“มาย-อาโป” - “ฟรีนเบค” พร้อมผู้จัด เข้าพบ “เศรษฐา” รัฐบาลยันหนุนซีรีส์วาย-ยูริ ดันซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล พร้อมขอบคุณช่วยโชว์ศักยภาพประเทศ ฝากนำขนบธรรมเนียบประเพณี วัฒนธรรมไทย เผยแพร่ผ่านซีรีส์ให้คนได้รู้จักมากขึ้นด้วย
วันที่ 20 มีนาคม 2567 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมด้วย นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นำ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี คณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ และผู้บริหาร ผู้จัดทำและนักแสดงซีรีส์วายและยูริ คือ นายกฤษดา วิทยาขจรเดช ผู้บริหารบริษัท Be On Cloud ผู้จัดทำซีรีส์วายเรื่อง SHINE และ นายศุภพงษ์ อุดมแก้วกาญจนา ผู้บริหารบริษัท Idol Factory ผู้จัดทำซีรีส์ยูริเรื่อง ปิ่นภักดิ์ เข้าพบ นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อแลกเปลี่ยนทัศนคติและแสดงศักยภาพในการจุดประกายนำซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากล โดยมีนักแสดงนำของทั้งสองเรื่อง คือ นายภาคภูมิ ร่มไทรทอง หรือ มาย, นายณัฐวิญญ์ วัฒนกิติพัฒน์ หรือ อาโป, นางสาวสโรชา จันทร์กิมฮะ หรือ ฟรีน และนางสาวแพทรีเซีย อาร์มสตรอง หรือ เบคกี้ เข้าร่วมด้วย
...
นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญ ว่า นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี นพ.สุรพงษ์ พร้อมผู้บริหารซีรีส์วายและยูริ รวมทั้งนักแสดงนำทั้ง 2 เรื่อง ได้แลกเปลี่ยนทัศนคติ และแสดงศักยภาพการใช้ความร่วมมือระหว่างกระทรวงพาณิชย์ X ซีรีส์วาย ในการจุดประกายการนำซอฟต์พาวเวอร์ไทยสู่สากลได้อย่างเป็นรูปธรรม เป็นการแสดงทิศทางการใช้ซอฟต์พาวเวอร์สร้างมูลค่าให้เศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการนำศักยภาพที่หลากหลายด้านที่ไทยมีอยู่มาเผยแพร่และนำเสนอผ่านซีรีส์เรื่องดังกล่าวให้ชาวไทยและต่างประเทศได้รับรู้และรู้จักมากยิ่งขึ้น ทั้งด้านอาหาร ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ศิลปะ วัฒนธรรม ขนบธรรมเนียม ประเพณีอันดีงามของไทย และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งการนำเสนอผ่านซีรีส์ในลักษณะดังกล่าวจะช่วยส่งเสริมด้านการท่องเที่ยวของไทย และสามารถดึงดูดให้คนมาท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างๆ ได้เพิ่มมากขึ้น อันจะส่งผลให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจในระดับท้องถิ่นและฐานราก รวมถึงส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีที่ได้มาพบกับผู้บริหาร Be On Cloud เจ้าของซีรีส์เรื่อง SHINE และผู้บริหาร Idol Factory เจ้าของซีรีส์เรื่อง ปิ่นภักดิ์ และนักแสดงนำที่มาช่วยกระทรวงพาณิชย์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจในมิติใหม่ พร้อมขอบคุณรองนายกรัฐมนตรี รวมถึงผู้บริหาร ผู้จัดทำ นักแสดงทุกคนและทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง สำหรับความร่วมมือกับรัฐบาลและกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งการทำงานร่วมกันครั้งนี้รัฐบาลตระหนักถึงการเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนได้เข้าถึงและร่วมทำงานกับรัฐบาล เพราะรัฐบาลเป็นรัฐบาลของประชาชนที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ทั้งที่เป็นคนมีชื่อเสียงหรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป
ขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรี ยังย้ำด้วยว่า นอกจากนำเรื่องของอาหาร ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ มานำเสนอผ่านซีรีส์ ขอให้นำศักยภาพด้านขนบธรรมเนียบประเพณี วัฒนธรรมต่างๆ ของไทยเผยแพร่ผ่านซีรีส์ให้คนได้รู้จักมากขึ้นด้วย สำหรับการทำงานร่วมกันครั้งนี้ ถือเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นนิมิตหมายที่ดีที่จะมาช่วยกันทำงานเพื่อประเทศชาติ สอดคล้องกับนโยบายนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลในการเดินทางไปเยือนต่างประเทศ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ทั่วโลกได้รู้ว่าเวลานี้ประเทศไทยเราเปิดแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่จะดีไปกว่าเวลานี้ในการมาลงทุนในไทย รวมถึงการทำกิจกรรมอื่นๆ และการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยด้วย ซึ่งทุกคนถือเป็นอีกกลไกที่สำคัญที่ช่วยกันทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้
นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังได้โพสต์ภาพและข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ว่า “It’s Thai time! นี่คือเวลาของประเทศไทยครับ ไม่มีตอนไหนที่เหมาะจะลงทุนในไทย ค้าขายในไทย หรือท่องเที่ยวในไทย มากกว่าตอนนี้ครับ มีการคาดการณ์ว่าปี 67 มูลค่าการส่งออกของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ซีรีส์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง พุ่งถึง 1 หมื่นล้านบาท ก็ต้องขอขอบคุณกระทรวงพาณิชย์ ที่มีวิสัยทัศน์ที่นำเอานโยบายรัฐบาลมาปรับให้เป็นแนวในการทำงานที่ทันสมัย และขอบคุณเหล่าน้องๆ นักแสดง มาย-ภาคภูมิ, อาโป-ณัฐวิญญ์, ฟรีน-สโรชา และเบคกี้-รีเบคก้า ที่ช่วยกันโชว์สินค้า แหล่งท่องเที่ยว อาหาร รวมถึงศักยภาพอื่นๆ ของประเทศไทย ให้เป็นที่รู้จักในหมู่คนรุ่นใหม่ ทั้งผ่านทางซีรีส์ รวมทั้ง Social Media ที่มีฐานแฟนคลับกว่า 3 ล้านคน จาก 100 ประเทศทั่วโลกครับ”