ผลักดันสนามบินพะเยา “เศรษฐา” หวังดึงท่องเที่ยว “ธรรมนัส” ขอ 5 พันล. ลุย 172 โครงการ

“เศรษฐา” ลุยต่อ ครม.สัญจรพะเยา ลงพื้นที่เคาะทุ่ม 100 ล้านศึกษาสร้างสนามบินใหม่มูลค่า 3 พันล้านบาท “ธรรมนัส” นำชาวบ้านต้อนรับอบอุ่น อ้อนสนามบินเป็นความหวังยิ่งใหญ่ของคนพื้นถิ่น ชง ครม.ของบฯ 5 พันล้าน ตะลุย 172 โครงการพัฒนาพื้นที่ “นพดล” แก้ต่าง “ทักษิณ” ไปเชียงใหม่ไม่ได้หวังผลการเมือง แจงห่วงใยวิกฤติเศรษฐกิจ ไม่ใช่หาข้ออ้างดันดิจิทัล วอลเล็ต “โรม” ข้องใจอดีตนายกฯผิดศีลมุสาไม่ป่วยหนักจริง “สว.สมชาย” ซัดหลักฐานชัดป่วยทิพย์ บี้ ป.ป.ช.ไต่สวนฟันนายกฯกับ รมต.ช่วยเหลือเอื้ออภิสิทธิ์ “อุ๊งอิ๊งค์” เยือนกัมพูชาชื่นมื่น หารือนายกฯกัมพูชาสานสัมพันธ์แลกเปลี่ยน ส่งเสริมการค้าการลงทุน ท่องเที่ยวและวัฒนธรรมสองประเทศ “ฮุน มาเนต” ฝากความระลึกถึง “ทักษิณ” ก่อนพบฮุน เซน

แม้จะถูกสังคมจับตาและวิพากษ์วิจารณ์ว่ามุ่งเน้นการเดินสายต่างประเทศและลงพื้นที่เพื่อสร้างภาพ มากกว่าที่จะสร้างผลงานออกมาอย่างเป็นรูปธรรม แต่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ยังคงเดินหน้าทำงานหนักต่อไป ล่าสุดนายกฯนำ ครม.ไปประชุมสัญจรและลงพื้นที่ติดตามการพัฒนา จ.พะเยา

นายกฯลุยต่อลงพื้นที่ จ.พะเยา

เมื่อวันที่ 18 มี.ค.ที่ จ.พะเยา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ลงพื้นที่ จ.พะเยา เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) ครั้งที่สอง/ 2567 จ.พะเยาและติดตามการตรวจราชการในกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบนสองเชียงราย น่าน พะเยาแพร่ เชียงใหม่ ลำปาง ระหว่างวันที่ 18-19 มี.ค. เมื่อ เวลา 09.00 น. นายกฯเดินทางโดยรถตู้เลกซัสสีดำ ทะเบียน กบ 6868 เชียงราย ไป จ.พะเยา พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม ขณะขบวนรถนายกฯผ่านมาถึงจุดชมวิว อ.วังเหนือ ต.วังทอง หลักกิโลเมตรที่ 35 รอยต่อ 3 จังหวัด ลำปาง เชียงราย และพะเยา นายกฯได้ให้จอดรถลงไปดูไฟไหม้ป่าริมทางที่เจ้าหน้าที่กำลังเร่งฉีดน้ำสกัดกั้น พร้อมสอบถามเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงว่าเกิดจากก้นบุหรี่หรือไม่ เพราะดูลักษณะไม่น่าเกิดจากการเผาป่า ขณะเจ้าหน้าที่ชี้แจงว่าใช่ เหตุแบบนี้เกิดขึ้นเยอะ นายกฯย้ำว่าลักษณะนี้ไม่น่าจะเผาป่าใช่หรือไม่ คงเป็นอุบัติเหตุ

แวะดูดับไฟป่าคนมักง่ายทิ้งก้นบุหรี่

นายกฯกล่าวว่า การทิ้งก้นบุหรี่น่าจะเป็นข้อสันนิษฐานว่าทำให้เกิดไฟไหม้ป่าครั้งนี้ ไม่น่าจะใช่การเผาป่าหรือเศษวัชพืชแน่นอน เพราะเหตุเกิดอยู่ข้างทาง จุดที่เกิดมีสภาพแห้งมาก ใบไม้ร่วงเต็ม อยากให้ประชาชนทุกคนให้ความสำคัญด้วย แม้เป็นเรื่องเล็กๆน้อยๆ ความมักง่ายนิดๆหน่อยๆ แต่สร้างความเสียหายได้เยอะเหมือนกัน เจ้าหน้าที่กรมทางหลวงมีส่วนช่วยดับไฟป่า มีรถดับเพลิงของตัวเอง ขณะที่ปลัดกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่าเจ้าหน้าที่กรมทางหลวงจะออกตรวจตลอด ดูอุบัติเหตุ เมื่อได้รับแจ้งจะวิ่งมา นายกฯย้ำปลัดกระทรวงคมนาคม ช่วงนี้ขอให้ดูค่าล่วงเวลา สวัสดิการให้เจ้าหน้าที่ และการจัดสรรบุคคลต้องผลัดเปลี่ยนเวรยามกัน เพราะช่วงนี้อาจต้องทำงาน 24 ชั่วโมง และขอให้ช่วยดูการป้องกันด้วย

“ธรรมนัส” นำคนพะเยาต้อนรับอบอุ่น

ต่อมาเวลา 11.20 น.นายกฯพร้อมนายสุริยะ ลงพื้นที่หารือแผนการพัฒนาพื้นที่เป็นสนามบิน จ.พะเยา อ.ดอนศรีชุมและ ต. บ้านถ้ำ อ.ดอกคำใต้ มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ ในฐานะสส.พะเยา เขต 1 พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ต้อนรับ พร้อม น.ส.ธนพร ศรีวิราช ภริยา นายอนุรัตน์ ตันบรรจง สส.เขต 2 และนายจีรเดช ศรีวิลาศ สส.เขต 3 สส.พะเยา พรรค พปชร.รวมถึง พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.ที่มาดูแลความเรียบร้อย ระหว่างนายกฯลงพื้น ประชาชนมอบช่อดอกคำใต้ต้อนรับนายกฯ พร้อมชูป้ายต่างๆ เช่น คนพะเยาอยากได้สนามบิน เป็นกำลังใจให้นายกฯเศรษฐา ครึ่งชีวิตที่รอคอยสนามบินพะเยา จ้างย่ำนาพญาย่ำเมือง นายกฯเศรษฐาสู้ๆ

