“นายกฯ เศรษฐา” เผย ลงพื้นที่ไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ลุยอุตสาหกรรมฮาลาล มั่นใจปากท้องดีนำความสงบสุขเกิดขึ้นได้ พร้อมสั่ง 4 กระทรวงเร่งจัดทำผังเมืองใหม่ให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองที่เปลี่ยนไปกระตุ้นการลงทุน
วันที่ 27 ก.พ. 2567 เมื่อเวลา 10.20 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงการลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ระหว่างวันที่ 27-29 ก.พ. ว่าจะมีการตั้งคณะกรรมการอุตสาหกรรมอาหารฮาลาลแห่งชาติ และศูนย์อุตสาหกรรมฮาลาล เพื่อส่งเสริมผลิตอาหารของไทย เพื่อให้ได้รับการยอมรับในต่างประเทศ และถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวอีกด้วย และอย่างที่เคยทราบกันดี ตนเคยพูดคุยกับกษัตริย์บรูไน และนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะมีการพัฒนาศูนย์อาหารฮาลาลร่วมกัน ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะได้พูดคุยเรื่องนี้ เมื่อมีคณะกรรมการและศูนย์ผลิตสินค้ามาแล้ว จะทำให้ปากท้องของพี่น้องประชาชนทั่วประเทศดีขึ้น การลงพื้นที่ครั้งนี้จะมีหลายหน่วยงานร่วม มีวัตถุประสงค์ชัดเจน เราพูดถึงเรื่องของโอกาส เพื่อไปค้นพบเพชรเม็ดงามที่ซ่อนอยู่ และมีคุณค่าใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ดึงศักยภาพเหล่านั้นออกมา อะไรที่สามารถสร้างประโยชน์หรือสร้างเงินในกระเป๋าให้กับประชาชนในพื้นที่ก็จะทำ รวมถึงจะได้ส่งเสริมการท่องเที่ยว ผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น ทำให้ตลาดกว้างขึ้น ที่สำคัญที่สุดคือมีรายได้ที่ดีขึ้น ถ้านำไปแพร่หลายให้ทุกๆ คนได้รับทราบ ความต้องการซื้อก็จะสูงขึ้น ทั้งนี้ การท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ การมาเยี่ยมชมสิ่งที่สวยงามและเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างประชาชน เพื่อให้คนเจ้าของพื้นที่รักและภูมิใจในสิ่งที่ตัวเองมีอยู่ และทำให้ประชาชนนอกพื้นที่เกิดความรักและผูกพันกับผู้คนในดินแดนแถบนี้
...
“สิ่งที่สำคัญที่สุดที่รัฐบาลให้ความมั่นใจในเรื่องของเศรษฐกิจ ผมว่าถ้าเศรษฐกิจดี ไม่ว่าจะเรื่องการท่องเที่ยวและอื่นๆ ถ้าเราทำได้ดี ผมเชื่อว่าความสงบสุข สันติสุขก็จะเกิดขึ้นใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่คือ จุดประสงค์ใหญ่ในการลงพื้นที่” นายเศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เร่งแก้ไขและบูรณาการเร่งรัดหาแนวทางการจัดทำผังเมืองใหม่ให้มีความสอดคล้องกับการขยายตัวของเมืองที่เปลี่ยนไป และยกระดับเมืองรองเตรียมพร้อมในการลงทุนจากภายในและต่างประเทศ เพราะรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมการลงทุนและขจัดอุปสรรคข้อจำกัดการประกอบธุรกิจ อย่างไรก็ตาม ผังเมืองเก่ามีพื้นที่อยู่หลายสี และจัดทำมานานแล้ว ซึ่งอาจจะไม่เหมาะกับบริบทโลกปัจจุบัน ตัวอย่างเช่น จ.พังงา ที่จะก่อสร้างสนามบินอันดามัน แต่มีผังเมืองเก่าอยู่ มีรายละเอียดที่ยังไม่สามารถไปสร้างโรงงานในพื้นที่ดังกล่าวได้ ไม่ใช่แค่จังหวัดเดียว ยังมีอีกหลายจังหวัดที่มีลักษณะเช่นนี้ เราจึงต้องพูดคุยโดยเร็ว เพื่อหาข้อสรุปโดยเร็ว
ต่อมาเมื่อเวลา 11.30 น. นายกฯ พร้อมนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม และคณะ ได้เดินทางออกจากท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 ดอนเมือง (บน.6) เพื่อลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว “เที่ยวใต้ สุดใจ” ที่จ.ปัตตานี ยะลา และจ.นราธิวาส
โดยก่อนเดินทางนายกฯ ทวีตข้อความผ่าน X ว่า ตนเองเดินทางไปภาคใต้บ่อยครั้ง ประทับใจทั้งรอยยิ้ม และความจริงใจของพี่น้อง ภาคใต้มีศักยภาพรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นวัฒนธรรม สถานที่ท่องเที่ยว ที่สำคัญอาหารใต้อร่อยมากครับ ภารกิจลงพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 3 วันนี้ มีหัวใจสำคัญคือการสร้างโอกาส เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เจริญเติบโต พร้อมยกระดับการท่องเที่ยว ผมเชื่อว่า ในพื้นที่จ.ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็น Hidden Gems อีกมาก
รัฐบาลตั้งใจที่จะพัฒนาให้ 3 จังหวัด เป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันมีนักท่องเที่ยวรวม 1.68 ล้านคนต่อปี 15% เป็นชาวต่างชาติ หากเราเปิดวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ จัดงานอีเว้นท์ตลอดปี รวมถึงกิจกรรมกีฬา ส่งเสริม Soft Power อาหารฮาลาล ปลานิลสายน้ำไหล ผ้าบาติก พร้อมตั้งศูนย์ One Stop Service ในด่านศุลกากรเบตง เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุน และ ยกระดับสนามบินครับ ก็จะสามารถผลักดันให้พี่น้องมีรายได้มากขึ้น
นอกจากนี้ รัฐบาลจะส่งเสริมวัฒนธรรม ศาสนา ประเพณี และการเรียนรู้ของประชาชนในพื้นที่ให้อยู่ร่วมกันอย่างสันติผ่านวัฒนธรรมสังคมที่หลากหลาย เพราะสันติภาพ นำมาซึ่ง ความมั่งคั่งของประเทศชาติและพี่น้องประชาชน