วันนี้ผมต้องขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งกับ “แพตตี้” ปภังกร ธวัชธนกิจ โปรสาวไทย วัย 25 ปี ที่สามารถคว้า แชมป์ HONDA LPGA Thailand 2024 ครั้งที่ 17 ไปครองอย่างสมศักดิ์ศรีด้วยสกอร์ 21 อันเดอร์พาร์ ท่ามกลางเสียงเชียร์ของแฟนกอล์ฟชาวไทย แพตตี้เป็นคนไทยคนที่สองที่ได้ครองแชมป์นี้ในรอบ 17 ปี คนแรกคือ โปรเม-เอรียา จุฑานุกาล แต่ก็ต้องลุ้นกันจนถึงหลุมสุดท้าย แพตตี้ชิปจากข้างกรีนหลุม 18 เข้าไปดำด้วยความโล่งอก เฉือนเอาชนะ อัลบาเน วาเลนซูเอลา จากสวิส (20 อันเดอร์) ไปเพียงคะแนนเดียว

ผมไปออกรอบกับ แพตตี้ ในวันโปรแอมของรายการนี้ วันเสาร์ที่แล้ว ผมได้เขียนถึงแพตตี้ว่า ไดร์ฟดีและไกลมาก บางหลุมไดร์ฟไกลถึง 300 หลา เหล็กก็แม่นยำ “ถ้าพัตต์ดี จะมีโอกาสคว้าแชมป์ที่สองติดต่อกันแน่นอน และเป็นแชมป์ในบ้านด้วย” วันนี้แพตตี้ทำสำเร็จแล้ว ผมขอแสดงความยินดีด้วย สองสัปดาห์คว้าสองแชมป์ติดต่อกัน ได้เงินรางวัลไป 36 ล้านบาท เป็นเงินรางวัลจาก แชมป์แรกที่ซาอุดีอาระเบีย 27 ล้านบาท และ แชมป์ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ 9 ล้านบาท มีเล่นอีกสิบกว่ารายการทั้งปี

วันนี้เลยอยากเขียนถึง “8 วิสัยทัศน์” ของ นายกฯเศรษฐา ทวีสิน ที่ลุกขึ้นมา “จุดพลุ” IGNITE THAILAND ให้เป็น “8 HUB ของโลก” โดยเฉพาะ เรื่องท่องเที่ยวและกีฬา ก็ไม่รู้นายกฯเพิ่งจะคิดได้หรืออย่างไร จึงออกมาประกาศ “วิสัยทัศน์ประเทศไทย” แบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย หลังจากที่นั่งเก้าอี้นายกฯมา 6 เดือน ท่ามกลางเสียงบ่นว่าไม่มีผลงาน เอาแต่ทำตัวเป็น “พ่อนกขมิ้น” บินไปโน่นไปนี่ “นายกรัฐมนตรี” หรือ “ซีอีโอประเทศ” ควรต้องอยู่ในศูนย์อำนาจ เพื่อแก้ปัญหาประเทศในระดับมหภาค ระดับจุลภาค จึงจะเดินไปได้

...

การประกาศ วิสัยทัศน์ประเทศไทย 8 ข้อ แบบปุบปับของ นายกฯเศรษฐา ไม่มีอะไรที่เป็นของใหม่ ทุกรัฐบาลในอดีตทำมาหมดแล้วแต่ไม่สำเร็จ รัฐบาลลุงตู่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ถึงกับเขียนไว้ใน ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แต่ก็ไม่มีรัฐบาลไหนทำสำเร็จ ความจริงประเทศไทยมีความโดดเด่น มานานแล้วทั้ง การท่องเที่ยว การแพทย์ด้านสุขภาพ อาหาร การผลิตยานยนต์ หลายเรื่องทำมา 10 ปี 20 ปี ยังไม่สำเร็จ เช่น ท่องเที่ยว อาหาร อุปสรรคหลักคือ รัฐบาลและนักการเมือง เป็นรายละเอียดที่ต้องพูดกันยาวมาก

ไปดูวิสัยทัศน์แรกของนายกฯ ตั้งเป้าให้ไทยเป็นศูนย์กลางเมืองท่องเที่ยว (Tourism Hub) เนื่องจากไทยมีพื้นที่ใหญ่อันดับ 50 ของโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนอันดับ 8 ของโลก อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวสร้างรายได้กว่า 1 ใน 3 คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท หรือ 70% ของงบประมาณรายจ่ายประจำปี นายกฯเศรษฐา ประกาศว่า จะเฟ้นหา Soft Power ชูจุดขายเป็นเสน่ห์ของประเทศไทย ให้โดดเด่นในสายตาประชาคมโลก ทั้งด้าน ศิลปวัฒนธรรม เทศกาล คอนเสิร์ต งานภาพยนตร์ งานศิลปะ อาหาร วัฒนธรรม และที่น่าจับตามองคือ กีฬา และ ศิลปะป้องกันตัว ซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนไทย

นายกฯพูดแบบนี้ คนเลยรู้เลยว่า วิสัยทัศน์ที่ประกาศไปนั้น นายกฯเองก็ยังไม่รู้ว่าจะทำอะไรบ้าง ได้แต่พูดกว้างๆ “จะเฟ้นหา Soft Power” มาชูจุดขายประเทศไทย พูดแบบนี้ก็คงต้องเฟ้นไปอีกนาน ทั้งที่ไทยมีหลายอย่างที่เป็น Soft Power ในตัวเอง แต่นายกฯไม่รู้ เลยต้องไปเฟ้นหา แค่ทำสิ่งที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ก็สร้างรายได้มหาศาล ไม่ต้องเฟ้นหาให้เสียเวลา

เรื่อง “กีฬา” ผมได้เขียนเสนอไปหลายรัฐบาล รวมทั้ง รัฐบาลนายกฯเศรษฐา อยากชูประเทศไทยให้เป็น เมืองแข่งขันกอล์ฟ ซึ่งเป็น “Soft Power สากล” อยู่แล้ว แฟนกอล์ฟทั่วโลกมีมากมายและมีเงิน ชอบเที่ยวและชอบเล่นกอล์ฟ นายกฯเศรษฐาไม่เล่นกอล์ฟคงไม่รู้ สมัยก่อน จอห์นนี วอล์กเกอร์ คลาสสิก ก็มาจัดแข่งกอล์ฟที่ไทยทุกปี ทั้งที่ กรุงเทพฯ พัทยา ภูเก็ต เมืองไทยดังไปทั่วโลก ไทเกอร์ วูดส์ ก็มาแข่งการแข่งขันกอล์ฟ ฮอนด้า แอลพีจีเอ ไทยแลนด์ คือความสำเร็จที่เป็นตัวอย่าง ของเรามีอยู่แล้วไม่ต้องไปเฟ้นหาที่ไหน ขอเพียงรัฐบาลส่งเสริมจริงจัง ประเทศไทยก็เป็น “ฮับการท่องเที่ยวและกอล์ฟ” อย่างง่ายดาย.

“ลม เปลี่ยนทิศ”

คลิกอ่านคอลัมน์ "หมายเหตุประเทศไทย" เพิ่มเติม