จากนั้นนายกฯรับฟังบรรยายสรุปแผนการพัฒนาพื้นที่เป็นสนามบิน จ.พะเยา และกล่าวกับประชาชนว่า มาดูความเป็นไปได้ที่จะศึกษาสร้างสนามบิน จ.พะเยา การยกระดับเมืองรองให้เป็นเมืองหลักคือการคมนาคม สนามบินต้องศึกษาให้ดี คำนึงถึงผลประโยชน์การลงทุนต้องคุ้มค่า แต่จะพยายามเต็มที่ เพื่อรองรับความเป็นไปได้การจะสร้างสนามบินแห่งนี้ ขอให้อดใจหน่อย อดทนนิดนึง จะได้ศึกษากันอย่างรอบคอบ ใช้เงินภาษีให้เหมาะสม เชื่อว่านายสุริยะและ ร.อ.ธรรมนัสอยากให้เกิดขึ้น จากนั้นนายกฯถ่ายภาพร่วมกับประชาชนก่อนเยี่ยมชมสินค้าโอทอป อุดหนุนน้ำผึ้ง 4 ขวด

พระให้มีกำลังใจทำงานเพื่อ ปชช.

ต่อมาเวลา 13.15 น.นายเศรษฐาไปสักการะพระเจ้าตนหลวงและนมัสการพระครูพิศาลสรกิจ เลขานุการเจ้าคณะจังหวัดพะเยา ณ วัดศรีโคมคำ ต.เวียง อ.เมืองพะเยา เพื่อความเป็นสิริมงคล โอกาสนี้พระครูพิศาลสรกิจได้มอบพระเจ้าตนหลวงองค์จำลองให้เป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรขอให้นายกฯปฏิบัติหน้าที่ด้วยความราบรื่น ก้าวผ่านทุกปัญหาไปให้ได้ ขอให้มีกำลังใจ กำลังกายทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติ

ตรวจจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก

จากนั้นเวลา 14.45 น. นายกฯเดินทางไปยังจุดผ่านแดนถาวรบ้านฮวก ต.ภูซาง อ.ภูซาง เพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและการพัฒนาพื้นที่ก่อสร้างที่ทำการด่านชายแดน CIQ ติดกับด่านสากลปางบอน เมืองคอบ แขวงไชยะบุรี สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว นายกฯรับฟังรายงานถึงการขอยกเว้นพื้นที่ป่าสงวน เพื่อขยายถนน 4 เลน และการเปิดด่านถาวร นายกฯกล่าวว่า จะทบทวนยกเลิกมติ ครม.ให้เข้าพื้นที่ได้ การสร้างด่านต้องให้เหมาะสมกับภาษีประชาชน พร้อมกล่าวกับประชาชนว่า ศักยภาพการค้าขายที่ด่านบ้านฮวก จุดยุทธศาสตร์สำคัญ รัฐบาลได้เจรจากับจีน ขอให้สร้างด่านกักกันโรคในไทย จะทำให้การส่งออกโคไปยังประเทศจีนคล่องตัวดีขึ้น จีนต้องการโคหลายแสนตัว การประชุม ครม.ที่ จ.พะเยาครั้งแรก จะมีเรื่องดีๆเกิดขึ้น เช่น การยกเว้นพื้นที่ป่าสงวนให้สร้างถนน 4 เลน ทำให้การขยายตัวการค้าระหว่างชายแดนดีขึ้น ส่งผลต่อผลิตภัณฑ์มวลรวม จ.พะเยา อีกเป็นหลายแสนล้านบาท รัฐบาลจะสนับสนุนและเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด

รับปากผลักดันสนามบินพะเยา

กระทั่งเวลา 16.50 น.นายกฯไปถึงอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง หน้ากว๊านพะเยา อ.เมืองพะเยา สักการะพ่อขุนงำเมือง ก่อนพบปะกับประชาชนว่า สัมผัสกับรอยยิ้มและการต้อนรับที่อบอุ่นจากพี่น้องชาวพะเยา เป็นเมืองน่าอยู่ ผู้คนน่ารัก จะขอมติ ครม.ให้ผ่อนปรนบางเรื่อง ขยายสาธารณูปโภค ร.อ. ธรรมนัสช่วยผลักดันให้มีตลาดส่งโคไปขายจีนได้นับแสนตัว ได้เห็นกว๊านพะเยาแหล่งเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือ ทิวทัศน์สวยงาม เห็นถึงศักยภาพที่แท้จริงดึงดูดนักท่องเที่ยว แต่จะยากถ้าเราไม่มีสนามบิน ช่วงเที่ยงได้ทานข้าวกับ รมว.คมนาคม รับปากจะผลักดันและศึกษาดูความคุ้มค่า รัฐบาลจะช่วยผลักดันให้เกิดขึ้นต่อไป ส่วนลิ้นจี่ส่งออกได้ ข้าวอินทรีย์ราคาข้าวสูงมาก ไม่ต้องพูดถึงราคายาง รมว.เกษตรฯ กระซิบ 90 กว่าบาทแล้ว แต่มีปัญหาอีกหลายเรื่อง ยาเสพติด หนี้สินต้องขจัดให้หมด

อู้คำเมืองหยอด “ฮักชาวพะเยาเน้อ”

