“เศรษฐา” ย้ำ “ทักษิณ” เข้าเกณฑ์พักโทษทุกข้อของกรมราชทัณฑ์ ยันเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมขอคำปรึกษาหากออกมา เชื่อ “อิ๊งค์” จะเอาคำแนะนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศได้ เผยไม่ทราบปล่อยตัววันใด

วันที่ 13 ก.พ. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ระบุว่า นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีชื่อได้รับการพักโทษว่า ตามที่มีการนำเสนอข่าว นายทักษิณมีชื่อเข้าข่ายได้รับการพักโทษ ก็ถือว่าเป็นทางการแล้วว่า อดีตนายกฯ ได้รับการพักโทษ ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบของกรมราชทัณฑ์อยู่แล้ว 

เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังมีกลุ่มเคลื่อนไหวที่คัดค้านการพักโทษ นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราว่าไปตามกฎหมาย นายทักษิณเองก็เป็นอดีตนายกฯ มาหลายปีและเป็นคนที่มีประโยชน์กับประเทศชาติ และทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน เป็นนายกฯ ที่ได้รับความนิยมชมชอบอย่างสูงที่สุดท่านหนึ่งในประวัติศาสตร์ของการเมืองไทย และจริงๆ แล้วเมื่อท่านออกมาแล้ว ก็เป็นประชาชนคนธรรมดาคนหนึ่ง เรื่องในอดีตก็ถือเป็นเรื่องในอดีตไป ได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายไปเรียบร้อยแล้ว 

“ท่านเองก็มีลูกมีหลาน ลูกสาวคนเล็กก็เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ผมเชื่อว่าท่านจะมีคำแนะนำดีๆ ที่จะให้เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์ ผมเชื่อว่าลูกก็จะนำมาใช้เป็นประโยชน์ในการบริหารประเทศได้ และปัจจุบันท่านก็มีหลาน 7 คน ในฐานะที่เป็นพ่อคนผมก็เข้าใจ ความรักที่คุณปู่หรือคุณตามีให้กับลูกหลาน ก็ถือเป็นสิทธิ์ของท่าน ยืนยันว่าทำตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ทุกอย่าง” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่า กรณีกลุ่มที่เคลื่อนไหวที่เห็นต่างในเรื่องของนายทักษิณต่อเนื่อง จะทำให้เกิดปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนคิดว่าเราทำตามกฎหมายทุกอย่าง ทั้งในส่วนกฎหมายของกรมราชทัณฑ์เอง อย่าลืมว่านายทักษิณก็กลับมารับโทษอย่างชัดเจน ทุกอย่างเข้าเกณฑ์หมดทุกอย่าง ก็ว่าไปตามกฎหมาย เราอยู่ด้วยกฎของการอยู่ร่วมกัน คือการมีกฎหมาย 

...

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานหรือไม่ว่านายทักษิณจะได้รับการปล่อยตัววันใด นายกฯ กล่าวว่า ไม่ทราบเลยครับ ว่าจะได้รับการปล่อยตัวเมื่อไหร่ ตนเองก็ได้อ่านแค่พาดหัวข่าว ยังไม่ได้ดูว่าเป็นเมื่อไหร่อย่างไร 

เมื่อถามว่า ในอนาคตถ้ามีโอกาสขอคำปรึกษาจากนายทักษิณหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ตนพร้อมที่จะพูดคุยกับคนที่ทำประโยชน์ให้กับประเทศชาติทุกคน ทั้งพรรคตรงข้าม ฝ่ายตรงข้าม อดีตนายกฯ ทหาร ตำรวจ ในอดีตก็พูดคุยตลอดเวลา เพราะตนเข้ามาในรัฐบาลที่มีพรรคร่วมรัฐบาลเยอะ ปัญหาบ้านเมืองก็เยอะ ความชำนาญในการบริหารจัดการประเทศของแต่ละคน ก็มีไม่เท่ากัน บางเรื่องเรามีความรู้มาก บางเรื่องเรามีความรู้น้อย ก็พร้อมที่จะพูดคุยกับทุกคนที่มีความรู้ความสามารถ หรือผู้ที่เคยบริหารจัดการประเทศมา ก็ต้องดูเรื่องกฎหมายและอะไรหลายๆ เรื่องควบคู่ไปด้วย