“นายกฯ นิด” เผยข่าวดี มาเลเซียเตรียมสั่งยางพาราจากไทยเพิ่ม คุยเปิดพื้นที่เสริมเศรษฐกิจชายแดน ความร่วมมืออาหารฮาลาล รวมถึงแก้อุปสรรคตั๋วเครื่องบินแพง ให้ประชาชนทั้ง 2 ประเทศเดินทางไปมาหาสู่ได้ดียิ่งขึ้น
วันที่ 5 มีนาคม 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยหลังการหารือทวิภาคีผู้นำประเทศต่างๆ และการพบผู้บริหารบริหารบริษัทชั้นนำออสเตรเลีย ระหว่างเข้าร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-ออสเตรเลีย สมัยพิเศษ ที่นครเมลเบิร์น ว่า การหารือกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีการพูดคุยกันเรื่องจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้เล่าให้ฟังว่า สัปดาห์ที่แล้วตนลงพื้นที่ จ.ปัตตานี จ.ยะลา และ จ.นราธิวาส พูดถึงการเปิดพื้นที่ชายแดนเพื่อส่งเสริมให้เศรษฐกิจชายแดน และการเดินทางไปมาหาสู่ ระหว่างประชาชนทั้ง 2 ประเทศดียิ่งขึ้น
ส่วนเรื่องการท่องเที่ยว จะมีการส่งเสริมความร่วมมือท่องเที่ยวเชื่อมโยง 6 ประเทศ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวของทุกประเทศเห็นด้วย และจะนำมาพูดคุยต่อยอดอีกครั้ง ขณะนี้แต่ละประเทศเริ่มต้นดำเนินการแล้ว รวมถึงพูดคุยเรื่องตั๋วเครื่องบินที่มีราคาแพงซึ่งเป็นอุปสรรคเช่นเดียวกัน และความร่วมมือเรื่องอาหารฮาลาล โดยสำนักงานฮาลาลของทั้ง 2 ประเทศจะมาพูดคุยกัน และงาน ITB ที่เยอรมนี ที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ซึ่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซียไม่เคยทราบมาก่อนว่ามีการจัดงานนี้
ดังนั้น ตนเองจะไปร่วมงานและจะแชร์ข้อมูล เพราะมาเลเซียก็อยากโปรโมตเรื่องการท่องเที่ยวเช่นกัน ส่วนการประชาสัมพันธ์จะเป็นรูปแบบภูมิภาคหรือไม่นั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า จะเน้นที่ประเทศไทยก่อน และตรงไหนที่สามารถช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านได้ก็ยินดี สำหรับไทยและมาเลเซีย ได้ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยวระหว่างกันมานาน โดยไทยไปมาเลเซีย ร้อยละ 10 ส่วนมาเลเซียมาไทย ร้อยละ 90 จึงอยากส่งเสริมให้คนไทยไปเที่ยวมาเลเซียให้มากขึ้น เพราะเป็นประเทศเพื่อนบ้านกัน
...
นายกรัฐมนตรี กล่าวต่อไปว่า ได้พบเจอกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียบ่อยครั้ง และวันนี้ก็เป็นการติดตามงานแต่ละโครงการ ขณะเดียวกันก็ได้พูดคุยถึงเรื่องยางพารา ที่มาเลเซียนำเข้าจำนวนมาก เพราะมีโรงงานผลิตถุงมือและถุงยางอนามัยเป็นจำนวนมาก จึงได้ประสานเจ้าหน้าที่กระทรวงพาณิชย์ ให้ติดต่อการขายยางให้กับมาเลเซีย ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดี โดยขณะนี้ราคายางพาราค่อนข้างสูง เพราะในสต๊อกมีจำนวนน้อย แต่หากทราบออเดอร์ล่วงหน้าก็จะสามารถรักษาราคาที่ต้องการขายไว้ได้
นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียเรื่องฟุตบอล ที่หลานของท่านเชียร์ทีมอาร์เซนอล ซึ่งเมื่อคืนก็แฮปปี้ เพราะชนะ 6-0 ซึ่งตนเคยเจอหลานๆ ของท่านแล้วพูดคุยกันเรื่องฟุตบอลอย่างสนุกสนาน ส่วนจะมีโอกาสได้เล่นฟุตบอลด้วยกันหรือไม่ นายกรัฐมนตรีมาเลเซียส่วนตัวไม่ไหว เพราะอายุ 70 ปีแล้ว แต่ตนก็คงมีโอกาสได้เล่นกับหลานของท่าน คงจะสนุกสนาน เพราะหลานของท่าน 4-5 คน เป็นแฟนของทีมอาร์เซนอลทั้งหมด
นายเศรษฐา เปิดเผยอีกว่า วันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้พบหารือกับนายกรัฐมนตรีแห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ซึ่งไม่ค่อยมีโอกาสได้พบกันบ่อยเท่ากับนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย แต่เจอกันบ่อยขึ้นก็จะผูกพันกันมากขึ้น และพร้อมผลักดันความร่วมมืออย่างเต็มที่ ซึ่งวันนี้เป็นการหารือกลุ่มเล็ก (4-eyed) เพราะเราเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง อีกทั้ง จะได้หารือกับนายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย พูดคุยเรื่องการค้าการลงทุน การแลกเปลี่ยนระหว่างประชาชนกับประชาชน รวมถึงเรื่องเหมืองแร่ ที่ออสเตรเลียสนใจจะไปลงทุนในไทย ตลอดจนเรื่องการศึกษาและเกษตรแม่นยำ
ทั้งนี้ ในระหว่างเดินชมเมือง นายกรัฐมนตรียังได้โชว์ถุงเท้าลายโคอาล่า ซึ่ง พล.อ.เดวิด เฮอร์ลีย์ ผู้สำเร็จราชการแห่งเครือรัฐออสเตรเลีย มอบให้เป็นของขวัญ จำนวน 2 คู่ ระหว่างเดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในระหว่างวันที่ 13-17 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดยอีกหนึ่งคู่เป็นลายกิ้งก่าและจิงโจ้ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของออสเตรเลีย โดยวันพรุ่งนี้ (6 มีนาคม 2567) จะดูชุดที่สวมว่าเหมาะสมที่จะใส่ถุงเท้าลายกิ้งก่าและจิงโจ้หรือไม่.