นายกฯ กล่าวอีกว่า อีกเรื่องที่มาตรงเวลาคือปัญหาหมอกควัน PM 2.5 มาจาก จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 17 มี.ค.เป็นปัญหาใหญ่ หลายจังหวัดภาคเหนือประสบอยู่ หลายอำเภอหรือหลายจังหวัดติดท็อปเทนโลก และ จ.เชียงใหม่เป็นแม่เหล็กดึงดูดการท่องเที่ยวภูมิภาคนี้ติดท็อปเทน เราใส่ใจและพยายามแก้ไขกันอยู่ แต่ขอเรียนว่าปีนี้กับปีที่ผ่านมาตัวเลขต่างกันเยอะมาก หมอกควันลดลงไป 1 ใน 3 ถึง 2 ใน 3 ในบางพื้นที่ ต้องช่วยกันไม่ว่าจะไฟป่า เผาป่า เผาซากพืชผลเกษตรต่างๆช่วยกันดูแลอย่าให้เกิดขึ้นมา สุดท้ายนี้อยากบอกว่า “ฮักพี่น้องชาวพะเยาทุกคนเน้อ” จากนั้นนายกฯ ได้ปล่อยแม่พันธุ์ปลาบึกที่กว๊านพะเยา พร้อมถ่ายภาพร่วมกับ ร.อ.ธรรมนัสและคณะ

ต่อมาเวลา 17.10 น. นายกฯนั่งรถรางจากอนุสาวรีย์พ่อขุนงำเมือง ไปที่อุทยานการเรียนรู้พะเยา (TK Park) เยี่ยมชมบูธต่างๆ อาทิ บูธโรงเรียนเทศบาล 5 (แก้วปัญญาอุปถัมภ์) ตัวแทนนักเรียนแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว จ.พะเยา 3 ภาษา คือ ภาษาไทย อังกฤษและจีน บูธเทศบาล 2 (แม่ต๋ำดรุณเวทย์) สาธิตหุ่นยนต์และโดรนที่นักเรียนได้เขียนโค้ดใช้บังคับหุ่นยนต์ เยี่ยมชมห้องคิดส์โซน นายกฯทักทายเด็กๆ มีเด็กคนหนึ่งตะโกนขึ้นว่า “เคยเห็นนายกฯแต่ในทีวี วันนี้ได้เห็นตัวจริงแล้ว” พร้อมดูการฝึกอาชีพที่ห้อง Learning City ให้ชาวบ้าน ขณะที่กลุ่มผู้สูงอายุมาฝึกทำพวงมาลัยจากผ้าขาวม้ามอบให้ ก่อนขึ้นระเบียงชั้น 2 ชมวิวกว๊านพะเยา จากนั้นรับฟังการนำเสนอแผนพัฒนาโครงการและชมนิทรรศการผลิตภัณฑ์ชุมชนและโอทอป จ.พะเยา

หม่ำขันโตกปิ้งข้าวเกรียบว่าวโชว์

หลังจากนั้นนายกฯได้ร่วมทานอาหารเย็นที่ข่วงวัฒนธรรม หน้ากว๊านพะเยา จัดเป็นขันโตก อาทิ กุ้งฝอยทอดกว๊านพะเยา ข้าวเกรียบผัก ปลาส้มทอด แกงฮังเลหมู ลาบปลาเพี้ย แกงผักหวานไข่มดส้ม แกงอ่อมหมู ชุดน้ำพริกหนุ่ม น้ำพริกอ่อง ผักสด แคบหมู ไส้อั่ว ข้าวเหนียว และข้าวสวย แกงบวดฟักทอง กะละแมโบราณ สตรอว์เบอร์รีสด น้ำสมุนไพรเย็น ห่อนึ่งไก่ไร้กระดูก แล้วเยี่ยมชมร้านที่มาร่วมงาน ปิ้งข้าวเกรียบว่าวโชว์ โดยนายกฯจะพักค้างคืนที่ จ.พะเยา ก่อนวันที่ 19 มี.ค.นายกฯเป็นประธานการประชุม ครม.สัญจร และช่วงบ่ายมีกำหนดลงพื้นที่ จ.ลำปาง

“ทวี-สุทิน” จับมือแก้ยาเสพติด

ขณะที่เวลา 10.40 น. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ไปลงพื้นที่ที่ว่าการอำเภอเชียงแสน จ.เชียงราย เพื่อติดตามแก้ไขปัญหาสถานะบุคคลและสัญชาติ ระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคม พ.ต.อ.ทวีกล่าวว่า กระทรวงยุติธรรมยุคใหม่ยึดหลักการความยุติธรรมสำหรับทุกคน หรือความยุติธรรมนำประเทศ นำความยุติธรรมเข้าหาประชาชนอย่างทั่วถึงและถ้วนหน้า ไม่ใช่ให้ประชาชนเป็นผู้ที่ต้องเข้าหาความยุติธรรมเพียงฝ่ายเดียว จากนั้นได้มอบบัตรประจำตัวให้กับเด็กนักเรียน พระภิกษุสงฆ์ และกลุ่มชนเผ่ารวม 94 ราย จากนั้นเวลา 13.30 น. พ.ต.อ.ทวี ไปยังค่ายขุนเจืองธรรมิกราช มณฑลทหารบกที่ 34 (มทบ.34) จ.พะเยา ร่วมกับนายสุทิน คลังแสง รมว. กลาโหม ตรวจเยี่ยมศูนย์บำบัดฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติด มทบ.34 เพื่อรับฟังหาแนวทางแก้ไขปัญหายาเสพติด

อ้อนสนามบินความหวังคนพื้นที่

ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า ผวจ.พะเยาจะเสนอให้ ครม.พิจารณาขอใช้งบฯกว่า 100 ล้านบาทศึกษาและจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) โครงการท่าอากาศยานพะเยา งบฯก่อสร้างประมาณ 3,000 ล้านบาท หาก ครม.อนุมัติให้ทำ EIA จะดำเนินการทันที จ.พะเยาเป็นจังหวัดเดียวในภาคเหนือที่ยังไม่มีสนามบิน จะช่วยให้คน จ.พะเยา 5 แสนคนเดินทางสะดวกกว่าไปสนามบินเชียงรายหรือสนามบินลำปาง สนามบินน่าน และสนามบินแพร่ เชื่อมโยงการเดินทางกับลาว พม่าได้ด้วย ได้คุยเบื้องต้นกับสายการบินไทยแอร์เอเชียและบางกอกแอร์เวย์สไว้แล้ว ก่อนหน้านี้มีปัญหาพื้นที่ไม่เหมาะสม ไม่พร้อมในการจอดและการวิ่งของเครื่องบิน จากการศึกษาของกระทรวงคมนาคมเห็นว่า พื้นที่ดอกคำใต้เหมาะสมมากสุด ถือเป็นความหวังของชาวพะเยา ส่วนแผนการพัฒนากว๊านพะเยาที่ยังค้างอยู่ ได้เซ็นหนังสือเสนอวาระเข้าสู่การพิจารณา ครม.สัญจร วงเงิน 5,336.55 ล้านบาท จำนวน 172 โครงการ เป็นงบฯต่อเนื่องผูกพันปี 66-70

ย้ำหนักแน่น พปชร.ไม่มีปรับ ครม.

ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกระแสข่าวการปรับ ครม.ของพรรค พปชร.จะปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ว่า ไม่มี เมื่อถามถึงการอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เวทีการอภิปรายเป็นพื้นที่ให้เจ้ากระทรวงได้ชี้แจงข้อสงสัยกับประชาชนให้ได้รับทราบ เป็นเวทีปกติ ไม่ได้ตื่นเต้น เมื่อถามว่า การที่ฝ่ายค้านเตรียมอภิปรายประเด็นเกี่ยวข้องกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และส่วนตัวได้ไปพบมาด้วย ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า ไม่มีปัญหาชี้แจงได้

“ท็อป” เผย พท.ยังไม่ส่งสัญญาณ

ที่หน่วยพัฒนาและสงเคราะห์ชาวเขาปางปูเลาะ อ.แม่ใจ จ.พะเยา นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์ว่า พรรค ชพท.ยังไม่ได้รับสัญญาณการปรับ ครม. แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่มีการปรับ ครม. เพียงแต่ยังไม่มีสัญญาณจากพรรค พท. เมื่อถามถึงกรณีที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ร่วมทานข้าวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทำให้สังคมตั้งคำถามใครคือนายกฯตัวจริง ว่า เป็นสิ่งดีที่มีผู้ใหญ่มีศักยภาพในหลายมิติมาช่วยทำงาน นายกฯไม่ได้แปลว่าต้องรู้ทุกเรื่อง การมีที่ปรึกษาเป็นอดีตนายกฯเคยทำงานระดับนานาชาติ มาให้คำปรึกษาเป็นเรื่องที่ดี สองหัวดีกว่าหัวเดียว

“นพดล” แจง “ทักษิณ” ไม่ได้มุ่งการเมือง

นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล พาดพิงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่พูดว่าเศรษฐกิจขณะนี้แย่กว่าช่วงต้มยำกุ้ง ว่า สิ่งที่นายทักษิณให้สัมภาษณ์ที่ จ.เชียงใหม่ ในฐานะคนห่วงใยบ้านเมืองด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่ได้มีวัตถุประสงค์ทางการเมือง ไม่ได้ต้องการให้เห็นว่าเศรษฐกิจวิกฤติ เพื่อเป็นข้ออ้างผลักดันดิจิทัลวอลเล็ต ที่รัฐบาลจะดำเนินการ นายพิธาน่ารู้ดีว่าจุดแข็ง พท.เน้นเศรษฐกิจฐานราก ทุกนโยบายล้วนนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจฐานรากและลดความเหลื่อมล้ำ ความจริงนายพิธาเคยไปทำงานที่ทำเนียบรัฐบาล สมัยนายทักษิณเป็นนายกฯ น่าจะเข้าใจประเด็นนี้ดี

“ชูศักดิ์” ไล่ก้าวข้ามความขัดแย้ง

นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท.กล่าวว่า การตั้งคำถามเกี่ยวกับนายทักษิณ เพื่อให้เกิดความรู้สึกว่าความขัดแย้งยังมีอยู่ อยากให้ก้าวข้ามเรื่องพวกนี้ ขอให้ทุกคนคิดถึงเรื่องบ้านเมือง ฝุ่น PM 2.5 เรื่องเศรษฐกิจดีกว่า การจะมาตัดสินใจว่าไม่ป่วยจริง คำถามคือใครเป็นคนชี้ เป็นคนตัดสินใจ นายทักษิณไม่ได้ตัดสินใจเอง ไม่ได้บอกว่าป่วยหรือไม่ป่วย แต่คนตัดสินใจคือคนรับผิดชอบหรือคณะกรรมการ อยากให้ก้าวข้ามสิ่งเหล่านี้ อย่าเอามาเป็นประเด็นวนเวียนกับเรื่องนี้ ประเทศจะก้าวไม่พ้นอะไรสักที วนกลับไปที่เดิม

ยืดเวลา กมธ.นิรโทษกรรม 60 วัน

นายชูศักดิ์ ในฐานะประธานกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ. นิรโทษกรรม กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติขยายระยะเวลาศึกษาเพิ่มเติม 60 วัน เพื่อให้การศึกษาละเอียดรอบคอบ เพราะอีกไม่กี่วันจะปิดสมัยประชุม จากการเชิญบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลครั้งก่อน พบมีข้อมูลกว้างขวางเรื่องการกระทำที่จะนำมาสู่การนิรโทษกรรมในเหตุการณ์ต่างๆ ทำให้กมธ.ต้องการศึกษาอย่างละเอียด เช่น การชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ท้ายที่สุดก่อให้เกิดความผิดอะไรบ้าง มีข้อแตกต่างเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร ถือโอกาสขอขยายเวลาไปศึกษาให้ลึกซึ้งมากกว่าเดิม เดิมได้ถามกระทรวงยุติธรรม หน่วยงานอื่นมีคดีอะไรบ้าง มี 500 คดีข้อเท็จจริงแตกต่างกัน ไม่เหมือนกัน บางเรื่องเบา บางเรื่องหนัก ไม่เกี่ยวกับมูลเหตุจูงใจทางการเมืองยืนยัน กมธ.ไม่คิดยื้อเวลา เจตนาต้องการให้สำเร็จ แต่ต้องตอบปัญหาสังคมให้ได้มากที่สุด ไม่อยากทำลวกๆ ผิวเผิน อาจไม่ประสบความสำเร็จเหมือนที่ผ่านมา

วิป รบ.กำชับประชุมงบฯห้ามล่ม

ที่รัฐสภา นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรค พท. และรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯ ปี 67 วาระ 2-3 ในวันที่ 20-22 มี.ค.ว่า ได้กำชับองค์ประชุม เพราะการอภิปรายวาระ 2 อภิปรายและลงมติรายมาตรา หาก สส.รัฐบาลไม่อยู่ในห้องประชุม ฝ่ายค้านตรวจสอบองค์ประชุมจะเสียหายต้องรับผิดชอบ เป็นเรื่องยิ่งใหญ่ของคนที่เป็น สส. หากสภาฯล่มถือว่าขาดความรับผิดชอบอย่างรุนแรง

ไม่กังวลซักฟอกถล่ม “นายใหญ่”

นายครูมานิตย์กล่าวอีกว่า ส่วนการอภิปรายพาดพิงถึงอาการป่วยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่ได้ท้า แต่ข้อเท็จจริงคือนายทักษิณเป็นบุคคลภายนอก หากอภิปรายใส่ร้ายกันผิดข้อบังคับ ต้องประท้วงเพื่อชี้แจง ยืนยันไม่ได้หนักใจ แต่ไม่ใช่จะท้าทาย รัฐบาลพร้อมตอบทุกคำถาม ไม่ได้กังวล ไม่ถึงกับต้องตั้งวอร์รูมมาคอยดูแลเรื่องนี้ ส่วนการลงพื้นที่ของนายทักษิณ ยังประเมินอะไรไม่ได้ คนรักนายทักษิณแห่ไปให้กำลังใจกันมาก พิสูจน์ให้เห็น 17 ปี ไม่ได้จางหาย เป็นเรื่องปกติของความศรัทธา เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตอาการนายทักษิณหายเร็วเกินไป ไม่เชื่อนายทักษิณป่วย นายครูมานิตย์ตอบว่า แล้วแต่มุมมองแต่ละคน แต่คนอายุ 75 ปี สภาพร่างกายไม่ค่อยปกติธรรมดาเป็นเรื่องปกติ คนชอบให้ความเป็นธรรม คนไม่ชอบก็วิพากษ์วิจารณ์ทางลบ

“สมคิด” ดักคอห้ามลากไปนอกประเด็น

นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกฯ กล่าวว่า การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 วาระที่ 2-3 วันที่ 20-21 มี.ค. มั่นใจว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะเป็นงานสภาฯ ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันในการที่จะพิจารณาให้เป็นไปในทิศทางที่เรียบร้อย อยู่ในกรอบของงบฯ ไม่ควรจะมีอภิปรายนอกประเด็นงบฯ เพราะไม่เกิดประโยชน์กับฝ่ายใดเลย รัฐบาลบริหารงานมา 6 เดือนโดยไม่มีงบฯ หากงบฯผ่านสภาจะขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้นและแก้ปัญหาให้ประชาชนได้แน่นอน ส่วนการเปิดอภิปรายทั่วไปรัฐบาลโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 153 ของ สว.วันที่ 25 มี.ค. คาดหมายว่า สว.จะอภิปรายเพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาให้รัฐบาลนำไปแก้ไข ไม่ควรอภิปรายนอกประเด็น หรือมุ่งอภิปรายประเด็นนายทักษิณ ชินวัตรและ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ ไม่เกิดประโยชน์ ครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายของ สว. ควรใช้ให้เกิดประโยชน์กับประชาชน

“โรม” ข้องใจ “ทักษิณ” มุสาสังคม

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณี สส.รัฐบาลวิจารณ์ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค ก.ก.ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เรื่องไฟป่าไร้มารยาททางการเมืองว่า นายพิธาไปที่ไหนเป็นสิทธิ ไปช่วยดับไฟป่าเป็นเจตนาดี แทนที่จะว่านายพิธาทางที่ดีช่วยกระทุ้งรัฐบาลให้เอาจริงเอาจัง ไม่แน่ใจว่าสังคมมองกรณีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯลงพื้นที่อย่างไร แต่ตนถูกสอนมาว่าการโกหกไม่ควรทำในทางพุทธผิดศีล เชื่อว่าทุกศาสนากำหนดลักษณะเดียวกัน นายทักษิณบางวันมีเฝือกดามคอ บางวันถอด สรุปป่วยร้ายแรงหรือป่วยมากกว่านักโทษคดีการเมืองคนอื่นหรือไม่ โฆษกพรรค พท.แถลงว่าเป็นเส้นเอ็นเปื่อยยุ่ย อดีต รมว.ยุติธรรมระบุต้องพักรักษาตัวเวลานาน แต่สุดท้ายดูแข็งแรงดีนั่งยองๆคุยกับประชาชนได้ สังคมไทยต้องถามตัวเองว่ายอมรับได้แค่ไหนที่นักการเมืองพูดมุสา ขอให้นายทักษิณนำเอกสารการแพทย์มายืนยันด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปอ้างว่าเป็นข้อมูลส่วนบุคคล อย่ามาบอกว่าไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแล้ว เพราะการลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่คึกคักกว่านายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯเสียอีก

