"อนุทิน" รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย ร่วมวง ประชุมสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ ชี้ การรับรองคนด้วยคุณวุฒิวิชาชีพ ช่วยเสริมฐานราก สร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ให้คนไทยได้อย่างยั่งยืน
วันที่ 22 ก.พ. 2567 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) เข้าร่วมประชุมคณะกรรมการสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพวาระพิเศษ ซึ่งมีนายนคร ศิลปอาชา ประธานกรรมการสถาบัน นางสาวจุลลดา มีจุล ผู้อำนวยการสถาบัน และคณะกรรมการสถาบันเข้าร่วมประชุม โดยมีวาระการหารือภาพรวมการพัฒนากำลังคนของประเทศไทย แนวนโยบายการกำหนดค่าจ้างตามมาตรฐานอาชีพและระดับคุณวุฒิวิชาชีพ รวมถึงการบูรณาการเพื่อขับเคลื่อนงานในพื้นที่ 13 จังหวัดของประเทศไทย ภายใต้การกำกับดูแลของรองนายกรัฐมนตรี
...
นายอนุทิน ชี้ สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ มีทิศทางการดำเนินงานที่ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้ จากภารกิจหลักในการรับรองความรู้ ความสามารถ ทักษะในการทำงานของกำลังคน ซึ่งเป็นการยืนยันศักยภาพการทำงาน รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยเฉพาะในระดับภูมิภาคอาเซียน ที่ประเทศไทยสามารถเป็นศูนย์กลางที่มีความสำคัญในระดับภูมิภาคทั้งการขนส่ง ระบบโลจิสติกส์ต่างๆ โดยเฉพาะโครงการสะพานเศรษฐกิจเชื่อมทะเลอ่าวไทย-อันดามัน หรือ แลนด์บริดจ์ ซึ่งเป็นโครงการที่จะทำให้ประเทศไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เพราะจะทำให้เกิดการลงทุนเศรษฐกิจเติบโตอย่างเต็มที่ และสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ สามารถให้การรับรองคนตอบโจทย์การพัฒนากำลังคนคุณภาพเสริมสร้างความเชื่อมั่นในการลงทุนรองรับโครงการนี้ได้ เมื่อเกิดการจ้างงาน คนไทยมีงานทำ อุตสาหกรรมขยายตัว เพียงเท่านี้ก็สร้างความยั่งยืนให้กับประเทศได้
นายอนุทิน ยังกล่าวว่า ประเทศไทยยังมีโอกาสเติบโตเป็นศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ที่การบริการด้านสุขภาพของประเทศไทยก็เป็นเสมือน Soft Power ที่ต่างชาติให้ความนิยม ความชื่นชอบ ธุรกิจโรงพยาบาลจึงมีโอกาสทางเศรษฐกิจสูง และจะนำมาซึ่งการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว คนนำเที่ยว หรือไกด์ จึงมีความสำคัญ จะเป็นทิศทางที่ดีหากสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพเข้าไปให้การรับรองคนเหล่านี้ ก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยวได้
นายอนุทิน ย้ำว่า เงินบาทไทย ซื้อของไทย ใช้ในประเทศไทย ยังไงคนไทยก็จะได้จากเม็ดเงินที่หมุนเวียนภายในประเทศ และนี่คือการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เหนืออื่นใด คือ ต้องสร้างความมั่นคง สร้างรายได้ ทำให้คนไทยเกิดความยั่งยืนในการสร้างรายได้ ซึ่งทิศทางนโยบายต่างๆ จะขับเคลื่อนให้เกิดโครงการอีกมากในการพัฒนาประเทศ จึงจำเป็นที่ต้องวางรากฐานที่มั่นคงให้กับคนไทย หลักการของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ คือการเติมทักษะ ให้การรับรอง และสามารถนำใบคุณวุฒิวิชาชีพไปใช้ในการประกอบอาชีพได้เสมือนใบปริญญา เมื่อพัฒนาคนให้ดี มีโอกาส ช่องทางให้เกิดการจ้างงาน ทำให้คนมีรายได้อย่างยั่งยืน เพียงเท่านี้ก็สามารถช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับคนในประเทศไทยและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้เช่นกัน
ทั้งนี้ในการประชุมได้มีการนำเสนอผลการศึกษาแนวทางการพัฒนาสมรรถนะแรงงานของประเทศไทยด้วย Competency-base payment โดยสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ซึ่งเห็นตรงกันว่าเป็นแนวทางที่สามารถนำไปสู่การกำหนดค่าจ้างตามมาตรฐานอาชีพได้ในอนาคต