ดีเดย์ 1 มี.ค. 2567 นายกฯ “เศรษฐา” ประกาศนำไทยสู่ศูนย์กลางการบินการขนส่งของภูมิภาค ชูความพร้อมสนามบินเมืองรอง เปิดเส้นทางการบินแห่งใหม่ เชื่อ เป็นอีกเครื่องยนต์สำคัญพัฒนาเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด 

วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2567 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่าน X (ทวิตเตอร์) และเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ระเบิดศักยภาพประเทศไทย ท่าอากาศยานไทยนำโดยกระทรวงคมนาคมขานรับนโยบาย ตั้งเป้าหมายศูนย์กลางการบินของโลก (Aviation hub) และเป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าแห่งภูมิภาคที่ใหญ่ที่สุด 1 ใน 5 ของโลก ร่วมฟังแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางการบินการขนส่งของภูมิภาค พร้อมกันทั่วประเทศ ในวันที่ 1 มีนาคม 2567 เวลา 09.30 น.”

ต่อมา นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีประกาศตั้งเป้าให้ไทยเป็นที่ 1 ของภูมิภาค โดยระบุวิสัยทัศน์ในการพัฒนาอุตสาหกรรม 8 ด้าน และหนึ่งในนั้นคือ ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน (Aviation Hub) โดยนายกรัฐมนตรีจะแถลงถึงแผนพัฒนาการเป็นศูนย์กลางการบินของภูมิภาคในวันที่ 1 มีนาคม 2567 พร้อมกันนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขานรับแนวทางการทำงานของรัฐบาล โดยได้ส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมการบินของไทย พร้อมนำเสนอศักยภาพการให้บริการของสนามบินหลากหลายแห่งในเมืองรอง ผ่านการจัดงาน AIR-MAZING THAILAND : THE AMAZING AIRLINE FAM TRIP ระหว่างวันที่ 2-5 เมษายน 2567 เพื่อสำรวจศักยภาพและความพร้อมของสนามบินนานาชาติ รองรับจำนวนและอำนวยความสะดวกการขนส่งนักท่องเที่ยวไปยังทุกพื้นที่ 

นายชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเห็นถึงการดึงศักยภาพของไทย ผลักดันให้เป็นศูนย์กลางการบิน ด้วยการกระตุ้นไปที่ข้อต่อแก้ไขจุดอ่อน อำนวยความสะดวกให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมการบิน รวมถึงต้องการส่งเสริมจุดแข็ง ที่ไทยอยู่ในภูมิศาสตร์ที่เป็นประโยชน์ สามารถเดินทางไปยังศูนย์กลางเศรษฐกิจทั่วโลก มียุทธศาสตร์เมืองหลัก เมืองรอง ที่สามารถต่อยอดเป็นจุดศูนย์กลางการเดินทาง และในโอกาสนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้รับลูกต่อจากนโยบายดังกล่าวดำเนินการจัดงาน AIR-MAZING THAILAND : THE AMAZING AIRLINE FAM TRIP เพื่อนำเสนอกิจกรรมการเดินทางสำรวจศักยภาพและความพร้อมของสนามบินนานาชาติในไทย 

...

โดยมีการเชิญชวนผู้ประกอบการสายการบินพันธมิตร ร่วมสำรวจ เพื่อสร้างโอกาสในการเจรจาธุรกิจระหว่างสายการบินและผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่ ถือเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์ถึงความพร้อมของสนามบินหลากหลายแห่งในเมืองรอง ในการรองรับเที่ยวบินจากต่างประเทศ การจัดสรรช่วงเวลาบิน (Slot) รวมทั้งมีความพร้อมในการเปิดเส้นทางการบินแห่งใหม่ ซึ่งจากการรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการ พบว่ามีผู้ประกอบการสายการบินให้ความสนใจกว่า 30 สายการบิน มากกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 15 สายการบิน แสดงถึงศักยภาพและความพร้อมในการเป็นศูนย์กลางทางการบินในภูมิภาคของประเทศไทย

อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีเห็นถึงความพร้อม ศักยภาพของไทย ในการเป็นศูนย์กลางการเดินทางระดับภูมิภาค โดยรัฐบาลจะสนับสนุนในส่วนที่เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าจะเป็นอีกเครื่องยนต์สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างก้าวกระโดด เพราะการสนับสนุนการเป็นศูนย์กลางการบิน นอกจากจะมีประโยชน์ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวแล้ว ยังต่อยอด ผลักดันความก้าวหน้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านอื่นอีกด้วย.