“บุ้ง” ร่อน จม.ซัด พท.ปลิ้นปล้อน

เฟซบุ๊กเพจ ทะลุวัง-ThaluWangโพสต์ข้อความระบุว่า เป็นจดหมายของ น.ส.เนติพร สเน่ห์สังคม หรือบุ้ง ทะลุวัง ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 หัวข้อ “จากเรือนจำสู่รัฐภายใต้เผด็จการ” ใจความตอนหนึ่งว่า “อยากพูดถึงคุณทักษิณและพรรคการเมืองที่แสนกลับกลอก ถึงจะอดอาหารเอาชีวิตและร่างกายแลก เพื่อให้กระบวนการยุติธรรมถูกปฏิรูปอยู่ ได้ข่าวจากการที่เพื่อนๆเล่าให้ฟัง ในสายตาบุ้งคุณทักษิณเป็นคนที่น่ารังเกียจเหลือเกิน ไม่ว่าจะเคยมีคุณงามความดีอะไร ตอนนี้เกียรติยศและศักดิ์ศรีของคุณ ไม่ต่างจากสิ่งมีชีวิตปรสิต ส่วนคุณอุ๊งอิ๊งน่าเสียดายเหลือเกิน คุณไม่จำเป็นต้องทำตามที่พ่อสั่งทุกอย่างก็ได้ คนของพรรค พท.รับปากกับบุ้งว่าการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมง่ายมาก จะเป็นสิ่งแรกที่พรรค พท.ทำ บุ้งดีใจมาก แต่สุดท้ายแล้วโลกของผู้ใหญ่ทำให้บุ้งผิดหวัง เมื่อพรรค พท.กลับกลอก ปลิ้นปล้อนอย่างหน้าไม่อาย บุ้งและเพื่อนๆผิดหวังเสียใจ หมดสิ้นซึ่งศรัทธา แต่ถึงกระนั้นความหวังที่จะทวงคืนความยุติธรรมให้คนเสื้อแดงและคนตากใบยังไม่หายไปหรอก บุ้ง ตะวันและแฟรงค์ จึงเอาชีวิตเข้าแลก”

จี้ราชทัณฑ์นำอดีตนายกฯเข้าคุก

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่กรมราชทัณฑ์ กลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ร่วมกับศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) และกลุ่มกองทัพธรรม 150 คน นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล เคลื่อนขบวนมาจากเวที คปท. สะพานชมัยมรุเชฐ ทำเนียบฯ มายื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมราชทัณฑ์ผ่านนายไพรัตน์ ขมินทกูล ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ ขอให้นำตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯมาจำคุก หนังสือระบุว่านับแต่วันที่ 22 ส.ค.66 นายทักษิณไม่เคยได้รับโทษจำคุก เพราะอยู่ รพ.ตำรวจโดยไม่มีอาการป่วยถึงขนาดที่ต้องนำตัวออกจากเรือนจำเร่งด่วน อันเป็นการช่วยเหลือนายทักษิณ และช่วงเวลาที่อยู่ รพ. 180 วัน ไม่อาจนับวันจำคุกตามกฎหมายได้

สว.ซัดหลักฐานชัดป่วยทิพย์

ที่รัฐสภานายสมชาย แสวงการ สว.กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลัง ลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ พร้อมนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯว่า เป็นปรากฏการณ์การเมืองที่สังคมตั้งคำถามมาก ถ้าดูจากพฤติการณ์ทั้งหมดทั้งการไปสถานที่ต่างๆ เสมือนเป็นนายกฯไปตรวจราชการ การจัดงานรื่นเริงสังสรรค์ที่ร้านอาหารและที่บ้านกับเพื่อน มีนายกฯ รัฐมนตรี ปลัดกระทรวง อธิบดี ตำรวจ ผวจ.ไปรายงานการปฏิบัติการต่างๆไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง เพราะนายทักษิณยังไม่พ้นโทษ ยังอยู่ในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่รออัยการจะพิจารณาสั่งฟ้องหรือไม่ จะกระทบความไม่เหมาะสมของบุคคลที่ดำรงตำแหน่งนายกฯ แต่ถ้านายทักษิณพ้นโทษแล้วเป็นอีกกรณีหนึ่ง จากคลิปวิดีโอทั้งหมดแสดงให้เห็นการหายป่วยของนายทักษิณเกือบ 100% หรืออาจป่วยไม่เยอะอย่างที่ระบุป่วยวิกฤติต่อเนื่องร้ายแรง จากการสอบถามจากแพทย์พูดเป็นเสียงเดียวกัน ถ้าดูจากในภาพข่าวนายทักษิณมีสุขภาพแข็งแรง 90% แต่อาการป่วยเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจหลงเหลืออยู่

บี้ ป.ป.ช.ลงดาบนายกฯ-รมต.

นายสมชายกล่าวว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช) ต้องตรวจสอบว่าข้าราชการเอื้ออำนวยต่อนายทักษิณหรือไม่ ต้องเร่งมือว่าจะมีมติให้ไต่สวนหรือไม่ ป.ป.ช.ควรมีมติไต่สวนเพิ่มเติมผู้รับผิดชอบคือ 1.นายกฯในฐานะผู้กำกับรัฐบาล 2.รมว.ยุติธรรม ปลัดยุติธรรม อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพ คณะกรรมการพักโทษใช้อำนาจหน้าที่อนุมัติไปรักษาตัวที่ รพ.ตำรวจ ตั้งแต่วันที่ 22 ส.ค.66 ด้วยระบบที่ถูกต้องหรือไม่ 3. กรมคุมประพฤติที่อนุญาตพักโทษคุมขังนอกเรือนจำ ในเงื่อนไข 8 ประการ มีกำหนดห้ามดื่มเหล้า แต่อนุญาตให้ดื่มไวน์ได้ รวมถึงการอนุญาตให้ไปไหว้สุสาน แต่กลับเป็นกำหนดการตรวจราชการ การเดินทางท่องเที่ยวพักผ่อนของนักโทษ ไปสวนสัตว์ไนท์ซาฟารี เปรียบเทียบกับบรรทัดฐานที่ปฏิบัติกับนักโทษรายอื่น สว.ตรวจสอบตรงไปตรงมา ไม่มีอคติ กรณีนายทักษิณกลับเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเห็นด้วย แต่กรณีเจ้าหน้าที่ทั้งนายกฯ ข้าราชการประจำ หากเอื้ออำนวยให้บิดเบี้ยวเสื่อมศรัทธาต่อกระบวนการยุติธรรม เกิดวิกฤติศรัทธาต่อระบอบประชาธิปไตย นำไปสู่วิกฤติศรัทธาในอนาคต จะนำเรื่องเข้าสู่กรรมาธิการวุฒิสภาต่อไป

