยู่ที่ 42.75% ส่วนคุณเศรษฐาลดลงเหลือ 17.75% จากเดิม 22.35% แต่คุณแพทองธาร เพิ่มขึ้นจากเดิม 5.75% มาอยู่ที่ 6% เช่นกันกับความนิยมในตัวพรรค ที่ก้าวไกลได้เพิ่มขึ้น และเพื่อไทยลดลง

ยิ่งล้อกับกระแสข่าวว่า คณะทำงานของก้าวหน้า ได้มีการประชุมร่วมกับ โครงการอินเตอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) เตรียมเฟ้นหาตัวคนลงสมัคร สว. หลัง สว.ชุดนี้จะหมดวาระลง วันที่ 19 พ.ค.นี้แล้ว ตั้งเป้าส่งคนลงทุกพื้นที่ 100 คนทั่วประเทศ รอเปิดตัวกันในวันพรุ่งนี้ 27 มี.ค.

เบื้องต้นมีบุคคลที่มีชื่อเสียง ทั้งจากแวดวงนักวิชาการ สื่อมวลชน และนักเคลื่อนไหวทางการเมือง เท่าที่เปิดชื่อมาก็รู้จักมักคุ้นกันหลายคน มีวาระหลักคือเข้ามาขับเคลื่อนการแก้รัฐธรรมนูญปี 2560 และลดทอนอำนาจองค์การอิสระ ที่ถูกมองว่าเป็นปฏิปักษ์กับระบอบประชาธิปไตยสากล

แน่นอนว่าเกมนี้ฝ่ายผู้กุมอำนาจเองก็รู้ และพยายามหาทางสกัดทุกวิถีทาง ซึ่งฝ่ายสีส้มก็รู้ตัวดี จึงต้องออกตัวทำในนามคณะก้าวหน้า โดยจับมือกับทางไอลอว์ ซึ่งก็ต้องรอดูว่าเราจะได้เห็นกระบวนการเลือก สว. เสร็จสิ้นก่อน หรือว่าพรรคก้าวไกลจะถูกยุบก่อน เพราะแว่วว่า จะเร่งปิดจ๊อบยุบพรรคให้เร็วขึ้น ตามยุทธศาสตร์ของฝ่ายอำนาจนำ.

เพลิงสุริยะ

คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม