“เอ้ สุชัชวีร์” ฝากนายกฯ อย่าเร่งแก้ปัญหารถติด ถ.พระราม 2 แบบฉาบฉวย ห่วงประชาชน หวั่นเกิดอุบัติเหตุซ้ำทำคนเจ็บ-ตาย ลั่น ต้องยึดมาตรฐานความปลอดภัย
วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2567 ศ.ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กทม. แสดงความคิดและแสดงความเป็นห่วงในการเร่งแก้ปัญหาก่อสร้างถนนพระราม 2 หลัง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ระบุ จะติดตามและเร่งรัดโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ที่ล่าช้า ซึ่งสร้างปัญหาให้กับผู้สัญจรไปมาและนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะถนนพระราม 2 ที่ก่อสร้างล่าช้า กลายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวหัวหินน้อยลง ซึ่งจะเร่งแก้ปัญหาเพื่อให้สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้นก่อนเทศกาลสงกรานต์นี้
ศ.ดร.สุชัชวีร์ ระบุว่า รู้สึกเป็นห่วงประชาชน เพราะจากตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่า นายกฯ ไปเร่งงานพระราม 2 จึงเกรงว่าการที่ตาลีตาเหลือกลุยจนไม่ระมัดระวัง มีการเร่งงาน อาจมีเหตุการณ์ของหล่นทับคนตาย คนเจ็บ ซึ่งเป็นเรื่องที่เห็นได้บ่อยครั้ง และเกิดซ้ำซากในสังคมไทย การที่ทำให้เสร็จเร็วคือดี แต่การที่มีคนบ่นทีเร่งที คือฉาบฉวย ไม่ใช่ทางแก้ปัญหาที่ดี การวางแผนงานล่วงหน้า การติดตามใกล้ชิด และยึดหลักมีมาตรฐานความปลอดภัยต่างหาก คือการแก้ปัญหาจบเร็วและดี
“พระราม 2 สร้างไม่เคยเสร็จ รถติดหนัก เศรษฐกิจสะเทือน การที่นายกฯ แสดงความห่วงใยประเด็นผลกระทบเรื่องเศรษฐกิจการท่องเที่ยวถือเป็นเจตนาที่ดี แต่การเร่งงาน เร่งอันตราย ทำลวกๆ จะก่อให้เกิดความเสียหายมากกว่าได้ จึงอยากให้ยึดเรื่องมาตรฐานความปลอดภัย และมองหาแนวทางกระตุ้นเศรษฐกิจในรูปแบบอื่นควบคู่กันไปด้วย”
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ศ.ดร.สุชัชวีร์ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรม และเป็นอดีตนายกสภาวิศวกร เคยออกมาแสดงความเป็นห่วงและเตือนถึงอันตรายและปัญหาในการก่อสร้างโครงการขนาดใหญ่ในกรุงเทพมหานครหลายโครงการ โดยเฉพาะอุบัติเหตุบนถนนพระราม 2 ซึ่งถือเป็นการก่อสร้างที่ยาวนานส่งผลกระทบต่อชุมชน ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ชีวิตคนกรุงเทพฯ ยังคงเสี่ยงตาย เสี่ยงบาดเจ็บได้ตลอดเวลา จากโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ทั่วกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
...
พร้อมกันนี้ ยังย้ำด้วยว่า หากมีการจัดตั้งองค์กรอิสระเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบ สอบสวนอุบัติเหตุขนาดใหญ่ต่างๆ รวมถึงรับเรื่องร้องเรียนจากประชาชน เพื่อที่หากมีเหตุการณ์เกิดขึ้นอีก ประชาชนสามารถร้องเรียนกับองค์กรนี้ได้ หรือเวลาเกิดเหตุการณ์สามารถนำคนผิดมาลงโทษและเยียวยาผู้ได้รับความสูญเสียอย่างเป็นธรรมได้ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการร่างกฎหมายฉบับนี้ โดยจะถือเป็นกฎหมายฉบับประชาชนอย่างแท้จริง.