อัดมุบมิบแบ่งเค้กไทย-กัมพูชาไม่ง่าย

นายคำนูณ สิทธิสมาน สว.กล่าวถึงการอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญโดยไม่ลงมติ ตามมาตรา 153 ว่า เตรียมอภิปรายการเจรจาแบ่งปันผลประโยชน์ขุมทรัพย์ใต้อ่าวไทย 20 ล้านล้านบาท กับกัมพูชา ชี้ให้เห็นมีข้อควรระวังอะไร การเจรจาแยกกันระหว่างการแบ่งปันผลประโยชน์กับการเจรจาแบ่งเขตแดนอันตรายอย่างไร ขัดเอ็มโอยู 2544 อย่างไร ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.ไปกัมพูชา ต้องให้ความเป็นธรรม ถือว่าการเจรจา ยังไม่เริ่มต้นขึ้น ต้องตั้งคณะกรรมการเจทีซีฝ่ายไทยขึ้น ไม่ใช่จะไปมุบมิบเจรจากันได้ง่ายๆ เข้าข่ายข้อตกลงตามรัฐธรรมนูญมาตรา 187 ต้องผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา ในทางปฏิบัติน่าจะอีกยาวพอสมควร

สว.นัดโหวต 26 มี.ค.เข็นงบฯ 67

นายคำนูณยังกล่าวถึงการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67ว่า สัปดาห์นี้เป็นการทำงานสัปดาห์สุดท้ายของคณะ กมธ.วิสามัญพิจารณาศึกษาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 วุฒิสภา เพื่อให้ประธานวุฒิสภาบรรจุเข้าสู่ระเบียบวาระวันที่ 26 มี.ค.กำลังรวบรวมรายชื่อสว.ที่จะร่วมอภิปรายอยู่ คาดว่าจะลงมติให้แล้วเสร็จช่วงค่ำวันที่ 26 มี.ค. ข้อมูลที่จะอภิปรายของ สว.ใกล้เคียงกับของสส. กมธ.จะรวบรวมการเปลี่ยนแปลงงบฯทั้งหมดภายในสัปดาห์นี้ เพื่อนำรายละเอียดเสนอต่อสมาชิก ส่วนใหญ่เป็นเพียงข้อสังเกตเท่านั้น ขณะนี้ล่วงเลยมาจะครึ่งปีแล้ว งบฯที่ใช้อยู่ใช้ปี 66 ไปพลางก่อน เมื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 67 เสร็จอีกไม่กี่เดือน ร่าง พ.ร.บ.งบฯปี 68 จะเข้าสู่รัฐสภา ทุกฝ่ายพยายามให้ความร่วมมือพิจารณาให้เร็วที่สุด ให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไป

“อุ๊งอิ๊งค์” ยกทีมเยือนกัมพูชา

วันเดียวกัน ที่ประเทศกัมพูชา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรค พท.และรองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ เดินทางไปเยือนประเทศกัมพูชาตามคำเชิญของสมเด็จอัครมหาเสนาบดี เดโชฮุนเซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา และอดีตนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา มีนายฮุน มานี รมว.ข้าราชการพลเรือน กัมพูชา รอให้การต้อนรับที่สนามบิน จากนั้นไปยังวิมานสันติภาพ ทำเนียบรัฐบาลกัมพูชา เข้าพบสมเด็จมหาบวรธิบดี ฮุน มาเนต นายกฯกัมพูชา น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เป็นเกียรติอย่างมาก และตั้งใจอย่างเต็มที่ที่จะทำงานร่วมกับพรรคของสมเด็จฮุน เซน และรัฐบาลสมเด็จฮุน มาเนต เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างไทย-กัมพูชาให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ในฐานะรองประธานคณะกรรมการพัฒนาซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ได้หารือถึงกลไกต่างๆที่มีอยู่ เพื่อการแลกเปลี่ยนส่งเสริม เศรษฐกิจ การค้า การลงทุน วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญขอสนับสนุนโครงการ ASEAN Drive Tourism ที่ริเริ่มโดยรัฐบาลไทยภายใต้แนวคิด “6 Countries One Destination” ระหว่างไทย กัมพูชา ลาว มาเลเซีย เวียดนาม และเมียนมา นอกจากนี้ยังได้หารือถึงปัญหาฝุ่น PM2.5 ในภูมิภาคอาเซียน ด้วยความร่วมมือระหว่างพรรคต่อพรรค

“ฮุน มาเนต” ฝากระลึกถึง “ทักษิณ”

ด้านสมเด็จฮุน มาเนต กล่าวว่า ยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าพรรค พท.ของ น.ส.แพทองธาร และยินดีต่อการกลับมาของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ฝากความระลึกถึงด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพรรค พท.และพรรคประชาชนกัมพูชา มีความใกล้ชิดกันมายาวนาน ยินดีอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสต้อนรับ น.ส.แพทองธารและคณะ ที่ผ่านมาได้พบหารือนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง หลายครั้ง และได้จัดตั้งแนวทางการทำงานพิเศษ (Special Working Mechanism) ระหว่างกัน เพื่อให้แก้ไขปัญหาต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการทำงานร่วมกันตามแนวชายแดนให้เกิดสันติภาพเพื่อส่งเสริมการค้าชายแดน การลงทุน และการท่องเที่ยว

หารือหม่ำมื้อเย็นกับ “ฮุน เซน”

ต่อมาช่วงเย็น น.ส.แพทองธาร และคณะได้เดินทางไปที่อาคาร 7 Makara Palace สถานที่ตั้งที่ทำการพรรคประชาชนกัมพูชา เพื่อหารือร่วมกับสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโชฮุน เซน หรือสมเด็จฮุน เซน ประธานคณะองคมนตรีกัมพูชา อดีตนายก รัฐมนตรีกัมพูชาในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา จากนั้นสมเด็จฮุน เซน ได้เป็นเจ้าภาพจัดงานเลี้ยงรับรองอย่างเป็นทางการให้แก่ น.ส.แพทองธารและคณะ

ชูท่องเที่ยว 2 ประเทศ 1 ปลายทาง

วันเดียวกัน สำนักข่าวพนมเปญ โพสต์ของกัมพูชา รายงานด้วยว่า น.ส.แพทองธารได้เข้าหารือกับ นายเจียม เยียบ รองประธานรัฐสภากัมพูชาคนที่ 1 ในกรุงพนมเปญ นายเจียมกล่าวว่า การเยือนครั้งนี้ จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองพรรครัฐบาลกัมพูชา-ไทย ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทั้งเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสองรัฐสภาชาติเพื่อนบ้าน พร้อมขอเสนอแนะให้ร่วมกันพัฒนาประสิทธิภาพของช่องทางการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวกัมพูชา-ไทย ภายใต้ชื่อ “สองประเทศ หนึ่งปลายทาง” ขณะที่ น.ส.แพทองธารสนับสนุนข้อเสนอของนายเจียม

คำร้อง กกต.ยุบ ก.ก.ถึงศาล รธน.แล้ว

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง ได้รับมอบหมายจาก กกต.ให้เป็นผู้ยื่นคำร้องและดำเนินคดีแทน กกต.ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้พิจารณาสั่งยุบพรรค ก.ก.และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรคตาม พ.ร.ป. พรรคการเมืองมาตรา 92 วรรคหนึ่ง (1) และ (2) มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรค ก.ก.กระทำการล้มล้าง และกระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยยื่นผ่านระบบอิเล็ก ทรอนิกส์ E-filing ตามระบบศาลรัฐธรรมนูญไปแล้วเมื่อช่วงก่อนเที่ยงวันที่ 18 มี.ค. อย่างไรก็ตาม ต้องรอดูว่าในวันพุธที่ 20 มี.ค.ที่ประชุมคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญประจำสัปดาห์ ทุกวันพุธจะมีคำร้องดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาหรือไม่ และจะมีคำสั่งรับคำร้องนี้ไว้วินิจฉัยหรือไม่

ยื่นอุทธรณ์เชือดยกครัว “พลซื่อ”

เว็บไซต์สำนักงาน กกต.เผยแพร่คำวินิจฉัย กกต.มีมติให้ยื่นคำร้องต่อศาลอุทธรณ์ หรือศาลอุทธรณ์ภาค เพื่อสั่งเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง (ใบดำ) หรือเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง (ใบแดง) ของนางรัชนี พลซื่อ สส.ร้อยเอ็ด เขต 3 พรรค พปชร. จากเหตุเมื่อครั้งลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นนายก อบจ.ร้อยเอ็ด ปี 2565 กระทำผิด พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 108 วรรคสอง พร้อมดำเนินคดีอาญากับนางรัชนี, นายเอกภาพ พลชื่อ อดีต สส. ซึ่งเป็นสามี และนายเอกรัฐ พลชื่อ บุตรชาย ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองประจำสำนักเลขาธิการนายกฯตาม พ.ร.บ.สมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น 2562 มาตรา 65 (2) ประกอบมา ตรา 126 กรณีพากันไปร่วมงานวันกำนันผู้ใหญ่บ้านเมื่อวันที่ 10 ส.ค.65 ใน 7 อำเภอ และมอบเงินสนับสนุนการจัดกิจกรรมให้แก่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอละ 10,000 บาท

ศาลสั่ง “เอ๋” ชดใช้ ลต.ซ่อม 7.6 ล้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 11 มี.ค. ศาลจังหวัดราชบุรี มีคำบังคับให้ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ อดีต สส.ราชบุรี เขต 3 ชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อม สส.ราชบุรี เขต 3 ให้กับสำนักงาน กกต.ผู้ยื่นฟ้องคดี จำนวน 7,673,243.38 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงิน 7,251,091.21 บาท นับถัดจากวันฟ้องวันที่ 19 ก.ค.66 ภายใน 30 วัน นับแต่วันได้รับคำสั่ง ถ้าไม่ปฏิบัติตามภายในระยะเวลาหรือเงื่อนไข ต้องถูกยึดทรัพย์หรือถูกจับและจำขัง ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ทั้งนี้ศาลปิดหมายคำสั่งดังกล่าวเมื่อวันที่ 16 มี.ค.67 หลังไม่มีผู้รับโดยชอบ โดยคำบังคับชดใช้ค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมดังกล่าวสืบเนื่องมาจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองพิพากษา น.ส.ปารีณาฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเข้ายึดถือครอบครอง และทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนโดยมิชอบ ในพื้นที่หมู่ 6 ต.รางบัว อ.จอมบึง จ.ราชบุรี จำนวน 711-2-93 ไร่ และสั่งให้พ้นจากตำแหน่ง สส.

เด็ก มธ.แต่งดำค้านขัง “ตะวัน-แฟรงค์”

เมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศาลอาญา นายนัสรี พุ่มเกื้อ ตัวแทนสภานักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ ร่วมกับองค์การนักศึกษา ม.ธรรมศาสตร์ คณะกรรมการนักศึกษาประจำคณะและชุมนุม แต่งกายชุดดำ ยื่นคำ แถลงคัดค้านการฝากขัง น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือตะวัน และณัฐนนท์ ไชยมหาบุตร หรือแฟรงค์ 2 ผู้ต้องหาในคดีมาตรา 116 ที่ฝ่ายงานสารบรรณ นายนัสรีกล่าวว่า มายื่นคำแถลงไม่คัดค้านการปล่อยชั่วคราว และขอให้ศาลไม่รับฝากขังทานตะวัน กับแฟรงค์ รัฐธรรมนูญมีหลักที่ว่าให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าบุคคลคนนั้นไม่ใช่ผู้กระทำผิด ทุกคนมีสิทธิ์ได้ประกันตัว จึงมายื่นแสดงเจตนารมณ์ว่าเพื่อนของเรา รวมถึงนักโทษการเมืองทั้งหมดไม่จำเป็นต้องไปอยู่ในคุก การคลี่คลายเรื่องนี้คือการนิรโทษกรรม เพื่อนเรากำลังต่อสู้อดอาหาร ข้อเรียกร้องหลักคือปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ไม่ควรมีใครต้องถูกจำคุก เพราะแสดงความคิดเห็นทางการเมือง วันที่ 21 มี.ค.จะจัดกิจกรรม Sing for life เชิญชวนคนใกล้ตัวผู้ต้องขังทางการเมืองมาร่วมร้องเพลง

อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่